x close

กัมพูชา อ้าง สุวิทย์ เซ็นยอมรับขึ้นทะเบียน เขาพระวิหาร



เขาพระวิหาร



เขาพระวิหาร



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          กัมพูชาเปิดเอกสารการประนีประนอมระหว่างไทย-กัมพูชา อ้าง สุวิทย์ ลงนามยอมรับกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร ด้านนายกฯ  ยืนยัน สุวิทย์ ไม่เคยลงนามให้ไทยเสียดินแดน เนื่องจากติดบันทึกข้อตกลง MOU 2543 

          จากกรณี นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ในฐานะตัวแทนประเทศไทย เดินทางไปเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ที่ประเทศบราซิล และกลับมาแถลงผลถึงความสำเร็จในการขอเลื่อนการพิจารณาแผนจัดการปราสาทเขาพระวิหาร ไปเป็นการประชุมปีหน้า ที่ประเทศบาห์เรน ขณะที่ นายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กัมพูชา ก็ได้แถลงข่าวว่าได้รับชัยชนะ เนื่องจากคณะกรรมการมรดกโลกได้รับแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารของฝ่ายกัมพูชาแล้วนั้น

          ล่าสุด ได้มีการนำเอกสารที่ทางกัมพูชาอ้างว่า ฝ่ายไทยลงนามสนับสนุนแผนบริหารจัดการดังกล่าวมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

          มติการประนีประนอมเสนอโดยประธานที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 34 (34 com 7B.66)

คณะกรรมการมรดกโลก


           1. ได้รับเอกสาร WHC-10/34.COM/7B.Add3 (เอกสารที่กัมพูชายื่นในปีนี้) แล้ว

           2. ‎ อ้างถึงมติคณะกรรมการมรดกโลก 3 ฉบับที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2550, 2551, และ 2552 (31 COM8.24, 32 COM 8B.12 และ 33 COM 7B.65)

           3. ‎ แจ้งให้ทราบว่าศูนย์มรดกโลกได้รับเอกสารหลายฉบับที่ยื่นโดยกัมพูชา 

           4. ‎ สิ่งที่จะดำเนินการต่อไป กัมพูชาจะจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนของปราสาทพระวิหาร

           5. ‎ตัดสินใจพิจารณาเอกสาร(ตามข้อ 3 ) ที่ยื่นเสนอโดยกัมพูชาในการประชุมครั้งที่ 35 ในปีหน้า

          ลงท้ายด้วยลายเซ็น นาย สุวิทย์ คุณกิตติ 29/07/2010 นาย ซก อาน 29/07/2010 Juca Ferreira BSB 29/07/2010

          ทั้งนี้ จากการตรวจสอบมีความเป็นไปได้ว่า การที่คณะกรรมการมรดกโลกเลื่อนการพิจารณาแผนจัดการเขาพระวิหารไปเป็นปีหน้านั้น เป็นเพราะกัมพูชายื่นเอกสารผิดระเบียบ เนื่องจากต้องยื่นให้คณะกรรมการมรดกโลกพิจารณาก่อนหกสัปดาห์ แต่ไม่ได้หมายความว่าเนื้อหาในเอกสารดังกล่าวไม่เป็นที่ยอมรับ ดังนั้น ทางรัฐบาลไทยจึงจำเป็นต้องจัดทำเอกสารโต้แย้งในทันที

          อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ออกมายืนยันในกรณีนี้อีกครั้ง ว่า นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่เคยลงนามให้ไทยเสียดินแดนในระหว่างการประชุมมรดกโลกที่บราซิลแต่อย่างใด เพราะยังติดสัญญา MOU ปี 2543 และยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีสิ่งใดซับซ้อน

          สำหรับกรณีของ นายวีระ สมความคิด ภาคีเครือข่ายประชาชนหัวใจรักชาติ ยื่นคำขาดให้รัฐบาลยกเลิก MOU ปี 2543 นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องยอมรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย โดยหากเป็นการผนึกกำลังกันก็จะทำให้ประสบความสำเร็จ แต่หากสะท้อนถึงความขัดแย้ง ก็จะมีผลกระทบให้ทำงานยากขึ้น

          ด้าน นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ก็ออกมาชี้แจงในกรณีดังกล่าวว่า ตนเองก็ยังสงสัยว่าชัยชนะของกัมพูชาคือตรงไหน ในเมื่อการลงนาม 5 ข้อ ของตนเองนั้น เป็นเพียงการลงนามรับทราบ เรื่องทั่ว ๆ ไป อย่างเช่น ผลประชุมกรรมการมรดกโลก หรือ รายงานการส่งเอกสาร เป็นต้น และที่ได้ทำการลงนามไปเป็นเพียงแค่ร่างสัญญาเท่านั้น ไม่มีภาระผูกพันทางกฎหมายแต่อย่างใด และตนขอยืนยันว่า ทางเราได้ส่งเอกสารไปคัดค้านอย่างชัดเจน ว่าต้องแบ่งแยกดินแดนให้ชัด และการลงนาม 5 ข้อ ดังกล่าว ก็ไม่ได้ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบแต่อย่างใด


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
      
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กัมพูชา อ้าง สุวิทย์ เซ็นยอมรับขึ้นทะเบียน เขาพระวิหาร อัปเดตล่าสุด 4 สิงหาคม 2553 เวลา 15:42:26 26,975 อ่าน
TOP