x close

2 เมนูจากหอยจุ๊บแจงเด็ด ๆ ที่อร่อยเผ็ดซี๊ดถึงใจ


2 เมนูจากหอยจุ๊บแจงเด็ด ๆ ที่อร่อยเผ็ดซี๊ดถึงใจ
 
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการภัตตาคารบ้านทุ่ง และ ทีวีไทย

          หลายคนคงรู้จัก "หอยจุ๊บแจง" ที่วันนี้มันจะกลายมาเป็นเมนูอาหารอันโอชะให้หลายคนที่ชอบการจูจุ๊บ ได้จูจุ๊บกันอร่อยปาก  เพราะรายการภัตตาคารบ้านทุ่ง รายการสารคดีความรู้ที่เคียงคู่กับความอร่อย ได้ทำการค้นหาแหล่งต้นตอของอาหารอร่อย ๆ มาฝากคุณผู้ชมกันเป็นประจำ และเมนูรสเด็ดวันนี้ก็อยู่ที่ตำบลคลองโคน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นที่ที่เราจะออกตามล่าหา "หอยจุ๊บแจง" หอยพื้นบ้านประจำพื้นถิ่นที่หากินได้ไม่ง่าย มาพลิกตะแคงเอาความรู้ พร้อมเมนูรสเลิศ มานำเสนอกัน ว่าแล้วก็ตามมาดูกันเลยจ้า

          เริ่มต้นการเดินทางโดยการลง "เรือ" โลดแล่นลัดเลาะไปตามผิวน้ำในลำน้ำคลองโคน สองฟากฝั่งอุดมไปด้วยต้นแสม และ แน่นอนว่ามี "เจ้าลิมแสม" ปีนป่ายอยู่บนต้นไม้ เหมือนคอยต้อนรับคณะที่เดินทางมายังไงอย่างงั้น เมื่อลงเรือเพื่อออกสำรวจพร้อมกับวิทยากรผู้ให้ความรู้ ซึ่งได้บรรยายว่า หอยจุ๊บแจงนั้นจะอยู่ได้ทั้งตามพื้นโคลนและอยู่บนต้นไม้ ซึ่งหากน้ำท่วม หอยจุ๊บแจงก็จะหนีน้ำท่วมขึ้นบนต้นไม้นั่นเอง ยิ่งน้ำท่วมสูงขึ้นเท่าไหร่ หอยจุ๊บแจงก็จะหนีน้ำขึ้นต้นไม้ไปสูงเท่านั้น

          โดยธรรมชาติแล้ว หอยจุ๊บแจงใช่ว่าจะไม่ชอบน้ำ แต่ว่าไม่ชอบการแช่อยู่ในน้ำนาน ๆ ซึ่งหอยจุ๊บแจงจะหากินกับพื้นดิน แต่ก็ต้องมีน้ำขึ้นลงทุกวัน ตามลักษณะภายนอกนั้น หอยจุ๊บแจงจะมีฝาปิดอยู่อันเดียว มันจึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า หอยฝาเดียว โดยปกติ หอยจุ๊บแจงจะมีความยาวประมาณ 2 นิ้ว หากสังเกตใบหน้าของมันจะพบว่า มันมีงวงเล็ก ๆ ซึ่งใช้เป็นที่นำทาง ส่วนปากจะมีลักษณะบาน ๆ ติดอยู่กับฝา ซึ่งทำหน้าที่คายขี้ออกมาด้วย นอกจากนี้ วิทยากรได้ให้คำอธิบายเกี่ยวกับการกินของหอยจุ๊บแจงว่า หอยจุ๊บแจงจะกินอาหารตามหน้าดิน ซึ่งมีสารอาหารอยู่ โดยในส่วนที่เป็นสารอาหารนั้น ก็จะเก็บไว้ ส่วนที่เป็นกากอาหารนั้นก็จะค่อย ๆ คายออกมาเป็นขี้นั่นเอง

2 เมนูจากหอยจุ๊บแจงเด็ด ๆ ที่อร่อยเผ็ดซี๊ดถึงใจ

          ทางคุณลุงวิทยากรได้เปิดเผยว่า ตัวเขาได้ทำการรณรงค์ฟื้นฟู พลิกฟื้นป่าชายเลยมามากกว่า 10 ปีแล้ว สิ่งที่ได้คืนกลับมาจากการพลิกฟื้นฟูป่าชายเลนก็คือ เราได้ระบบนิเวศทางธรรมชาติที่เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์อ่อนที่สมบูรณ์กลับมาอีกครั้ง  ยกตัวอย่าง เช่น เราได้สัตว์ชายเลนต่าง ๆ กลับมามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หอยแครง ตัวเคย หอยชนิดต่าง  ๆ พูดได้ว่า ป่าชายเลน คือ ธนาคารอนุบาลสัตว์น้ำน้อยใหญ่เพื่อฟูมฟักให้เจริญเติบโต พูดได้คำเดียวว่า หากมีป่าก็มีทุกสิ่ง หากขาดป่าเพียงอย่างหนึ่งก็ขาดทุกอย่าง

          จากนั้น เราก็เดินลัดเลาะเลียบริมชมป่าชายเลน ที่ซึ่งต้นไม้แต่ละต้นนั้น ใช้เวลาเจริญเติบโตกว่า 10 ปี คุณลุงเล่าให้ฟังว่า หอยจุ๊บแจงไม่เคยหายไปจากป่าคลองโคนนี้มาตลอด 15 ปี แม้ว่าป่าชายเลนจะถูกทำลาย ต้นโกงกางถูกตัดไปมากมาย แต่ไม่เคยมีการปลูกแทนที่ กลับมีบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำผุดขึ้นมาแทนที่ แต่ทำไปเลี้ยงไป ชาวบ้านกลับขาดทุนขึ้นเรื่อย ๆ จนที่สุดก็ต้องยกเลิกไป เพราะชาวบ้านรู้ดีว่า ป่าชายเลน คือ แหล่งทำมาหากินที่สำคัญที่สุดนั่นเอง การเก็บหอยจุ๊บแจงยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ เผลอแป๊ปเดียว เก็บได้ตั้ง 1 ถัง พร้อมที่จะเอามาดัดแปลงทำเป็นเมนูอร่อย ๆ ให้คุณผู้ชมทั้งหลายได้รับประทานกันแล้ว ...

2 เมนูจากหอยจุ๊บแจงเด็ด ๆ ที่อร่อยเผ็ดซี๊ดถึงใจ

          ว่าแล้วก็อย่ารอช้า ถึงเวลาสำคัญ "เข้าครัว" นำหอยจุ๊บแจงมาทำเป็นเมนูสุดพิเศษ "จูจุ๊บ จุบแจง" ที่นำหอยจุ๊บแจงมาทำให้ยิ่งทวีความแรงให้น่ากิน อร่อยแซบสุดปลายลิ้น ถ้าใครพลาดไม่ได้กินถึงกับต้องพูดว่า "เฮ้ออ เสียดาย" กันเลยทีเดียว และเมนูนี้ วิธีทำก็ไม่ยาก มาดูกันเลย

          1. เตรียมส่วนผสมด้วยการหั่นพริกแห้งออกเป็น 2 ท่อนก่อนจะเอาไปแช่น้ำ เพื่อให้นิ่ม ปอกกระเทียม หั่นข่า หั่นตะไคร้ ซอยเสี้ยวผิวมะกรูดเอาแต่ที่เป็นสีเขียว

          2. นำส่วนผสมทั้งหลายไปโขลกรวมกันในครก หมายจะบดให้ส่วนผสมทั้งหลายเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน

          3. ปรุงรสด้วยเกลือป่น ก่อนจะเค็มอร่อยล้นด้วยการเติมกะปิชั้นดี จากนั้นก็หั่นกระชายลงบดในครกปิดท้าย

          4. เอาเนื้อปลาทูที่แยกก้างแล้ว ใส่ลงไปในครก เพื่อตำคลุกเคล้าให้เข้ากัน

          5. นำหอยมาหั่นก้นออก ก่อนจะเอามาลวกน้ำร้อน เพื่อเตรียมเอาไปแกง

          6. คั้นน้ำกะทิจากเนื้อมะพร้าวขาว ๆ เมื่อได้แล้วก็เอาไปตั้งไฟให้ร้อน ก่อนจะเอาส่วนผสมพริกแกงที่เตรียมไว้ใส่ลงไป คนให้เข้าเนื้อกัน

          7. ค่อย ๆ เติมหัวกะทิที่เคี่ยวข้นไปด้วยความหอมเติมลงไป เคล็ดลับ คือ อย่าปล่อยให้น้ำแกงมีมาก ให้เนื้อข้น ๆ เข้าไว้

          8. จากนั้นก็เอานางเอกของงานอย่าง หอยจุ๊บแจงลงไปในหม้อ แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊ปและน้ำปลา ก่อนจะใส่ใบโหระพาเพิ่มความหอมปิดท้าย

          ในที่สุด ก็ได้เวลาจุ๊บเนื้อหอยอร่อย ๆ กันเสียที รสชาติน่ะไม่ต้องพูดถึง เผ็ดร้อนถูกใจยั่วน้ำลายสอนักแล...

          ต่อมา เราจะมาทำเมนูน้องใหม่มาแรง ที่ทำแล้วต้องขึ้นระดับภัตตาคารอย่างเมนู "สองชะ ปะทะจุ๊บแจง" เมนูนี้จะออกมาอร่อยแรงอย่างไร มาดูวิธีทำกันเลย..

          1. เตรียมเครื่องเคียงที่มีทั้ง หอมแดง ขิง มะนาว ตะไคร้ มะม่วง มาฝานเตรียมไว้

          2. นำเส้นหมี่ไปลวกน้ำร้อนเพื่อให้นิ่มพอดี ก่อนตักน้ำกระเทียมเจียวลงไปคลุกเคล้าให้ได้รสชาติ และเพื่อให้เส้นไม่ติดกัน

          3. น้ำหอยจุ๊บแจงไปลวกน้ำร้อน ก่อนจะแงะเอาเนื้อหอยไปชุบแป้ง ต่อด้วยการเอาไปทอดให้กรอบ เพื่อเอามากินคู่กับเครื่องเคียงที่เตรียมไว้นั่นเอง

          4. ทำน้ำจิ้ม โดยการเตรียมพริกขี้หนู กระเทียม ลงไปโขลก เติมรสหวานด้วยน้ำตาลปี๊ป ผสานรสเปรี้ยวจี๊ดจากน้ำมะนาว

          5. จากนั้นก็เอาใบชะพลูมาพัน ใส่เส้นหมี่ลงไปชั้นแรก ตามด้วยหอยจุ๊บแจงทอด ก่อนจะโรยหน้าด้วยเครื่องเคียงต่าง ๆ และเติมรสชาติด้วยน้ำจิ้มรสเด็ดที่เตรียมไว้

          เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการทำเมนู "สองชะ ปะทะจุ๊บแจง" และพร้อมจะเอากระแทกปาก สัมผัสรสชาติเด็ดสะระตี่ จี๊ดจ๊าดถึงใจ ไม่แพ้เมนูแรกเลยทีเดียววว

          เป็นอย่างไรกันบ้างเล่า สองเมนูเด็ดจากหอยจุ๊บแจง ที่จัดจ้านซี๊ดซ้าดถึงใจกันขนาดนี้ วัถตุดิบ วิธีทำก็ไม่ยาก ดังนั้น อย่าพลาดที่จะลองทำดู แล้วจะรู้ว่า มันยั่วจนน้ำลายสอเลยทีเดียวเชียว  

          ส่วนคราวหน้า รายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง จะพาไปสรรหาเมนูอร่อยคู่กับความรู้ดี ๆ กันที่ไหน ก็สามารถติดตามกันได้ทุกวันอาทิตย์ เวลา 17.05 - 17.30 น. ทางทีวีไทย นะจ๊ะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

รายการภัตตาคารบ้านทุ่ง





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
2 เมนูจากหอยจุ๊บแจงเด็ด ๆ ที่อร่อยเผ็ดซี๊ดถึงใจ อัปเดตล่าสุด 30 กันยายน 2554 เวลา 10:39:04 28,081 อ่าน
TOP