สนธิ ลิ้มทองกุล
เขมร แถลงขอไทยจัดการ สนธิ ลบหลู่ ฮุนเซน (ไอเอ็นเอ็น)
สำนักข่าว ดึมอัมปึล ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ จากลูกเสือกัมพูชา วานนี้ (3)ระบุว่า การประชุมสามัญ ครั้งที่ 2 ของเหล่าลูกเสือ เทศบาลและจังหวัด รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ต่อ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มคนเสื้อเหลือง ที่ได้กล่าวในรายการ ของ ASTV เมื่อคืนวันที่ 20 สิงหาคม ซึ่งระบุว่า ทีมงานของเขาได้จัดตั้งมูลนิธิ เพื่อทวงคืนปราสาทพระวิหารและอ้างว่าเป็นสิทธิตามกฎหมายของประเทศไทย นอกจากนี้ นายสนธิ ยังได้กล่าวหา สมเด็จฮุนเซน ว่าเป็นคนอกตัญญู พร้อมกล่าวโจมตีสมเด็จ อย่างรุนแรง
เราเหล่าสมาชิกของการประชุมลูกเสือ สมัยสามัญครั้งที่ 2 ไม่สามารถยอมรับการกล่าวหาของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งลบหลู่ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เหล่าลูกเสือกัมพูชาเห็นว่า การกระทำของสนธิ เป็นเหมือนการกระทำของอันธพาล ในสังคมไทย และจำเป็นต้องได้รับการตอบโต้ ขอแถลงความดังต่อไปนี้
1. เหล่าลูกเสือกัมพูชา เสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำเสื้อเหลือง ได้ใช้คำพูดที่ไม่อาจยอมรับ และไร้ซึ่งจรรยาบรรณ จากคำกล่าวว่า "ตัดหัวเอาเลือดมาล้างเท้าแล้วเสียบประจาน" คำเหล่านี้เคยถูกใช้เมื่อหลายพันปีก่อน แต่ตอนนี้ ศตวรรษที่ 21 ยังคงมีคนนอกกฎหมาย หรือ ป่าเถื่อนเช่นนี้ในสังคมไทย ที่ดูหมิ่นดูแคลนและลบหลู่ผู้นำแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
2. พิธีกรรมทางไสยศาสตร์ โดย สนธิ จะถูกย้อนไปหาเขาเองในวันหนึ่งโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เช่น การถูกลอบสังหารหลายครั้งในเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา และผู้ลอบสังหาร ก็ไม่เคยหยุดพัก ดังนั้น นายสนธิ ยังตกอยู่ในอันตรายอยู่ทุกเมื่อ
3. เหล่าลูกเสือกัมพูชา อยากจะเตือนต่อ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นประเทศที่เจริญแล้ว จึงไม่เหมาะสำหรับคนไร้ซึ่งจรรยาบรรณ
4. โลกของเราอยู่ในยุคโลกาภิวัฒน์และเสรีทางการค้า ด้วยเหตุนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทย จำเป็นต้องมีการประสานความร่วมมือที่ดี ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ไม่เหมือนหลายพันปีก่อน เมื่อคนยังใช้กฎป่าเถื่อน หรือ ตัดหัวเอาเลือดล้างเท้า
5. เหล่าลูกเสือกัมพูชา ต้องการขอร้องให้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล หยุดใช้คำพูดที่ไร้ซึ่งมโนธรรม ไร้เกียรติ เนื่องจากทั้งกัมพูชาและไทย ต่างนับถือศาสนาพุทธเหมือนกัน ทั้งคำพูดและการกระทำของสนธิได้ดูหมิ่นนายกรัฐมนตรีฮุนเซน อย่างแรง
6.เหล่าลูกเสือกัมพูชา ขอยืนยันว่า ไทย เป็นประเทศที่เจริญแล้ว และปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น การใช้ประชาธิปไตยในการแสดงความคิดเห็นควรกระทำ ในขอบเขตของการมีเกียรติ และ จรรยาบรรณ
7. สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นผู้นำของราชอาณาจักรกัมพูชา มาจากการเลือกตั้งในระบบประชาธิปไตยจากหลายพรรคการเมืองและได้รับการลงคะแนนเสียงสนับสนุน ท่วมท้นจากราษฎร สมเด็จฮุนเซน เป็นผู้รักในสันติและมีสติปัญญาสูง เป็นผู้มีความอดทน มีมโนธรรม และมีความกรุณาต่อทุกผู้คน ไม่เกี่ยงวัฒนธรรมและความเชื่อ
8. โดยพื้นฐานแล้ว เราเห็นว่า การกระทำของนายสนธิ เป็นการทำลายตัวเอง และเขาเป็นคนไทยหัวรุนแรง ปราศจากความเข้าใจประวัติศาสตร์และไร้ค่า เมื่อเปรียบกับ สมเด็จฮุนเซน
9. เหล่าลูกเสือกัมพูชา ขอเตือนด้วยว่า เพื่อผลประโยชน์ของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสองประเทศ รัฐบาลไทย ควรหามาตรการเร่งด่วนจัดการกับคนไร้มโนธรรมเช่นนี้
นอกจากนี้ ในช่วงท้ายของแถลงการณ์ ยังระบุถึง องค์กรลูกเสือโลกได้พยายามให้เยาวชน ให้มีความรักต่อกัน โดยไม่แบ่งเชื้อชาติ เพื่อบรรลุถึงสัญญาหนึ่งเดียว พร้อมอ้างถึงกฎ 10 ข้อของลูกเสือ ที่ระบุว่า ลูกเสือเป็นเพื่อนและพี่น้องกับลูกเสืออื่น
ซึ่งแสดงให้เห็นว่า โลกมีเป้าหมายในการสร้างสันติภาพ ให้คนรักกันเหมือนพี่น้อง แต่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ กำลังกระทำการชักจูงให้เกิดความเกลียดชัง การแบ่งแยก เหยียดเชื้อชาติ ผ่านการดูหมิ่นในที่สาธารณะต่อผู้นำประเทศ ผู้เป็นที่นิยมในหมู่ประชาชนในราชอาณาจักรกัมพูชา ลูกเสือกัมพูชา จึงขอให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย เร่งดำเนินการทางกฎหมายต่อนายสนธิ ให้หยุดลบหลู่ สมเด็จฮุนเซน ไม่เช่นนั้น หากรัฐบาลไทย ยังคงอนุญาตให้นายสนธิ ยังกระทำแบบเดิมอยู่ แสดงว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์ให้การสนับสนุนและปกป้องกลุ่มอันธพาล ซึ่งมีบุคลิกป่าเถื่อนและมีความต้องการให้เกิดสงครามกับกัมพูชา
