เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Facebook Earthhour
"โลกร้อน" กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ผู้คนตื่นตัวกันมากในหลาย ๆ พื้นที่ทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ ทางกรุงเทพมหานครจึงได้จับมือกับ WWF ประเทศไทย และร่วมกับ 128 ประเทศ 4,616 เมืองทั่วโลกจัดกิจกรรม "ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60 Earth Hour 2011)" เพื่อเชิญชวนประชาชนช่วยกันปิดไฟเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2554 นี้ ระหว่างเวลา 20.30 - 21.30 น. เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นสาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อน โดยการไฟฟ้านครหลวงได้ให้ความร่วมมือในการวัดปริมาณการใช้ไฟฟ้า และปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ทั้งนี้ กิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เกิดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ.2550 ด้วยแนวคิดของ WWF ประเทศออสเตรเลีย และมีประชาชนในนครซิดนีย์ประมาณ 2.2 ล้านคน ร่วมกันปิดไฟ 1 ชั่วโมง ทำให้สามารถลดการใช้ไฟฟ้าลงได้ถึง 10.2% หรือเท่ากับลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนนไปถึง 48,000 คันต่อปีเลยทีเดียว ทำให้หลาย ๆ ประเทศ หันมาสนใจแคมเปญนี้ จึงนำไปสู่การจัดกิจกรรมนี้ใน 370 มหานครทั่วโลก จาก 37 ประเทศในปี พ.ศ.2551 ซึ่งรวมทั้งกรุงเทพมหานครด้วย
สำหรับโครงการนี้ในกรุงเทพมหานครถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยในปี พ.ศ.2551 พบว่า การปิดไฟ 1 ชั่วโมง สามารถลดการใช้ไฟฟ้าลงได้ถึง 73.34 เมกะวัตต์ หรือเทียบเท่ากับการปิดหลอดไฟฟ้าชนิดหลอดผอมขนาด 36 วัตต์จำนวน 2 ล้านหลอด จากนั้นในปี พ.ศ.2552 สามารถลดการใช้ไฟฟ้าลงได้ถึง 1,423 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4.31 ล้านบาท และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 897 ตัน
ส่วนปีที่แล้ว กิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมงนี้ ยังได้ขยายออกไปจัดในจังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่น นนทบุรี และภูเก็ตด้วย ซึ่งทำให้สามารถประหยัดไฟได้ถึง 2,042 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 5,800,000 บาทเลยทีเดียว และยังสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ถึง 1,215 ตัน
"ถึงเวลาในการร่วมกันสร้างจิตสำนึกในการใช้พลังงานอย่างประหยัด และมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มจากบ้านของตัวเอง ปิดไฟที่ไม่จำเป็น ลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น ทั้งนี้เพื่อตัวเอง เพื่อนร่วมโลก ที่สำคัญเพื่อโลกของเราให้ได้พักร้อนบ้าง"
อย่าลืม! 20.30-21.30 น. วันนี้ มาปิดไฟเพื่อให้โลกพักกันนะคะ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, การไฟฟ้านครหลวง , earthhourth.com 
