สตีฟ จ็อบส์
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก oldcomputers.net, vectronicsappleworld.com, computermuseum.li, computerweekly.com, msn.com และ win7media.com
เมื่อเอ่ยชื่อของ "สตีฟ จ็อบส์" (Steve Jobs) อดีตซีอีโอของแอปเปิ้ลแล้ว แน่นอนว่าหลาย ๆ คนคงจะนึกถึงผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมายที่เกิดขึ้นจากความคิดขั้นสุดยอดของเขากันแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น "ไอพอด" (iPod) "ไอโฟน" (iPhone) "ไอแพด" (iPad) และอื่น ๆ อีกสารพัด ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลกมากมาย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กว่าที่ สตีฟ จ็อบส์ จะสร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่แอปเปิ้ลได้ขนาดนี้นั้น คุณรู้หรือไม่ว่าตัวเขาเองได้เคยสร้างผลิตภัณฑ์ที่ไม่เวิร์คและไม่สามารถตีตลาดได้มาแล้วเยอะแยะมากมาย และด้วยเหตุนี้เอง ทางสำนักข่าวเอพีจึงได้รวบรวมเอา 7 ผลิตภัณฑ์ของจ็อบส์ที่ตีตลาดไม่แตก มาไว้ให้ได้รับทราบกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ว่าจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย...
1. Apple III (1981)
หลังจากที่ "Apple II" ได้รับความนิยมชนิดที่ว่าประสบความสำเร็จแบบถล่มทลาย ซึ่งมุ่งเน้นไปที่กลุ่มธุรกิจและด้านราคาอย่างสอดคล้อง จ็อบส์ก็ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นมาใหม่พร้อมกับออก "Apple III" มาตีตลาดโดยทันที แต่ทว่า Apple III กลับไม่ฮอตฮิตเหมือนรุ่นก่อน เนื่องจากอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เป็นสิ่งที่ไว้ใจไม่ได้ ณ ขณะนั้น นี่เองจึงทำให้แอปเปิ้ลต้องสูญเสียตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือ "พีซี" (PC) ให้กับ "ไอบีเอ็ม" (IBM) ซึ่งเป็นคู่แข่งที่สำคัญในขณะนั้น ที่ได้ออกผลิตภัณฑ์แบบเดียวกัน และติดตลาดอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา
2. Lisa (1983)
Lisa เป็นคอมพิวเตอร์รุ่นแรกที่มีการผลิตออกมาเพื่อการพาณิชย์ ใช้ระบบการควบคุมและสั่งงานเครื่องโดยการใช้กราฟฟิก (Graphical User Interface) แต่ประทานโทษ แม้ว่าจะมีคุณสมบัติที่ล้ำหน้าเกินค่ายอื่น ๆ ไปมาก แต่การที่ตั้งราคาไว้สูงถึง 9,995 ดอลล่าร์สหรัฐ จึงทำให้ Lisa ไม่เป็นที่สนใจของกลุ่มตลาดแต่อย่างใด แถมยังทำให้ Lisa ตกเป็นรองคอมพิวเตอร์แม็คอินทอชที่มีราคาถูกกว่าไปตามระเบียบ
3. NeXT Computer (1989)
หลังจากที่ จ็อบส์ โดนบีบออกจากแอปเปิ้ลไป เขาได้สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาโดยใช้ชื่อว่า "NeXT Computer" ซึ่งมีลูกเล่นใหม่ ๆ ที่โดดเด่นและล้ำหน้าเกินค่ายอื่น ๆ แต่แล้วจุดจบของ NeXT Computer ก็เกิดขึ้นเหมือนกับ Apple III และ Lisa เพราะ NeXT Computer รุ่นนี้มีราคาที่สูงมากเกินไป แถมยังไม่เป็นที่นิยมกับกลุ่มผู้ใช้งานอีกด้วย
4. Puck Mouse (1998)
Puck Mouse ถือเป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่จ็อบส์คิดค้นขึ้น หลังจากกลับมาทำงานให้แอปเปิ้ลอีกครั้งในปี 1996 ทั้งนี้ Puck Mouse ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ด้วยรูปทรงที่กลม ๆ เล็ก ๆ แต่ก็สร้างความฮือฮาได้พอสมควร แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น Puck Mouse กลับไม่เป็นที่ประทับใจของผู้ใช้งาน เพราะรูปทรงและขนาดที่เล็กเกินไป จึงทำให้ใช้งานได้ยาก จนเสมือนหายเข้าไปในอุ้งมือเลยทีเดียว
5. The Cube (2000)
เริ่มต้นศักราชใหม่ในปี 2000 จ็อบส์ได้ออกคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปขนาดเล็กที่ใช้ชื่อว่า "The Cube" ด้วยดีไซน์ทรงลูกบาศก์ที่ทำจากพลาสติกใส อีกทั้งยังชนะการประกวดการออกแบบอีกต่างหาก แต่จนแล้วจนรอด แม้รูปทรงจะสวยงาม แต่เมื่อพูดถึงด้านการตลาดแล้ว The Cube ไม่ได้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากเท่าที่ควร และด้วยราคาที่สูงซะเหลือเกิน จึงไม่แปลกนักที่ผู้บริโภคจะเมินหน้าหนีกันไปตาม ๆ กัน อย่างไรก็ตาม ไอเดียของ The Cube ก็มีปรากฏใน "Mac Mini" ซึ่งเป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จมากกว่า แม้ว่าจะไม่ได้เป็นรุ่นที่โดดเด่นมากนักก็ตามที
6. iTunes phone (2005)
คุณรู้หรือไม่ว่าก่อนที่จะมีไอโฟนให้ได้ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกนั้น แอปเปิ้ลเคยผลิตโทรศัพท์ออกมาก่อนหน้านี้แล้ว ด้วยการจับมือกับ "โมโตโรล่า" (Motorola) ในการออกโทรศัพท์รุ่น "ROKR" ในช่วงปลายปี 2005 ด้วยคุณสมบัติพิเศษกับเครื่องเล่นเพลง "iTune" เพื่อเอาใจคนรักเสียงเพลงโดยเฉพาะ แต่ไป ๆ มา ๆ ก็กลับแป้กไม่เป็นท่า เนื่องจาก ROKR สามารถจุได้เพียง 100 เพลง และการถ่ายโอนเพลงจากคอมพิวเตอร์จากมือถือก็ใช้เวลานานเกินไป อีกทั้งยังโดนวิจารณ์ว่าไม่สามารถดาวน์โหลดเพลงลงโทรศัพท์รุ่นนี้ผ่านทางระบบเครือข่ายมือถือได้ ซึ่งถือเป็นข้อจำกัดที่เกิดกับไอโฟนรุ่นแรกด้วยเช่นกัน โดยผู้ใช้บางรายถึงกับตั้งชื่อให้ว่า ROKR "the iPhone"
7. Apple TV (2007)
ความพยายามในการเจาะกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เกิดความหลากหลายของแอปเปิ้ลก็มีให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะกับ "Apple TV" ด้วยแล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของแอปเปิ้ลที่อยากจะให้ประสบความสำเร็จเสียเหลือเกิน แต่ทว่า เจ้ากล่องเหลี่ยม ๆ เล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อทีวีเข้ากับเครื่อง Mac ภายในบ้าน และรีโมทคอนโทรลขนาดเล็ก ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถกดเล่นเพลงและภาพยนตร์จากเครื่องคอมพิวเตอร์ ให้ไปเล่นบนเครื่องทีวีได้นั้น ดันไม่ได้รับความนิยมตามที่ได้คาดหมายกันไว้ ด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งราคาที่สูงถึง 249 ดอลล่าร์สหรัฐ ความยุ่งยากในการติดตั้ง และการใช้งานที่ซับซ้อนอยู่ไม่น้อย แถมภาพยนตร์ที่ผู้ใช้ซื้อผ่าน iTunes ยังมีขนาดความละเอียดภาพต่ำ และแสดงภาพได้ไม่คมชัด หากเล่นบนเครื่องที่เป็นระบบเอชดี (HDTV)
อย่างไรก็ดี ในปี 2010 ที่ผ่านมา แอปเปิ้ลได้เปิดตัว Apple TV รุ่นใหม่ออกมา ซึ่งมีราคาที่ถูกลงกว่าเดิมมาก และมีการพัฒนากว่ารุ่นเดิม ด้วยฟังก์ชั่นการทำงานที่สามารถเชื่อมต่อกับโลกอินเทอร์เน็ตได้โดยตรง โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาติดตั้งนู่นนี่ให้ยุ่งยากเหมือนก่อนแต่อย่างใด
