ภาพเหตุการณ์ แฟนบอล รุมทำร้าย ผู้ตัดสิน
ภาพเหตุการณ์ แฟนบอล รุมทำร้าย ผู้ตัดสิน
ภาพเหตุการณ์ แฟนบอล รุมทำร้าย ผู้ตัดสิน
คลิปข่าว บอลไทย กองเชียร์ตะลุมบอน - รุมยำกรรมการ
นายไชยา สะสมทรัพย์
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทีวีไทย , รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 , สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
"ไชยา สะสมทรัพย์" ทิ้งเก้าอี้ ประธานสโมสรฟุตบอลนครปฐมเอฟซีแล้ว ยันไม่อุทธรณ์ หลังทีมโดนโทษแบน ห้ามลงแข่ง 2 ปี ขอเอาเงินไปทำทีมฟุตบอลในลาวดีกว่า
นายไชยา สะสมทรัพย์ ในฐานะประธานสโมสรฟุตบอลนครปฐม เอฟซี เปิดเผย ไอ.เอ็น.เอ็น. ผ่าน เอ็มบี แชนแนล ภายหลัง สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีคำตัดสินแบนทีมนครปฐม ห้ามลงแข่งขัน 2 ปี โดยระบุว่าตนเองได้ลาออกจากการเป็นประธานสโมสรทีมฟุตบอลนครปฐมแล้ว ซึ่งได้ไปซื้อทีมฟุตบอลที่ประเทศลาว แทน เนื่องจากกรรมการที่ประเทศลาวมีคุณภาพ ซึ่งหากใครคิดจะมาทำทีมนครปฐมต่อ ตนเองก็ยินดีสนับสนุนให้เดือนละ 1 แสนบาท พร้อมข้าวสารอีกเดือนละ 5 กระสอบ ส่วนที่ตัดสินใจไปทำทีมฟุตบอลในต่างประเทศนั้น เพราะขยะแขยงกับคุณภาพของกรรมการไทยที่เป็นอยู่ ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้เคยทำหนังสือและCD ร้องเรียนการทำหน้าที่กรรมการไปแล้ว แต่ก็ไม่มีผลอะไรเกิดขึ้น
ส่วนเหตุการณ์ที่ผ่านมานั้น ตนเชื่อว่ามีการวางแผนมา เนื่องจากแข่งทุกครั้งตนจะจัดหาเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารมาคอยดูแล แต่ครั้งที่เกิดเรื่อง ปรากฏว่ามีสารวัตรทหารเดินทางมาจากกรุงเทพ ซึ่งการแข่งนัดอื่น ๆ ไม่เคยมา ขณะที่ก็อยากตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องที่เกิดขึ้น กรรมการถูกทำร้าย ตนอยากถามว่า หากคนดูไม่มองเห็นภาพการไร้คุณภาพของกรรมการจะพุ่งเป้าไปทำร้ายทำไม คนไม่เคยรู้จัก ไม่เคยพบหน้ากันจะไปทำร้ายกันทำไม พร้อมกับอยากฝากไปยังผู้เกี่ยวข้องว่า หากนักกีฬาทำผิด มีโทษใบเหลือง ใบแดง แต่ถ้ากรรมการไร้คุณภาพ จะทำอย่างไร ส่วนเรื่องโทษแบนนั้น นายไชยา กล่าวว่า คงไม่มีการอุทธรณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น
[29 ธ.ค.] ลงดาบ นครปฐม เอฟซี ห้ามแข่งทุกรายการ 2 ปี
สมาคมฟุตบอลฯ ลงดาบสั่งแบน นครปฐม เอฟซี ห้ามแข่งทุกรายการ 2 ปี ปรับอีก 150,000 บาท จากเหตุกองเชียร์ตะลุมบอน-ทำร้ายผู้ตัดสิน
พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะอุปนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาบทลงโทษ มีมติให้ตัดสิทธิ์ "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม เอฟซี ไม่ให้เข้าร่วมแข่งขันในทุกรายการ ทั้งไทยพรีเมียร์ลีก ดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 เป็นเวลา 2 ปี และปรับเงินอีก 150,000 บาท จากกรณีเกิดเหตุการณ์ตะลุมบอน หลังเกมเพลย์ออฟที่ลงเตะกับทีม "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนด 2 ปี แล้ว สามารถลงแข่งขันได้ แต่ถ้ามีพฤติกรรมแบบนี้ซ้ำอีกครั้ง จะถูกตัดสิทธิ์ด้วยการถอนทีมฯ ออกจากการเป็นสมาชิกของสมาคม
ส่วน นายธนากร ขำโขมะ หัวหน้าทีมสโมสรฟุตบอลนครปฐม เอฟ ซี หมายเลข 22 ตัดสิทธิ์ ห้ามร่วมลงแข่งขัน 1 นัด และปรับเงิน 1 หมื่นบาท จากกรณีด่าทอผู้ตัดสิน ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย
สำหรับกรรมการผู้ตัดสินฟุตบอล นัดดังกล่าว คณะกรรมการไทยพรีเมียร์ลีก เยียวยาด้วยการจ่ายค่าทำขวัญเป็นเงิน 100,000 บาท ให้กับผู้ตัดสินทั้ง 6 คน ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ เปิดเผยว่า รู้สึกน้อยใจ เนื่องจากได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว แต่ถูกมองว่าไม่เป็นธรรม พร้อมเรียกร้องให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับกรรมการผู้ตัดสินให้มากขึ้น
ด้าน นายไชยา สะสมทรัพย์ ประธานสโมสรฟุตบอล นครปฐม เอฟซี ให้สัมภาษณ์กรณีเกิดเหตุการณ์ตะลุมบอน ในเกมเพลย์ออฟไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้ผู้ตัดสินและกองเชียร์หลายคนได้รับบาดเจ็บ โดยยืนยันจะไม่ยอมขอโทษสมาคมผู้ตัดสินเด็ดขาด พร้อมทั้งระบุด้วยว่ากรรมการผู้ตัดสินมีการรับเงินหลายล้านบาทจากหลายสโมสร เพื่อวางแผนให้ นครปฐม เอฟซี เสมอกับศรีสะเกษในวันที่มาเยือนนครปฐม และวางแผนให้แพ้การแข่งขันในวันที่นครปฐมไปเยือนศรีสะเกษ
ขณะที่ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้มีผู้เข้าแสดงตัวว่า เป็นบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์รุมทำร้ายกรรมการ การแข่งขันฟุตบอลระหว่าง นครปฐม กับ ศรีสะเกษ เดินทางเข้ามอบตัว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ กับตำรวจจำนวน 6 คน ประกอบด้วย
1.นายฐานุพงศ์ หรือ โจ๊ย รังสิไตรพงศ์ อายุ 41 ปี ดารานักแสดงรับบทเป็นขุนช้าง ในเรื่องขุนแผน และเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.นครปฐม พรรคเพื่อไทย สมัยที่ผ่านมา
2.นายชัยศิริ หรือ หนึ่ง ดอยคำ อายุ 37 ปี
3.นายกิตติศักดิ์ หรือ เต้ย หรือ บี ศรีมนทก อายุ 32 ปี
4.นายยุมมาคาร หรือ ยู โคเกเคล อายุ 34 ปี
5.นายนิคม หรือ กรุงทองหอม อายุ 34 ปี
6.นายวิศาล หรือ อั๋น ลักษณ์ในธรรม อายุ 37 ปี โดยทั้ง 6 คน เป็นชาวจังหวัดนครปฐม และแสดงความประสงค์ไม่ขอไปให้การในชั้นศาล
โดย นายฐานุพงศ์ หรือ โจ๊ย รังสิไตรพงศ์ ได้ยอมรับว่า อยู่ในเหตุการณ์แต่ไม่ได้คิดทำร้ายใคร แค่ต้องการลงไประงับความวุ่นวายในฐานะคนชอบฟุตบอล และติดตามผลงานของสโมสรนครปฐม เอฟซี (หมูป่าเขี้ยวตัน) มาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เปิดเผยว่า หลายครั้งที่เกิดเหตุการณ์วุ่นวาย มาตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการมึนเมา ดังนั้นในอนาคต อาจเตรียมมาตรการตรวจวัดแอลกอฮอล์ก่อนเข้าสนามต่อไปด้วย
[28 ธ.ค.] มอบตัวแล้ว! ทหารอากาศชักปืนขู่ในสนาม
(28 ธันวาคม) พันจ่าอากาศเอก มือชักปืนโร่มอบตัวแล้ว ปัดทุกข้อกล่าวหา ขอให้การในชั้นศาล ด้านตำรวจออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุแล้ว 5 คน ขู่ไม่มาเจอหมายจับ ขณะที่นักเตะนครปฐม เอฟซี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กกรรมการตัดสินสมควรถูกสั่งสอน
จากกรณีที่แฟนบอลทีม "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม เอฟซี เข้ารุมทำร้ายร่างกาย นายอภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ ผู้ตัดสินฟุตบอล ในนัดที่ทีมนครปฐม เอฟซี เปิดสนาม ม.เกษตรฯ กำแพงแสน รับการมาเยือนของทีม "กูปรีอันตราย" ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ในการแข่งขันฟุตบอลนัดเพลย์ออฟ เพื่อหาทีมเลื่อนชั้นขึ้นไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2011 เนื่องจากไม่พอใจการตัดสินของผู้ตัดสินที่แจกใบแดงทีมนครปฐม เอฟซี ถึง 2 ใบในช่วงท้ายเกม และเป่านกหวีดหมดเวลาก่อนครบเวลาทดเจ็บ จนทำให้ทั้งสองทีมเสมอกันไป 0-0 ทำให้ทีมนครปฐม เอฟซี ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ที่จะไม่ได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้า
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้นายอภิสิทธิ์ ผู้ตัดสิน ได้รับบาดเจ็บ เช่นเดียวกับแฟนบอลทีมศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ที่ถูกรุมทำร้าย และถูกทุบกระจกรถได้รับความเสียหายเช่นกัน โดยวานนี้ ( 27 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดี โดยนำภาพจากสำนักข่าว และโทรทัศน์ที่บันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้ได้มาฉายบนจอ เพื่อพิจารณาหาตัวผู้กระทำผิด
โดย พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิ วงษ์ รอง ผบช.ภ. 7 กล่าวว่า ได้สั่งกำชับให้ดำเนินการตามกฎหมายกับทุกคนที่ทำผิดอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องคำนึงว่าใครมีนักการเมืองหนุนหลัง โดยจาการตรวจสอบพบว่า ผู้ที่ก่อเหตุร้ายแรงทำร้ายกรรมการมี 5 คน ซึ่งทราบชื่อหมดแล้ว และได้ให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกแล้ว หากไม่มาพบก็จะออกหมายจับทันที และเตรียมตั้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนได้รับอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ มีอัตราโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 4 พันบาท หรือทั้งจำและปรับ ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุอีกประมาณ 10 คนนั้น ต้องดูภาพให้แน่ชัดก่อนจึงออกหมายเรียกได้
พล.ต.ต.โสภณ กล่าวอีกว่า สาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ น่าจะเกิดจากอารมณ์ของกองเชียร์ ที่มองว่ากรรมการตัดสินลำเอียง และผลการแข่งขันนัดนี้ก็มีความหมายมาก เมื่อผู้เล่นของทีมถูกไล่ออก ทำให้กองเชียร์ยับยั้งอารมณ์ไม่ได้ แห่ลงไปในสนามจนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม นอกจากการสืบสวนหาผู้กระทำผิดรุมทำร้ายร่างกายกรรมการผู้ตัดสินแล้ว ยังปรากฎภาพของชายเชิ้ตขาวที่ถือปืนขึ้นมากลางวงเหตุชุลมุนด้วย ซึ่งล่าสุด วานนี้ พันจ่าอากาศเอก นพพร ศิริรังษี หรือ จ่าเอ้อายุ 41 ปี ทหารในสังกัดทหารอากาศ ฐานบินกำแพงแสน ซึ่งเป็นบุคคลที่ชักปืนในเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ได้เข้ามามอบตัวที่ สภ.กำแพงแสนแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนได้รับอันตรายต่อกายและจิตใจ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพา ซึ่งพันจ่าอากาศเอก นพพร ได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาล หลังจากมอบตัวแล้ว นายทหารพระธรรมนูญได้นำตัวกลับไปดูแลยังฐานบินกำแพงแสน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า พันจ่าอากาศเอก นพพร กำลังอยู่ในระหว่างทำเรื่องลาออกจากราชการ ซึ่งผู้บังคับบัญชากำลังพิจารณาอยู่ และรายงานยังระบุอีกว่า พันจ่าอากาศเอก นพพร มีความประสงค์จะไปเป็นผู้ติดตามนักการเมืองคนหนึ่ง
ขณะที่นายไชยา สะสมทรัพย์ ประธานสโมสรฟุตบอล "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม เอฟซี ยอมรับว่า ชายในภาพข่าวที่ยกปืนนั้น เป็นคนรู้จักของตนเองจริง ๆ แต่ที่ทำไป เพราะต้องการที่จะยุติเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายผู้ตัดสินแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งประเด็นที่คนวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมากในอินเทอร์เน็ต ก็คือ ได้มีนักฟุตบอลทีมนครปฐม เอฟซี รายหนึ่ง ได้โพสต์แสดงความในเฟซบุ๊ก ว่า ตนเองรู้สึกสะใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว และคิดว่า "เปาอ้น" อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ ผู้ตัดสินในเกมดังกล่าว สมควรถูกสั่งสอนแล้ว หากตัวเองต้องถูกลงโทษก็จะขอย้ายทีม … "สะจัยสุด ๆ สมควรโดนมานาน และอุตส่าออกสื่อไปนานแล้วนะ ว่านครปฐมมือปืนเยอะ ...... ยังไม่ฟังอีก สะจัยสาดดดด"
ทั้งนี้แหล่งข่าวรายงานว่า นักเตะนครปฐม เอฟซี คนนี้เป็นอดีตนักเตะของทีมพาณิชยการราชดำเนิน ก่อนที่จะขึ้นชั้นเป็นกัปตันทีมชาติไทย ชุดยู-19 ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีม บีอีซี เทโร แต่ไม่ได้รับโอกาสมากนัก หลังจากนั้นก็ได้ย้ายไปร่วมทีม จุฬา ยูไนเต็ด และ นครปฐม ยูไนเต็ด ซึ่งในปัจจุบัน เป็นนักเตะทีมชาติไทย ชุดปรี โอลิมปิก 2012
ขณะที่นายไชยา สะสมทรัพย์ ประธานสโมสรฟุตบอล "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม เอฟซี ยอมรับว่า ชายในภาพข่าวที่ยกปืนนั้น เป็นคนรู้จักของตนเองจริง ๆ แต่ที่ทำไป เพราะต้องการที่จะยุติเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายผู้ตัดสินแต่อย่างใด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก