ต้นยาง
แฉปุ๋ยยางพาราป่วน อ้างการเมืองงุบงิบ (ไทยโพสต์)
ประมูลปุ๋ยยางพาราล็อตแรก 3 หมื่นตันป่วน อ้าง 2 นักการเมืองใหญ่หวังงาบส่วนต่าง 90 ล้านบาท โดยตีกันไม่ให้แกนนำสหกรณ์ชาวสวนยางเข้ามายุ่ง จี้ภาครัฐตรวจสอบด่วน
รายงานข่าวจากสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) เปิดเผยว่า สกย.เป็นผู้ดำเนินกิจการให้การสงเคราะห์การทำสวนยางและการสงเคราะห์ปลูกแทน ไม่แสวงหากำไร ช่วยเหลือชาวสวนยาง จัดตั้งสหกรณ์กองทุน โดยจัดสรรงบประมาณสร้างโรงผลิตยางแผ่นผึ่งแห้ง รมควัน เพื่อแปรรูปผลผลิต นอกจากนั้นยังจัดตลาดประมูลยางระดับท้องถิ่น เพื่อให้เกษตรกรและพ่อค้ามาซื้อขายผลผลิตที่ได้คุณภาพมาตรฐานและราคาที่เป็นธรรม พัฒนาองค์กรเกษตรกรชาวสวนยางให้เข้มแข็งมีศักยภาพ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในต้นเดือนสิงหาคม 2553 นี้ สกย.จะเปิดประมูลปุ๋ยยางพาราเพื่อนำไปใช้ในการสงเคราะห์การทำสวนยาง โดยในแต่ละปีจะใช้ประมาณ 6-7 หมื่นตัน โดยจะประมูลล็อตแรก 3 หมื่นตัน เป็นปุ๋ยคอมปาวด์สูตร 28-20 มีผู้ยื่นซองประมูล 5-6 ราย โดยปุ๋ยคอมปาวด์ในไทยที่ผลิตมีประมาณ 2-3 ราย ในขณะนี้อาจจะเหลือเพียงบริษัทเดียว แต่ถ้าเป็นปุ๋ยผสมจะมีหลายราย ผู้เข้าประมูลจะเกิดการแข่งขันกันได้ ฉะนั้นในการใช้ปุ๋ยคอมปาวด์วิตกว่าจะมีการล็อกสเปกเกิดขึ้น
รายงานข่าวแจ้งว่า ปกติที่ผ่านมานโยบายของ สกย.จะให้สถาบันเกษตรกรเป็นผู้เข้าไปประมูลกันเองโดยสหกรณ์ชาวสวนยางกลุ่มต่าง ๆ ทางกองทุนจะเป็นผู้มอบเงินให้และจะให้เงินสงเคราะห์กับชาวสวนยางไปซื้อปุ๋ยและวัสดุกันเอง ที่ต้องเปลี่ยนนโยบายเพราะมีข้อมูลว่าชาวสวนยางจะถูกให้ปุ๋ยปลอม จึงต้องเปลี่ยนให้ สกย.ดำเนินการกันเอง
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ในการประมูลครั้งนี้ ราคากลางปุ๋ยคอมปาวด์อยู่ที่ 19,000 บาท/ตัน ขณะที่ปุ๋ยสูตรเดียวกันอยู่ที่ 16,000 บาท/ตัน เกิดส่วนต่างกันตันละ 3,000 บาท ประมูลล็อตแรก 30,000 ตัน เป็นเงินประมูล 500 ล้านบาท ส่วนต่างเป็นเงิน 90 ล้านบาท ส่วนต่างตรงนี้ควรตกเป็นของเกษตรกร เพราะเป็นเงินของเกษตรกร รัฐบาลจึงควรเข้ามาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน เพราะมีการอ้างนักการเมืองระดับสูง 2 คนเข้ามาแทรกแซงนโยบายในการให้ สกย.ดำเนินการ และไม่ให้แกนนำสหกรณ์ชาวสวนยางเข้ามายุ่งเกี่ยว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก วิกิพีเดีย