ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
น่าเป็นห่วง เอแบคโพล ชี้คนส่วนใหญ่ยอมรับการทุจริตคอรัปชั่นได้ ถ้าจะทำให้ตนเองได้รับประโยชน์ด้วย
วันนี้ (20 กรกฏาคม) เอแบคโพลล์ ได้เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง ความต้องการของประชาชนต่อรัฐบาลชุดใหม่ ในการสร้างชาติโปร่งใส สร้างไทยซื่อตรง โดยได้สำรวจความคิดเห็นกรณี "รัฐบาลทุกรัฐบาลมีทุจริตคอรัปชั่นทั้งนั้น ถ้าทุจริตคอรัปชั่นแล้วทำให้ประเทศชาติรุ่งเรืองประชาชนกินดีอยู่ดี ตนเองได้รับประโยชน์ด้วย ก็พอยอมรับได้หรือไม่"
ทั้งนี้ ผลการสำรวจพบว่า มีความคิดเห็นที่ "ยอมรับได้" มากกว่า "ยอมรับไม่ได้" ถึงครึ่งเท่าเลยทีเดียว หรือร้อยละ 64.5 ขณะที่รับไม่ได้ 35.5 นอกจากนี้ยังพบว่า เมื่อจำแนกตามกลุ่มอาชีพ พบว่า กลุ่มนักเรียน-นักศึกษา ซึ่งเป็นผู้ได้รับการศึกษาที่จะมาช่วยพัฒนาประเทศต่อไปในวันข้างหน้า กลับเป็นกลุ่มคนที่มีเปอร์เซ็นต์ยอมรับการทุจริตได้มากกว่ากลุ่มอาชีพอื่น ๆ
ส่วนในหัวข้อที่ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เหมาะสมที่จะเป็นประธานรณรงค์สร้างชาติโปร่งใส สร้างไทยซื่อตรง อย่างจริงจังต่อเนื่อง หรือไม่นั้น พบว่า ร้อยละ 67.8 เห็นว่าเหมาะสม ส่วนอีก 32.2 ระบุว่า ไม่เหมาะสม
ในการนี้ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความสุขชุมชน กล่าวว่า น่าเป็นห่วงสำหรับสังคมไทย เพราะนี่คือสัญญาณเตือนภัยว่า คนไทยที่ได้รับการศึกษา กลับมีทัศนคติอันตรายมาก อันเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ดังนั้นแล้วแม้คนจะได้รับการศึกษามากขึ้นเท่าไหร่ แต่การปลูกฝังเรื่องความซื่อสัตย์กลับดำเนินไปในทิศทางที่ตรงกันข้าม
ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความสุขชุมชน กล่าวต่อว่า ผลการสำรวจดังกล่าว ยังสะท้อนให้เห็นถึง "ความเห็นแก่ตัว" หรือ ผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องต้องมาก่อนผลประโยชน์ของประเทศชาติ โดยมองแต่เฉพาะสิ่งที่ตนเองจะได้เฉพาะหน้าเท่านั้น เพราะถ้าพบเห็นคนอื่นทุจริตคอรัปชั่นก็จะเอาเรื่องเอาผิดถึงขั้นแจ้งความร้องเรียนดำเนินคดี แต่กับคนใกล้ชิดที่สนิทสนมด้วยก็จะปล่อยปะละเลยมองข้ามไป นอกจากนี้ คนยิ่งรวยขึ้นยิ่งมีทัศนคติยอมรับได้ ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่นแล้วพวกเขาได้ผลประโยชน์ตามไปด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก