x close

เขมรขนรถถัง-อาวุธหนักเสริม อ้างไทยสั่งปิดจุดผ่านแดน

  


ทหาร

ผามออีแดง





สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

          กองกำลังทหารกัมพูชาเคลื่อนรถถังเสริมบริเวณรอบปราสาทพระวิหาร 25 คัน พร้อมอาวุธปืน ค. และปืนใหญ่ เสริมชายแดน โดยหันปากกระบอกปืน เล็งมาที่ผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ด้านเว็บไซต์กัมพูชาอ้างไทยสั่งปิดจุดผ่านแดนแล้ว

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์บริเวณชายแดน ด้านปราสาทพระวิหาร ทหารกัมพูชา ยังคงมีการตรึงกำลังในพื้นที่พิพาทรอบปราสาทเขาพระวิหาร โดยตลอดแนวด้านทิศตะวันตกของปราสาทพระวิหาร ทหารกัมพูชา ได้เคลื่อนรถถัง รุ่นที 55 จำนวน 5 คัน ขึ้นไปเสริมกำลัง โดยจอดรถถังติดกับปราสาทพระวิหาร หันปากกระบอกปืนเล็งมาที่ผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์

          ส่วนรถถังรุ่นที 54 และที 55 อีก 10 คัน ได้เคลื่อนมาเสริมกำลังที่บ้านโกมุย ต.กันตร๊วจ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ซึ่งเป็นฐานทัพกัมพูชา ที่อยู่ใกล้ปราสาทพระวิหารมากที่สุด ทั้งนี้ ยังมีรถถังรุ่นที 54 อีก 10 คัน จอดประจำการอยู่ริมเทือกเขาพนมดงรัก ฝั่งตรงกันข้ามกับช่องโดนเอาว์ ต.รุง อ.กันทรลักษ์

          ขณะเดียวกัน พล.ท.สรัย ดึ๊ก ผบ.กองพลน้อยสนับสนุนที่ 3 กองทัพบกกัมพูชา และ ผบ.ทหาร จ.พระวิหาร ได้สั่งการให้ ทหารกัมพูชาทยอยกันขึ้นมาเสริมกำลัง บริเวณรอบปราสาทพระวิหาร โดยให้มารายงานตัวที่ด้านหลังวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ห่างจากวัด 500 เมตร ก่อนกำลังทหารกัมพูชาส่วนหนึ่ง จะพากันแยกย้ายไปประจำการ ตามจุดที่เป็นที่ตั้งของปืนใหญ่ ปืน ค.60 และปืน ค.82 จุดละ 3-5 นาย รอบปราสาทพระวิหารด้านทิศตะวันตก ไปจนถึงช่องคานหัก พร้อมกับสร้างบังเกอร์ซีเมนต์ขนาดใหญ่ และเคลื่อนปืนใหญ่มาประจำการ ที่หน้าวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระด้วย

          จากนั้น ในเวลาต่อมา เว็บไซต์ Everyday.com.kh รายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทางการกัมพูชา ระบุว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้สั่งปิดจุดผ่านแดนที่เชื่อมต่อกับประเทศกัมพูชาแล้ว อันได้แก่ จุดผ่านแดน อู ชะร็อฟ (O'Chrov) และจุดผ่านแดนสวายจิก (Svay Chek) เช่นเดียวกับด่านพรมแดนใน ต.โคกสูง (Kork Tyoung) และ ต.ตาพระยา ใน จ.สระแก้ว ของไทย ก็ถูกปิดตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน

          ทั้งนี้ จากสถานการณ์ตึงเครียดที่เกิดขึ้น ส่งผลให้สถานการณ์การค้าขายบริเวณ ต.มาลัย จ.พระตะบอง ซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่เกิดความหวาดกลัวว่า จะเกิดการปะทะขึ้น นอกจากนี้ ยังเกิดภาวะขาดแคลนสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องนำเข้าจากไทย เป็นผลมาจากการปิดจุดผ่านแดนในพื้นที่ ต.มาลัย


ซ้อมรบ
ภาพการซ้อมรับของทหารกัมพูชา (แฟ้มภาพ)



[30 มิถุนายน] สื่อเขมรเผย ชาวบ้านแนวชายแดนเริ่มอพยพ (ไอเอ็นเอ็น)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยโพสต์

          สื่อเขมร เผย ชาวบ้านในจังหวัด บันเตียเมียนเจย ที่ติดชายแดนไทย จ.สระเเก้ว ได้อพยพออกจากบ้าน หลังข่าวความตึงเครียดแนวชายแดน เพิ่มมากขึ้น

          เว็บไซต์ พนมเปญโพสต์ สื่อหลักของกัมพูชา รายงานจากการเปิดเผยของ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแนวชายแดนของกัมพูชา ที่บอกว่า ชาวบ้านใน จ.บันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา ที่ติดชายแดนไทย ได้เริ่มอพยพออกจากบ้านกันมากขึ้น หลังข่าวความตึงเครียดแนวชายแดน โดย Ma Moa ผู้บัญชาการรองผู้อำนวยการ แห่งกองทัพกัมพูชา กล่าวเมื่อวานนี้ กองทัพของเขมร ได้เริ่มสร้างป้อมปราการ ตำแหน่งของพวกเขาที่บริเวณภูเขาตาเมือน ใกล้ชายแดน บันเตียเมียนเจย เพราะพวกเขาได้สังเกตเห็นกองทัพไทยเสริมกำลัง และได้รับการเตือนจากผู้บังคับบัญชาของพวกเขา โดยเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. พล.อ.กุนกีม เยี่ยมกองกำลังที่ประจำการใน บันเตีย อัมปึล และกล่าวว่า ในสองวัน ประเทศไทยจะโจมตีประเทศของเรา ดังนั้น เราจึงต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ เพจ สินาท หัวหน้าของหมู่บ้าน ทะมาร์ ดวน ในบันเตีย อัมปึล กล่าวว่า เมื่อวานนี้ ชาวบ้าน ที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนที่มีการขุดร่องลึกหลุมหลบภัยที่บ้านของพวกเขาแล้ว พวกเขาขุดเพื่อป้องกันตัวเอง

          ด้าน คาร์ลลีย์ เทย์เยอร์ อาจารย์ด้านการเมืองของมหาวิทยาลัย นิว ออฟ เซาธ์ เวลส์ กล่าวว่า
ความตึงเครียดที่ชายแดน เมื่อวานนี้ ได้ทำให้เกิดความกังวลในประเทศ และแม้ว่า ประเทศ ไม่ต้องการทำสงครามเต็มรูปแบบ โดยเขากล่าวว่ามันสามารถปะทุขึ้นได้

          ทั้งนี้ จังหวัดบันเตียเมียนเจย เคยเป็นจังหวัดพิบูลสงครามของไทย ซึ่งในปี ค.ศ.1907 สยามได้ยกพื้นที่นี้ให้แก่ประเทศฝรั่งเศส และรวมเข้าเป็นจังหวัดพระตะบอง ต่อมาในปี ค.ศ. 1988 จังหวัดบันเตียเมียนเจย จึงได้แยกออกจากจังหวัดพระตะบอง เดิมประกอบด้วย 5 อำเภอ คือ มงคลบุรี ธมโปก ศรีโสภณ พระเนตรพระ และพนมศก







 

[29 มิถุนายน] เขมรโวยไทยตั้งตนเป็นใหญ่ในภูมิภาค สร้างศัตรูไปทั่ว

          พล.อ.กุน กีม ผู้นำทางทหารระดับสูงของกัมพูชา กล่าวหาไทยตั้งตนเป็นใหญ่ในภูมิภาค สร้างศัตรูไปทั่ว กัมพูชาเป็นประเทศเล็ก แต่ไม่กลัว ส่วน พล.อ. เจีย ดารา โว คนกัมพูชา 14 ล้านเป็นทหารทั้งหมด บอกถ้าไทยรุกรานชุดเล็กก็โต้ชุดเล็ก ถ้าไทยจัดชุดใหญ่ก็โต้ชุดใหญ่

          เว็บไซต์ ฟิฟทีนมูฟ รายงานข่าว จากการรายงานของศูนย์ข่าวนครวัต วันที่ 28 มิถุนายน หลังพิธีรำลึกครบรอบครั้งที่ 60 ก่อตั้งพรรคประชาชนกัมพูชา โดย พล.อ.กุน กีม สมาชิกถาวรคณะกรรมการกลางพรรคฯ และเป็นประธานคณะทำงานช่วยเหลือ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา รวมทั้งเป็นรองผู้บัญชาการและเสนาธิการร่วม ในกองทัพแห่งชาติกัมพูชา และ พล.อ.เจีย ดารา สมาชิกคณะกรรมการพรรคฯ ได้นำตัวแทนพรรคฯ จ.อุดรมีชัย เดินทางเยี่ยมนายทหารและพลทหาร ที่ประจำการพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย และพื้นที่ทมอดูน อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย พร้อมตรวจสอบสภาพทางภูมิศาสตร์และการเตรียมการป้องกัน

          โดย พล.อ.กุน กีม กล่าวกับ ทหารกัมพูชาว่า เนื่องจากไทยพ่ายแพ้ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ที่กรุงปารีส ไทยข่มขู่ว่า ตนไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากถอนตัวออกจากองค์การยูเนสโก แล้วมาก่อสงครามที่ชายแดนกับกัมพูชา เปรียบเหมือนเป็นประเทศที่ไม่รู้และไม่เกรงกฎหมาย กระหายสงคราม ด้วยเหตุนี้ ในเวลาที่ไทย โจมตีทำสงครามกับกัมพูชาหลายครั้งนั้น ทั้งผู้นำ ทั้งพวกหลงประวัติศาสตร์ กำลังแสดงอำนาจ ตั้งตนเป็นใหญ่ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ และสร้างความเป็นศัตรูกับประเทศเพื่อนบ้าน 

          สำหรับกัมพูชา เป็นเพียงประเทศเล็ก ประเทศกำลังพัฒนา ก็ไม่ได้หมายความว่าจะกลัวไทย รัฐบาลกัมพูชาที่มีสมเด็จฮุนเซน ได้บัญชาการอย่างมีประสิทธิภาพในการสกัดกั้นกลศึกสงครามรุกรานของไทย และความต้องการที่จะครอบครองปราสาทพระวิหารร่วมกับกัมพูชา ซึ่งไม่อาจทำได้เลย เพราะไม่มีส่วนไหนที่ไทยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์

         
ขณะที่ พล.อ.เจีย ดารา บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ขอให้ผู้นำไทยยุติการเอาปัญหาชายแดนกัมพูชา การเอาดินแดนกัมพูชา โดยเฉพาะปราสาทพระวิหารของกัมพูชา ไปโยงกับความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศ ประเทศไทยกำลังมีการเลือกตั้งทั่วไป แต่กลายเป็นว่าได้เคลื่อนระเบิดเคลื่อนทหารมาที่ชายแดน ไม่เพียงเท่านั้น ยังใช้ภาษาข่มขู่ว่า จะก่อสงครามกับกัมพูชาอีกด้วย

          พล.อ.เจีย ดารา กล่าวต่อว่า กัมพูชามีประชาชน 14 ล้านคน กัมพูชาก็มีทหาร 14 ล้านคน หมายความว่า ประชาชนทุกคนเป็นทหาร ปัจจุบันกองทัพของสมเด็จเดโชได้เตรียมตัวพร้อมแล้ว มีขีดความสามารถและสมรรถภาพ ถ้าไทยเข้ามารุกรานดินแดนกัมพูชาขนาดเล็ก เราก็ตอบโต้แบบเล็ก ถ้าไทยรุกรานแบบใหญ่ เราก็ตอบโต้แบบใหญ่

          ขณะที่ รายงานของวิทยุเอเชียเสรี วันเดียวกัน อ้างทหารกัมพูชาที่ประจำการตามแนวชายแดน ตั้งแต่พื้นที่ใกล้ปราสาทพระวิหาร ไปจนถึงพื้นที่ปราสาทตาควาย ใน ต.โคกคปั๊ว อ.บันเตียอำปึล เปิดเผยว่า ทหารกัมพูชา มีการเฝ้าระวังและเตรียมพร้อม สำหรับการสู้รบรอบใหม่ ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา นับจากที่มีข่าวลือว่า ไทยเตรียมการใช้กำลังทหารโจมตีกัมพูชาอีกครั้ง

          ในเรื่องความขัดแย้งพรมแดน ทหารกัมพูชานายหนึ่ง ที่ประจำการชายแดนใกล้ปราสาทพระวิหาร กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. ผู้บัญชาการทหารกัมพูชา ที่ประจำจุดที่มีความขัดแย้งพรมแดนหลายครั้ง ได้สั่งการให้ทหารเพิ่มความระมัดระวังระวังและเตรียมพร้อมสู้รบ หากมีการเริ่มโจมตีก่อนอีกรอบจากทหารไทย ขณะที่ ทหารอีกนาย ที่ประจำการด้านปราสาทตาควาย จ.อุดรมีชัย เปิดเผยว่า พวกตนได้รับคำสั่งให้ระวังและเตรียมพร้อมสู้รบ แต่สถานการณ์เผชิญหน้าในพื้นที่ยังเป็นปกติ ไม่มีสิ่งผิดปกติจากทหารไทย ที่จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น

 




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เขมรขนรถถัง-อาวุธหนักเสริม อ้างไทยสั่งปิดจุดผ่านแดน อัปเดตล่าสุด 1 กรกฎาคม 2554 เวลา 16:29:09 70,292 อ่าน
TOP