ก.พ.ออกระเบียบเปิดทางข้าราชการ ทำงานเอกชน






สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

           ก.พ. ออกระเบียบให้ข้าราชการอายุไม่เกิน 40 ปี และมีอายุงานไม่น้อยกว่า 5 ปี สามารถไปปฏิบัติงานกับเอกชนได้ มีผลบังคับใช้แล้ว

           เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2554 คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. ได้ออกประกาศระเบียบว่าด้วยการเพิ่มพูนประสิทธิภาพของข้าราชการโดยการให้ไป ปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ พ.ศ. 2554 โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 (5) และมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ซึ่งมีผลใช้บังคับแล้ว

           สำหรับ ระเบียบ ก.พ. ดังกล่าว ระบุว่า การให้ข้าราชการไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ เป็นการสมควรในการเพิ่มพูนประสิทธิภาพของข้าราชการ เพื่อให้มีความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ ทั้งนี้ ข้าราชการที่จะไปปฏิบัติงานกับหน่วยงานอื่น ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามหมวด 1 ข้อ 10 ดังนี้

           - อายุไม่เกินสี่ 40 บริบูรณ์ ในวันที่เริ่มปฏิบัติหน้าที่ที่หน่วยงานอื่นในประเทศ

           - รับราชการมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี

           - มีสมรรถนะสอดคล้องกับลักษณะงานที่จะไปปฏิบัติ และมีผลงานเป็นที่ยอมรับของผู้บังคับบัญชา

           - เป็นผู้ที่ผู้บังคับบัญชารับรองว่ามีความสามารถสูง มีความกระตือรือร้น สามารถเรียนรู้ได้เร็วในสภาพแวดล้อมใหม่ มีความประพฤติดีและตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ราชการ

           - ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกดำเนินการทางวินัย หรือเป็นจำเลยในคดีอาญาซึ่งมิใช่ความผิดลหุโทษหรือความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท

           - ถ้าเป็นผู้ที่เคยไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศมาแล้ว จะต้องกลับมาปฏิบัติราชการแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติ ให้ไปปฏิบัติงานในคราวก่อนนั้น

ส่วนระเบียบอื่น ๆ สำหรับ ข้าราชการที่จะไปปฏิบัติงานกับหน่วยงานอื่นในประเทศ มีดังนี้

     ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยการเพิ่มพูนประสิทธิภาพของข้าราชการ โดยการให้ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๔"

     ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ( 22 เมษายน 2554 )

     ข้อ 3 ในระเบียบนี้ "หัวหน้าส่วนราชการต้นสังกัด" หมายความว่า ปลัดกระทรวงในฐานะบังคับบัญชาสำนักงานปลัดกระทรวง ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะบังคับบัญชาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมหรือเทียบเท่ากรม

     ข้อ 4 หน่วยงานอื่นในประเทศที่จะให้ข้าราชการไปปฏิบัติงานตามระเบียบนี้ ได้แก่...

           (1) ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้น ตามพระราชบัญญัติพระราชกฤษฎีกา หรือตามมติคณะรัฐมนตรี

           (2) องค์การระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย

           (3) หน่วยงานภาคเอกชนที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและได้รับการจัดให้ มีดัชนีราคาในตลาดหลักทรัพย์ขนาดใหญ่สุดหนึ่งร้อยอันดับแรก หรือได้รับการจัดอันดับว่ามีธรรมาภิบาล ในระดับดีมาก หรือดีเลิศ

           (4) หน่วยงานภาคเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไร และมีองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ต่อภารกิจของส่วนราชการต้นสังกัด ตามที่ อ.ก.พ. กรมให้ความเห็นชอบ

           (5) หน่วยงานอื่นตามที่ ก.พ. กำหนด เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามระเบียบนี้ การไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ ให้หมายความรวมถึงการไปปฏิบัติงานในประเทศกับผู้ซึ่งหัวหน้าส่วนราชการต้น สังกัดเห็นว่ามีองค์ความรู้ในเชิงลึกที่เป็นประโยชน์กับภารกิจของส่วนราชการ และเป็นผู้ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ หรือได้รับรางวัลดีเด่นระดับชาติ หรือระดับนานาชาติ

     ข้อ 5 ให้ ก.พ. มีอำนาจกำหนดรายละเอียดเพื่อปฏิบัติตามระเบียบนี้ และวินิจฉัยปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากการใช้บังคับตามระเบียบนี้ รวมทั้งพิจารณายกเว้นการปฏิบัติตามข้อใดข้อหนึ่งแห่งระเบียบนี้ด้วย ทั้งนี้ คำวินิจฉัยหรือผลการพิจารณาของ ก.พ. ให้เป็นที่สุด

     ข้อ 6 ให้เลขาธิการ ก.พ. รักษาการตามระเบียบนี้

หมวด 1 การให้ข้าราชการไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ

     ข้อ 7 หัวหน้าส่วนราชการต้นสังกัดอาจสั่งให้ข้าราชการผู้สมัครใจไปปฏิบัติงานที่ หน่วยงานอื่นในประเทศตามระเบียบนี้ได้ โดยการไปปฏิบัติงานดังกล่าวต้องมีความสอดคล้องกับภารกิจ และทิศทางในการทำงานของส่วนราชการนั้น ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต และต้องสามารถเพิ่มพูนความรู้ทักษะ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ข้าราชการผู้นั้นสามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ราชการในส่วนราชการต้น สังกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผล

     ข้อ 8 การสั่งให้ข้าราชการไปปฏิบัติงานตามข้อ 7 หัวหน้าส่วนราชการต้นสังกัดต้องคำนึงถึงอัตรากำลังที่มีอยู่ โดยให้มีผู้ปฏิบัติงานเพียงพอ ไม่ให้เสียหายแก่ราชการ และจะนำเหตุ ดังกล่าวมาขอตั้งอัตรากำลังเพิ่มไม่ได้

     ข้อ 9 ส่วนราชการต้นสังกัดต้องกำหนดแผนพัฒนาเฉพาะบุคคลสำหรับผู้ไปปฏิบัติงานที่ หน่วยงานอื่นในประเทศให้สอดคล้องกับภารกิจของส่วนราชการทั้งในปัจจุบันและใน อนาคตและกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบที่จะมอบหมายให้ข้าราชการผู้นั้นปฏิบัติ เมื่อกลับจากการไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นดังกล่าว โดยการมอบหมายหน้าที่นั้นจะต้องสอดคล้องกับความรู้ ทักษะ และความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ที่ได้รับเพิ่มขึ้น เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานตามภารกิจของส่วนราชการ ต้นสังกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับแผนพัฒนาเฉพาะบุคคลที่กำหนด ไว้

     ข้อ 11 การสั่งให้ข้าราชการไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ ให้หัวหน้าส่วนราชการต้นสังกัดพิจารณาเรื่องดังต่อไปนี้

           (1) พิจารณาลักษณะงานของหน่วยงานอื่นในประเทศที่จะให้ข้าราชการไปปฏิบัติ ซึ่งจะต้องเป็นงานที่ข้าราชการไปปฏิบัติแล้วจะได้รับองค์ความรู้ ทักษะ และความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ตรงตามความต้องการของส่วนราชการต้นสังกัด ตลอดจนเหมาะสมกับหน้าที่ความรับผิดชอบที่ข้าราชการผู้นั้นได้รับมอบหมายใน ปัจจุบันหรือที่จะได้รับมอบหมายในอนาคต

           (2) พิจารณาลักษณะของหน่วยงานอื่นในประเทศที่จะให้ข้าราชการไปปฏิบัติงาน ซึ่งจะต้องเป็นหน่วยงานที่มีองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อภารกิจ ของส่วนราชการต้นสังกัด

           (3) พิจารณากำหนดระยะเวลาที่จะสั่งให้ข้าราชการไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นใน ประเทศซึ่งจะต้องไม่เกินหนึ่งปี ในกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็นเพื่อที่จะให้ได้ประสบการณ์มาใช้ในการปฏิบัติ หน้าที่ราชการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หัวหน้าส่วนราชการต้นสังกัดอาจพิจารณาขยายเวลาให้ปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่น นั้นต่อไปได้อีกไม่เกินหนึ่งปี

     ข้อ 12 ก่อนสั่งให้ข้าราชการไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ ให้ส่วนราชการต้นสังกัดจัดทำข้อตกลงความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นนั้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้

           (1) วัตถุประสงค์ แผนงาน โครงการที่จะให้ข้าราชการไปปฏิบัติงาน ขอบเขตของงานระยะเวลา และแผนการปฏิบัติงาน

           (2) การประเมินผลการปฏิบัติงานซึ่งต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ. กำหนดตามมาตรา 76 หรือตามที่ส่วนราชการต้นสังกัดและหน่วยงานอื่นนั้นจะได้ตกลงกัน โดยให้ส่วนราชการต้นสังกัดเป็นผู้ประเมิน และหน่วยงานอื่นที่รับข้าราชการไปปฏิบัติงานเป็นผู้ให้ข้อมูลและความเห็น ประกอบการประเมิน

           (3) ค่าตอบแทน สวัสดิการ และสิทธิประโยชน์อื่นที่ข้าราชการจะพึงได้รับจากส่วนราชการต้นสังกัดและจาก หน่วยงานอื่นในประเทศที่ไปปฏิบัติงาน ซึ่งต้องไม่มีผลให้ได้รับซ้ำซ้อนกัน

หมวด 2  การกำกับดูแล

     ข้อ 13 ข้าราชการผู้ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศตามข้อ 4 (2) (3) (4) (5) และวรรคสองเกินกว่าหกเดือน ต้องทำสัญญาตามแบบที่สำนักงาน ก.พ. กำหนด

     ข้อ 14 ในระหว่างที่ข้าราชการปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ การใดที่ข้าราชการจะต้องขออนุมัติ ขออนุญาต หรือขอความเห็นชอบตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือหลักเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด ข้าราชการดังกล่าวยังคงต้องถือปฏิบัติเช่นเดิม แต่ถ้าเป็นวันเวลาทำงาน วันหยุดตามประเพณี วันหยุดประจำปี และการลาหยุดในขณะที่ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศให้ถือปฏิบัติตาม ระเบียบของหน่วยงานอื่นนั้น

     ข้อ 15 ข้าราชการผู้ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศต้องปฏิบัติตามข้อตกลงความ ร่วมมือระหว่างส่วนราชการต้นสังกัดกับหน่วยงานอื่นที่ข้าราชการไปปฏิบัติงาน และต้องปฏิบัติตามระเบียบของหน่วยงานอื่นที่ไปปฏิบัติงานด้วย

     ข้อ 16 ข้าราชการผู้ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศผู้ใดไม่ปฏิบัติตามข้อ 14 หรือข้อ 15 ผู้บังคับบัญชาอาจพิจารณาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่าง ดังนี้

           (1) ตักเตือน หรือดำเนินการทางวินัยตามควรแก่กรณี

           (2) สั่งให้ยุติการปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นนั้นและให้กลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการ

     ข้อ 17 การไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศตามระเบียบนี้ให้ถือเป็นการปฏิบัติ หน้าที่ราชการ และผลการปฏิบัติงานดังกล่าวให้ถือเป็นผลการปฏิบัติราชการตามมาตรา 76 ในระหว่างการปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ หากหัวหน้าส่วนราชการต้นสังกัดเห็นว่าการให้ข้าราชการผู้ใดปฏิบัติงานนั้น ต่อไปจะไม่เกิดประโยชน์ตามความต้องการของส่วนราชการหรือผลการประเมินตามข้อ 12 (2) ปรากฏว่าข้าราชการผู้ใดไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง ส่วนราชการต้นสังกัดและหน่วยงานอื่น หัวหน้าส่วนราชการต้นสังกัดอาจสั่งให้ ข้าราชการผู้นั้นกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการก่อนครบกำหนดก็ได้

     ข้อ 18 เมื่อครบกำหนดเวลาที่ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศหรือถูกสั่งให้ กลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการก่อนครบกำหนดตามข้อ 16 (2) หรือข้อ 17 ให้ข้าราชการที่ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นรายงานตัวกลับเข้าปฏิบัติราชการ ในส่วนราชการต้นสังกัดโดยพลัน และจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานทั้งหมดเสนอต่อหัวหน้าส่วนราชการต้นสังกัด

     ข้อ 19 ให้ส่วนราชการต้นสังกัดจัดให้ข้าราชการที่ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นใน ประเทศดำเนินการเผยแพร่องค์ความรู้ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการไปปฏิบัติงานดังกล่าว

     ข้อ 20 เพื่อประโยชน์ในการบริหารทรัพยากรบุคคลของข้าราชการพลเรือน ให้หัวหน้าส่วนราชการต้นสังกัดแจ้งให้สำนักงาน ก.พ. ทราบ เมื่อ

           (1) ได้สั่งการให้ข้าราชการไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศแล้ว

           (2) ได้รับรายงานผลการปฏิบัติงานของข้าราชการดังกล่าวตามข้อ 18 แล้ว

หมวด 3 สิทธิของข้าราชการผู้ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ

     ข้อ 21 ข้าราชการผู้ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศตามระเบียบนี้มีสิทธิได้ รับค่าตอบแทน สวัสดิการ และสิทธิประโยชน์อื่นจากทางราชการตามกฎหมาย หรือระเบียบว่าด้วย การนั้น ตลอดจนมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนและประโยชน์อื่นจากหน่วยงานอื่นที่ไปปฏิบัติ งานตามข้อตกลง ความร่วมมือระหว่างส่วนราชการต้นสังกัดและหน่วยงานอื่น

      ประกาศ ณ วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2554   อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรี ประธาน ก.พ.




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
  
 



เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ก.พ.ออกระเบียบเปิดทางข้าราชการ ทำงานเอกชน อัปเดตล่าสุด 22 เมษายน 2554 เวลา 13:32:31 32,746 อ่าน
TOP
x close