ตำรวจพัทยา โต้ขังลืมนักโทษอังกฤษ ลั่นดูแลอย่างดี





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุนภาพประกอบจาก Andrew Drummomd 


          สภ.พัทยา โต้ข่าวขังลืมนักโทษอังกฤษ ลั่นดูแลอย่างดี เผยนักโทษเมื่อกลับอังกฤษไปแล้วยังส่งจดหมายมาขอบคุณ

          จากกรณีที่ หนังสือพิมพ์ซันเดย์ มิร์เรอร์ของประเทศอังกฤษ ได้เสนอจากคำกล่าวอ้างของนายริชาร์ต ฮิวอิตต์  อดีตวิศวกรคอมพิวเตอร์อายุ  49 ปี ว่า ถูกขังลืมอยู่ในคุกแห่งหนึ่งในประเทศไทย นานกว่า 8 เดือน ในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2553  โดยถูกจับในข้อหาวีซ่าหมดอายุ หลังจากไปพัวพันกับคดียาเสพติดและซื้อบริการทางเพศ  และตลอดระยะเวลาที่ติดคุกอยู่ ทางประเทศไทยไม่ได้มีการประสานงานติดต่อให้ขึ้นศาลแต่อย่างใด อีกทั้งยังปล่อยให้นายฮิวอิตต์  ถูกคุมขังอยู่ในสภาพเปลือย ผอมโซ เพราะถูกนักโทษคนอื่นแย่งอาหารกิน ก่อนที่กลุ่มเอ็นจีโอจะเข้ามาช่วยประกันตัวแล้วเนรเทศออกจากประเทศไทยตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลของนักโทษชาวต่างชาติ ตามเรือนจำและทัณฑสถานต่าง ๆ ทั่วประเทศ ปรากฏว่าไม่พบรายชื่อของนายฮิวอิตต์ แต่อย่างใด ซึ่งจากคำให้การดังกล่าว น่าจะเกิดการผิดพลาด และขอยืนยันว่านักโทษที่อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทุกรายไม่มีเรื่องทรมานตามที่นายฮิวอิตต์ ได้ให้ข่าวอย่างแน่นอน

          ทางด้าน พ.ต.ท.วัลลภ กังธาราทิพย์ พนักงานสอบสวน สบ3 สภ.พัทยา ได้กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องจับกุมนายฮิวอิตต์นั้น เนื่องจากมีประชาชนแจ้งเข้ามาว่า พบชาวต่างชาติท่าทางสติไม่ดี และมีอาการคลุ้มคลั่ง เดินไปมาอยู่แถวพัทยา จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมควบคุมตัวมาสงบสติอารมณ์ และจากการตรวจสอบพบว่า นายฮิวอิตต์ วีซ่าได้หมดอายุไปนานแล้ว เจ้าหน้าที่จึงต้องควบคุมตัวไว้ที่ห้องขังและนำตัวฟ้องต่ออัยการ  ในข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรเกินกฎหมายกำหนด พร้อมกับแจ้งเรื่องให้สถานฑูตอังกฤษทราบเรื่องด้วยเช่นกัน แต่ต่อมาทางอัยการได้ส่งตัวนายฮิวอิตต์กลับมาที่ สภ.พัทยา เนื่องจาก นายฮิวอิตต์ ไม่สามารถให้การใด ๆ ได้ รวมทั้งมีลักษณะคล้ายคนวิกลจริต

          พ.ต.ท.วัลลภ ยังกล่าวอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญนายแพทย์จากโรงพยาบาลพัทยา มาตรวจสอบอาการของนายฮิวอิตต์ โดยแพทย์ได้ระบุว่า นายฮิวอิตต์มีอาการทางประสาท ทางเจ้าหน้าที่จึงทำเรื่องส่งตัวไปรักษาที่สถาบันกัลป์ยาณ์ราชนครินทร์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งก่อนหน้าที่จะเดินทางไปรักษานั้น เจ้าหน้าที่ได้คุมขังนักโทษจากประเทศอังกฤษอีกรายในห้องเดียวกัน และก่อนที่นักโทษคนดังกล่าวจะได้รับประกันตัวออกไป ก็ได้ถ่ายรูปนายฮิวอิตต์ เก็บไว้ ซึ่งอาจจะนำไปเผยแพร่จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดก็เป็นได้

          อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พัทยายืนยันว่า ไม่เคยจับนายฮิวอิตต์ล่ามโซ่ และปล่อยให้เปลือยกาย และทิ้งไว้ให้ผอมโซอย่างที่เป็นข่าว อีกทั้งไม่ได้คุมขังนายฮิวอิตต์นานถึง 8 เดือนด้วย

          พ.ต.ท.วัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องดังกล่าวสามารถตรวจสอบได้เพราะระหว่างการควบคุมนายฮิวอิตต์ นั้น สถานฑูตอังกฤษได้มอบหมายให้ทนายเข้ามาดูและระหว่างรอพิจาร ณาส่งตัวกลับประเทศตลอดเวลา นอกจากนี้เมื่อนายฮิวอิตต์ ได้กลับบ้านเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่เมืองบราวน์ฮิลล์ เขตเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษแล้ว ยังได้ส่งจดหมายมาขอบคุณเจ้าหน้าที่สภ.พัทยาที่ช่วยดูแลขณะที่อยู่ในประเทศไทยอีกด้วย

          สำหรับข้อมูลที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ผู้รายงานข่าวนั้นก็คือ นายแอนดรูว์ ดรัมมอนด์ นักข่าวอิสระและช่างภาพสารคดีโทรทัศน์ประจำกรุงเทพ


[2 สิงหาคม] สื่อนอกแฉคุกไทยขังลืมฝรั่ง นานกว่า 8 เดือน

        สื่อนอกแฉคุกไทยขังลืมวิศวกรชาวอังกฤษ นานกว่า 8 เดือน ในสภาพเปลือยกาย-ผอมโซ  หลังจากที่ถูกจับในข้อหาวีซ่าหมดอายุ

        หนังสือพิมพ์ซันเดย์ มิร์เรอร์ของประเทศอังกฤษ วานนี้ (1 สิงหาคม) ได้เสนอจากคำกล่าวอ้างของนายริชาร์ต ฮิวอิตต์  อดีตวิศวกรคอมพิวเตอร์อายุ  49 ปี ว่า ถูกขังลืมอยู่ในคุกแห่งหนึ่งในประเทศไทย นานกว่า 8 เดือนแล้ว โดยถูกจับในข้อหาวีซ่าหมดอายุเพียงเท่านั้น และตลอดระยะเวลาที่ติดคุกอยู่ ทางประเทศไทยไม่ได้มีการประสานงานติดต่อให้ขึ้นศาลแต่อย่างใด ซึ่งจากคำกล่าวอ้างดังกล่าว ทำให้สถานฑูตประเทศอังกฤษ ส่งตัวนายฮาวเวิร์ด มิลเลอร์ กงสุลกิตติมศักดิ์ประจำพัทยา ไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

        แต่เมื่อไปถึง นายริชาร์ต ได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิ เมลิส ซา คอสโกรฟ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิดังกล่าวได้จ่ายค่าปรับในจำนวนเงิน 2,500 บาท พร้อมทั้งดูแลจัดหาเสื้อผ้า และทำเรื่องส่งตัวนายริชาร์ต ไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลจิตเวช ซึ่งใช้ในการฟื้นฟูเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะปฏิบัติตามคำสั่งส่งตัวนายริชาร์ตออกนอกประเทศ

        หนังสือพิมพ์ซันเดย์ มิร์เรอร์ ยังรายงานอีกว่า ประวัติส่วนตัวของนายริชาร์ตนั้น จบการศึกษาด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัย เชฟฟิลด์ สหราชอาณาจักร ฐานะทางบ้านค่อนข้างร่ำรวย นายริชาร์ตได้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2553 โดยได้พักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในพัทยา จ.ชลบุรี ก่อนที่จะถูกจับกุม

        ทั้งนี้ นายริชาร์ต กล่าวว่า ขณะที่ตนอยู่ในประเทศไทย ได้ถูกคุมขังไว้ในเรือนจำแห่งหนึ่ง ในสภาพเปลือยกาย และผอมโซ อีกทั้งยังถูกล่ามโซ่ให้ติดกับห้องขัง โดยไม่มีการสอบปากคำแต่อย่างใด และในระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ ตนมีอาหารประทังชีวิตเพียงน้อยนิด เนื่องจากถูกนักโทษคนอื่น ๆ แย่งอาหารไปจนหมด จากนั้นตนก็ได้รับการติดต่อจาก มูลนิธิ เมลิส ซา คอสโกรฟ ซึ่งเข้ามาช่วยเหลือตนจนทางการไทยปล่อยตัว และเนรเทศให้ตนกลับประเทศอังกฤษ

        นายริชาร์ต ยังกล่าวอีกว่า ก่อนที่ตนจะเดินทางกลับประเทศอังกฤษ ทางเจ้าหน้าที่สถานฑูตอังกฤษประจำประเทศไทย ได้ขอร้องให้ตนงดสัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งหมด ถึงแม้เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นจะผ่านมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ตนก็ยังจำฝังใจกับชะตากรรมที่ตนได้รับอย่างไม่รู้ลืม

        ทางด้านนายเบนนี โมอาฟี นักรณรงค์เพื่อสิทธิผู้ต้องขังในเรือนจำไทย ผู้ถ่ายภาพของฮิวอิตต์ กล่าวว่า ตนคิดว่า ถ้าไม่มีคนเข้ามาช่วยเหลือ เขาต้องถูกขังทิ้งตายในเรือนจำอย่างแน่นอน เพราะเขาไม่ได้รับการดูแลใด ๆ เลย ตอนที่ตนพบเขาครั้งแรก สภาพของเขาแทบเหมือนเหลือเพียงแค่โครงกระดูก อีกทั้งยังมีอาการคลุ้มคลั่งประสาทหลอนตลอดเวลา อย่างไรก็ดี ถึงแม้ขณะนี้เขาจะได้กลับบ้านแล้ว แต่มันจะดีกว่านี้หรือไม่ ถ้าทางการไทยจะสอบสวนเขา และเนรเทศเขากลับประเทศอังกฤษได้เร็วกว่านี้




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ตำรวจพัทยา โต้ขังลืมนักโทษอังกฤษ ลั่นดูแลอย่างดี อัปเดตล่าสุด 3 สิงหาคม 2554 เวลา 10:48:53 144,189 อ่าน
TOP
x close