เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา พ.อ.เฟื่องวิชช์ อนิรุทธ์เทวา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า สำนักงานเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของร้านเพชรแห่งหนึ่งย่านราชประสงค์ ว่าถูกทุบตู้เพชรโจรกรรมเครื่องเพชรไปในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งในวันนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดสิ่งของจากผู้ชุมนุมที่เข้าไปหลบในวัดปทุมวนาราม รวมถึงได้ยึดเพชร 2 ชุดของเจ้าของร้านเพชรรายนี้ไว้ด้วย ซึ่งเจ้าของร้านเพชรก็ได้แสดงตนและแจ้งยืนยันความเป็นเจ้าของไว้ก่อนทหารยึดไป เพื่อนำไปแถลงข่าวที่ ศอฉ. จากนั้นทหารทำบันทึกข้อมูลก่อนส่งมอบของกลางให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เซ็นรับ ซึ่งวันดังกล่าวเจ้าของได้เห็นทรัพย์สินของตนเองแล้ว แต่หลังจากนั้นเจ้าของร้านเพชรก็ไม่เห็นทรัพย์สินอีกเลย จึงเข้าร้องทุกข์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวันนี้ (20 ก.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผย ว่า ได้เรียกเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเก็บรักษาของกลางมาสอบถาม พร้อมพิจารณาเอกสารหลักฐานประกอบ ซึ่งการรับมอบของกลางที่ยึดคืนได้จากบริเวณวัดปทุมวนาราม มีการดำเนินการมาเป็นทอด ๆ แต่ตำรวจส่งมอบมาศูนย์
อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ และส่งมอบต่อมายัง ดีเอสไอ ซึ่งถือว่าเป็นปลายทางแล้ว
โดยจากการตรวจสอบรายการการรับมอบของกลางจาก ศอฉ. ไม่พบว่า มีรายการเครื่องเพชร 5,000,000 ล้านบาท ซึ่งเจ้าของร้านเพชรดังกล่าว อ้างว่าหายไปได้อย่างไร ส่วนเครื่องเพชรจะมีอยู่จริงหรือหายไปจริงหรือไม่ คงต้องรอผลการตรวจสอบจากเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก่อน
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวยืนยันอีกว่า ไม่ได้โยนความรับผิดชอบให้กับตำรวจหรือทหาร แต่ยอมรับว่าของกลางที่รับมอบมา มีเครื่องเพชร 1 กล่อง จำนวน 40 รายการ แต่ไม่ใช้เครื่องเพชรที่อ้างว่าหายไปแต่อย่างใด
