x close

เขตราชการสวมหมวกกันน็อก100%



เขตราชการสวมหมวกกันน็อก100% (ไทยโพสต์)

         ประกาศให้ทุกหน่วยราชการเป็นเขตสวมหมวกกันน็อก 100% ทั้งคนขี่และคนซ้อนเวลาเข้า-ออกต้องสวมหมวกกันน็อก สถิติปี 2552 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนกว่า 11,000 ราย คิดเป็นซิ่งมอเตอร์ไซค์กว่า 6,000 ราย เผยมีคนใส่หมวกกันน็อกเพียง 10 ล้านกว่าคน ส่วนคนซ้อนใส่เพียงกว่า 5 ล้านคน

         นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วยนายเทียนโชติ จงพีร์เพียร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และ ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ประธานคณะกรรมการกำกับทิศทางเครือข่ายลดอุบัติเหตุ สสส. แถลงข่าว "กิจกรรมรณรงค์ทศวรรษความปลอดภัยหมวกนิรภัย 100%" โดยกล่าวว่า ในปี 2554-2563 นี้ องค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน และประเทศสมาชิกกว่า 150 ประเทศได้ให้การรับรองคำประกาศเจตนารมณ์ปฏิญญามอสโก และตั้งเป้าลดอัตราผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนลงเหลือร้อยละ 50 ภายในปี 2563 ซึ่งรัฐบาลไทยได้ร่วมลงนามกรอบปฏิญญาดังกล่าวนี้ด้วย จึงได้ประกาศให้ปี 2554-2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน และกำหนดเป้าหมายลดอัตราการตายจากอุบัติเหตุให้ต่ำกว่า 10 คนต่อประชากรแสนคน ภายในปี 2563 

         มาตรการสำคัญที่ต้องเร่งผลักดันเป็นอันดับแรกคือ การส่งเสริมให้ผู้ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ "สวมหมวกนิรภัย 100%" กำหนดให้ปี 2554 เป็นปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย 100% และผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง ทั้งส่วนกลางและภูมิภาคกำหนดพื้นที่ของหน่วยงานเป็นเขตสวมหมวกกันน็อก 100% หัวหน้าส่วนราชการทุกแห่งกำชับให้ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ทุกคน ผู้ขับขี่ และผู้ซ้อนท้ายที่เดินทางผ่านเข้าออกบริเวณหน่วยงาน ทุกคนต้องสวมหมวกกันน็อก ไม่ว่าจะขับใกล้หรือไกลก็ตาม

         นางพรรณสิริกล่าวว่า ในแต่ละปีมีคนไทยบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนจำนวนมาก สถิติในปี 2552 ของสำนักระบาดวิทยา มีผู้เสียชีวิต 11,751 คน เฉลี่ยวันละกว่า 30 คน คิดเป็นอัตราตาย 18 ต่อประชากรแสนคน ซึ่งสูงกว่าระดับสากลที่มีอัตราตายไม่เกิน 10 คนต่อประชากรแสนคน โดย 3 ใน 4 เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือกว่า 6,000 ราย ซึ่งครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตเกิดจากบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง เนื่องจากไม่สวมหมวกกันน็อก และยังมีผู้บาดเจ็บจากรถจักยานยนต์เข้ารับการรักษาใน รพ. ปีละกว่า 7 แสนราย คิดเป็นเงินปีละกว่า 2,000 ล้านบาท และครึ่งหนึ่งเป็นค่ารักษาของผู้บาดเจ็บที่ศีรษะ

         ขณะเดียวกัน ผลสำรวจพฤติกรรมการสวมหมวกกันน็อกของมูลนิธิไทยโรดส์ใน 30 จังหวัดทั่วประเทศล่าสุดในเดือน ก.ค.2553 พบว่า ผู้ขับใส่เพียงร้อยละ 60 ส่วนผู้โดยสารใส่เพียงร้อยละ 30 กล่าวคือในกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ 17 ล้านคันขณะนี้ มีคนขับที่ใส่หมวกกันน็อกเพียงกว่า 10 ล้านคน ส่วนคนซ้อนท้ายไม่ใส่มากถึง 12 ล้านคน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชนจะสวมหมวกกันน็อกน้อยกว่าผู้ใหญ่ประมาณ 3 เท่าตัว ช่วงกลางคืนจะสวมน้อยกว่ากลางวัน จึงต้องรณรงค์ให้ประชาชนผู้ใช้รถจักรยานยนต์รักความปลอดภัยมากขึ้น โดยการสวมหมวกกันน็อกและคาดสายรัดคาง จะทำให้มีโอกาสรอดตายมากกว่าคนที่ไม่สวมถึง 4 เท่า และยังมีการศึกษาพบว่าผู้ที่ไม่สวมหมวกกันน็อกจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2.2 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่สวม






ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เขตราชการสวมหมวกกันน็อก100% อัปเดตล่าสุด 14 ธันวาคม 2553 เวลา 17:37:04 21,041 อ่าน
TOP