เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก everytrail.com
จวกเละ! ทางการพอร์ตแลนด์ สั่งปล่อยน้ำในอ่างเก็บน้ำกว่า 30 ล้านลิตร เพราะกลัวน้ำไม่สะอาดจากปัสสาวะของคนคนเดียว
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน สำนักข่าวเอพี รายงานว่า ทางการเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอนของสหรัฐฯ ถูกประชาชนทั่วสหรัฐฯ ต่อว่าอย่างหนัก หลังหน่วยงานดูแลอ่างเก็บน้ำได้ปล่อยน้ำในอ่างเก็บน้ำกว่า 30 ล้านลิตรทิ้งไป เพียงเพราะพบคนปัสสาวะลงในน้ำเพียงคนเดียว
รายงานระบุว่า หน่วยงานที่ดูแลอ่างเก็บน้ำ ได้ตัดสินใจปล่อยน้ำในอ่างเก็บน้ำกว่า 30 ล้านลิตรทิ้งทันที หลังตรวจสอบจากกล้องวีดีโอวงจรปิด พบว่ามีชายวัยรุ่นคนหนึ่งปัสสาวะลงไปในน้ำ จึงเกรงว่าน้ำในอ่างเก็บน้ำจะไม่สะอาด และไม่ต้องการให้น้ำของชาวเมืองต้องปนเปื้อนคราบปัสสาวะ ซึ่งทางการได้ยืนยันว่า การปล่อยน้ำทิ้งไปนี้ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุดแล้ว เนื่องจากไม่ต้องการให้ชาวเมืองต้องใช้น้ำที่ไม่สะอาด แม้ว่าจะมีปริมาณของปัสสาวะที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลก็ตาม
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วสหรัฐฯ รวมถึงชาวเมืองพอร์ตแลนด์เองด้วย เนื่องจากประชาชนเห็นว่าการตัดสินใจปล่อยน้ำทิ้งกว่า 30 ล้านลิตรของทางการเมืองพอร์ตแลนด์ครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจที่ไม่สมควรแก่เหตุ โดยชาวเมืองหลายต่อหลายคนต่างมีความเห็นที่ตรงกันว่า การปล่อยน้ำทิ้งไปมากมายขนาดนั้น ถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เพราะปกติน้ำในอ่างเก็บน้ำก็ต้องมีสิ่งปฏิกูลจากสัตว์ปนเปื้อนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น นก เป็ด หรือแม้แต่สัตว์ต่าง ๆ ที่ตายอยู่ในฝายก็ตาม ขณะที่ชาวอเมริกันคนหนึ่งได้ให้ความเห็นไว้ว่า "มีผู้คนมากกว่าพันล้านคนทั่วโลกไม่มีน้ำดื่มใสสะอาดไว้ดื่มกิน แต่ที่นี่เรากลับปล่อยน้ำกว่า 30 ล้านลิตรทิ้ง เพียงแค่เอาใจคนไม่กี่คนที่เชื่อว่า ปัสสาวะจะทำให้น้ำในอ่างกลายเป็นสีเหลืองได้"
ด้านเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานสาธารณสุข กล่าวอธิบายว่า ปัสสาวะมนุษย์ที่มาจากคนที่มีสุขภาพดี ถือว่าปลอดภัย ปราศจากเชื้อโรค และปัสสาวะที่อยู่ในอ่างเก็บน้ำสามารถเจือจางไปได้ โดยปัสสาวะที่มีปริมาณเพียงแค่ 0.25 ลิตร ในปริมาณน้ำกว่าล้านลิตร ถือว่ามีอันตรายเพียงแค่เล็กน้อย หรือแทบจะไม่มีอันตรายเลยด้วยซ้ำ
ขณะเดียวกัน นายเดวิด ชาฟฟ์ หัวหน้าผู้ดูแลฝายกักเก็บน้ำ ได้กล่าวว่า ตามปกติแล้ว ทางอ่างเก็บน้ำนี้จะมีการระบายน้ำออก เพื่อทำความสะอาดสองครั้งต่อปี ซึ่งนั่นทำให้ทางเจ้าหน้าที่จะเจอกับสิ่งปฏิกูลหลายต่อหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ซากสัตว์ เศษวัสดุก่อสร้าง เศษขยะ รวมไปถึงถุงพลาสติกที่ใช้เก็บอุจจาระของสุนัขปะปนอยู่ด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
อย่างไรก็ดี แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไร แต่ทางอ่างเก็บน้ำเมืองพอร์ตแลนด์ก็ยังคงยืนยันว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ขณะที่ นาย จอช ซีตเตอร์ ชายหนุ่มวัย 21 ปี ตัวการสำคัญที่ปัสสาวะลงน้ำ และทำให้ทางอ่างเก็บน้ำต้องปล่อยน้ำทิ้งไปนี้ ได้ออกมากล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว โดยให้เหตุผลว่าในขณะนั้นตัวเขาอยู่ในอาการมึนเมา และคิดว่าอ่างเก็บน้ำเป็นบ่อบำบัดน้ำเสีย ขณะที่ทางการก็ไม่ได้ตั้งข้อหาเอาผิดนายจอชแต่อย่างใด
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก everytrail.com
จวกเละ! ทางการพอร์ตแลนด์ สั่งปล่อยน้ำในอ่างเก็บน้ำกว่า 30 ล้านลิตร เพราะกลัวน้ำไม่สะอาดจากปัสสาวะของคนคนเดียว
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน สำนักข่าวเอพี รายงานว่า ทางการเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอนของสหรัฐฯ ถูกประชาชนทั่วสหรัฐฯ ต่อว่าอย่างหนัก หลังหน่วยงานดูแลอ่างเก็บน้ำได้ปล่อยน้ำในอ่างเก็บน้ำกว่า 30 ล้านลิตรทิ้งไป เพียงเพราะพบคนปัสสาวะลงในน้ำเพียงคนเดียว
รายงานระบุว่า หน่วยงานที่ดูแลอ่างเก็บน้ำ ได้ตัดสินใจปล่อยน้ำในอ่างเก็บน้ำกว่า 30 ล้านลิตรทิ้งทันที หลังตรวจสอบจากกล้องวีดีโอวงจรปิด พบว่ามีชายวัยรุ่นคนหนึ่งปัสสาวะลงไปในน้ำ จึงเกรงว่าน้ำในอ่างเก็บน้ำจะไม่สะอาด และไม่ต้องการให้น้ำของชาวเมืองต้องปนเปื้อนคราบปัสสาวะ ซึ่งทางการได้ยืนยันว่า การปล่อยน้ำทิ้งไปนี้ เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุดแล้ว เนื่องจากไม่ต้องการให้ชาวเมืองต้องใช้น้ำที่ไม่สะอาด แม้ว่าจะมีปริมาณของปัสสาวะที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลก็ตาม
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วสหรัฐฯ รวมถึงชาวเมืองพอร์ตแลนด์เองด้วย เนื่องจากประชาชนเห็นว่าการตัดสินใจปล่อยน้ำทิ้งกว่า 30 ล้านลิตรของทางการเมืองพอร์ตแลนด์ครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจที่ไม่สมควรแก่เหตุ โดยชาวเมืองหลายต่อหลายคนต่างมีความเห็นที่ตรงกันว่า การปล่อยน้ำทิ้งไปมากมายขนาดนั้น ถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เพราะปกติน้ำในอ่างเก็บน้ำก็ต้องมีสิ่งปฏิกูลจากสัตว์ปนเปื้อนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น นก เป็ด หรือแม้แต่สัตว์ต่าง ๆ ที่ตายอยู่ในฝายก็ตาม ขณะที่ชาวอเมริกันคนหนึ่งได้ให้ความเห็นไว้ว่า "มีผู้คนมากกว่าพันล้านคนทั่วโลกไม่มีน้ำดื่มใสสะอาดไว้ดื่มกิน แต่ที่นี่เรากลับปล่อยน้ำกว่า 30 ล้านลิตรทิ้ง เพียงแค่เอาใจคนไม่กี่คนที่เชื่อว่า ปัสสาวะจะทำให้น้ำในอ่างกลายเป็นสีเหลืองได้"
ด้านเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานสาธารณสุข กล่าวอธิบายว่า ปัสสาวะมนุษย์ที่มาจากคนที่มีสุขภาพดี ถือว่าปลอดภัย ปราศจากเชื้อโรค และปัสสาวะที่อยู่ในอ่างเก็บน้ำสามารถเจือจางไปได้ โดยปัสสาวะที่มีปริมาณเพียงแค่ 0.25 ลิตร ในปริมาณน้ำกว่าล้านลิตร ถือว่ามีอันตรายเพียงแค่เล็กน้อย หรือแทบจะไม่มีอันตรายเลยด้วยซ้ำ
ขณะเดียวกัน นายเดวิด ชาฟฟ์ หัวหน้าผู้ดูแลฝายกักเก็บน้ำ ได้กล่าวว่า ตามปกติแล้ว ทางอ่างเก็บน้ำนี้จะมีการระบายน้ำออก เพื่อทำความสะอาดสองครั้งต่อปี ซึ่งนั่นทำให้ทางเจ้าหน้าที่จะเจอกับสิ่งปฏิกูลหลายต่อหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ซากสัตว์ เศษวัสดุก่อสร้าง เศษขยะ รวมไปถึงถุงพลาสติกที่ใช้เก็บอุจจาระของสุนัขปะปนอยู่ด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
อย่างไรก็ดี แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไร แต่ทางอ่างเก็บน้ำเมืองพอร์ตแลนด์ก็ยังคงยืนยันว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ขณะที่ นาย จอช ซีตเตอร์ ชายหนุ่มวัย 21 ปี ตัวการสำคัญที่ปัสสาวะลงน้ำ และทำให้ทางอ่างเก็บน้ำต้องปล่อยน้ำทิ้งไปนี้ ได้ออกมากล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว โดยให้เหตุผลว่าในขณะนั้นตัวเขาอยู่ในอาการมึนเมา และคิดว่าอ่างเก็บน้ำเป็นบ่อบำบัดน้ำเสีย ขณะที่ทางการก็ไม่ได้ตั้งข้อหาเอาผิดนายจอชแต่อย่างใด
