
นครสวรรค์น้ำลด ปชช.เริ่มกลับเข้าบ้านแล้ว (ไอเอ็นเอ็น)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
เขต อ.เมืองนครสวรรค์ น้ำลด ประชาชนเริ่มกลับเข้าบ้านแล้ว ชาวบ้านวอนขยายเวลายื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือ
ที่ชุมชนวัดเขาจอมคีรีนาคพรต ต.นครสวรรค์ออก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ชาวบ้านในชุมชนเริ่มทยอยเดินทางกลับเข้าไปพักอาศัยภายในบ้านของตนเองแล้ว หลังจากที่ต้องพากันอพยพขึ้นไปอาศัยอยู่ภายในเต็นท์ ในบริเวณเชิงเขาจอมคีรีนาคพรต นานกว่า 2 เดือน เนื่องจากเทศบาลนครนครสวรรค์ ระดมเครื่องสูบน้ำกว่า 10 เครื่อง เร่งสูบน้ำออกจากชุมชนจนทำให้ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ติดกับแนวเขื่อนระดับน้ำสูงเพียง 30-50 ซม.
ส่วนชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ต่ำ ระดับน้ำยังเหลือประมาณ 1 เมตร เช่นเดียวกันกับที่ชุมชนบางปรอง แม้ว่าระดับจะยังคงสูงอยู่ แต่ชั้นสองของบ้าน ก็สามารถเข้าไปพักอาศัยได้แล้ว ทำให้ชาวบ้านบางรายตัดสินใจกลับเข้าไปอาศัยภายในบ้าน
ทั้งนี้ นายวีระ เชเดช ชาวบ้านชุมชนบางปรอง ได้กล่าวว่า อยากให้ทางจังหวัดขยายเวลาในการยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือจากทางรัฐบาล จากที่จะหมดเขตในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ ให้ขยายไปถึงสิ้นเดือน เนื่องจากยังไม่สามารถสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ เพราะน้ำยังคงท่วมชั้น 1 ของบ้านอยู่


[15 ตุลาคม] ตัวเมืองนครสวรรค์อ่วม! บางจุดท่วมสูงกว่า 1 เมตรแล้ว
นครสวรรค์ น้ำสูงกว่า 1 เมตรแล้ว (ไอเอ็นเอ็น)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
แม่น้ำเจ้าพระยายังคงทะลักเข้าตัวเมืองนครสวรรค์ต่อเนื่อง บางหมู่บ้านน้ำสูงกว่า 1 เมตร ต้องอพยพหนีน้ำกันอลหม่าน
สถานการณ์อุทกภัยที่ จ.นครสวรรค์ วันนี้ ยังน่าเป็นห่วง โดยน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยายังคงไหลเข้าท่วมพื้นที่เขต อ.เมือง อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้ชาวบ้านใน ต.นครสวรรค์ตก หมู่ที่ 4 ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ต้องขนย้ายข้าวของหนีน้ำท่วมอย่างอลหม่าน บางบ้านอาศัยชั้น 2 บางบ้านออกมาทำเพิงอาศัยข้างถนน
ส่วนระดับน้ำท่วมที่ถนนสวรรค์วิถีมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ชาวบ้านในหลายหมู่บ้าน เช่น หมู่บ้านท่าทอง หมู่บ้านดีพร้อม หมู่บ้านเรืองศรี นั้น ไม่สามารถใช้รถวิ่งสัญจรบนถนนได้ชาวบ้านต้องหันมาใช้บริการรถอีแต๊ก หรือเรียกว่า รถไถแทน

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
เขต อ.เมืองนครสวรรค์ น้ำลด ประชาชนเริ่มกลับเข้าบ้านแล้ว ชาวบ้านวอนขยายเวลายื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือ
ที่ชุมชนวัดเขาจอมคีรีนาคพรต ต.นครสวรรค์ออก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ชาวบ้านในชุมชนเริ่มทยอยเดินทางกลับเข้าไปพักอาศัยภายในบ้านของตนเองแล้ว หลังจากที่ต้องพากันอพยพขึ้นไปอาศัยอยู่ภายในเต็นท์ ในบริเวณเชิงเขาจอมคีรีนาคพรต นานกว่า 2 เดือน เนื่องจากเทศบาลนครนครสวรรค์ ระดมเครื่องสูบน้ำกว่า 10 เครื่อง เร่งสูบน้ำออกจากชุมชนจนทำให้ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ติดกับแนวเขื่อนระดับน้ำสูงเพียง 30-50 ซม.
ส่วนชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ต่ำ ระดับน้ำยังเหลือประมาณ 1 เมตร เช่นเดียวกันกับที่ชุมชนบางปรอง แม้ว่าระดับจะยังคงสูงอยู่ แต่ชั้นสองของบ้าน ก็สามารถเข้าไปพักอาศัยได้แล้ว ทำให้ชาวบ้านบางรายตัดสินใจกลับเข้าไปอาศัยภายในบ้าน
ทั้งนี้ นายวีระ เชเดช ชาวบ้านชุมชนบางปรอง ได้กล่าวว่า อยากให้ทางจังหวัดขยายเวลาในการยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือจากทางรัฐบาล จากที่จะหมดเขตในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ ให้ขยายไปถึงสิ้นเดือน เนื่องจากยังไม่สามารถสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ เพราะน้ำยังคงท่วมชั้น 1 ของบ้านอยู่


[15 ตุลาคม] ตัวเมืองนครสวรรค์อ่วม! บางจุดท่วมสูงกว่า 1 เมตรแล้ว
นครสวรรค์ น้ำสูงกว่า 1 เมตรแล้ว (ไอเอ็นเอ็น)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
แม่น้ำเจ้าพระยายังคงทะลักเข้าตัวเมืองนครสวรรค์ต่อเนื่อง บางหมู่บ้านน้ำสูงกว่า 1 เมตร ต้องอพยพหนีน้ำกันอลหม่าน
สถานการณ์อุทกภัยที่ จ.นครสวรรค์ วันนี้ ยังน่าเป็นห่วง โดยน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยายังคงไหลเข้าท่วมพื้นที่เขต อ.เมือง อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้ชาวบ้านใน ต.นครสวรรค์ตก หมู่ที่ 4 ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ต้องขนย้ายข้าวของหนีน้ำท่วมอย่างอลหม่าน บางบ้านอาศัยชั้น 2 บางบ้านออกมาทำเพิงอาศัยข้างถนน
ส่วนระดับน้ำท่วมที่ถนนสวรรค์วิถีมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ชาวบ้านในหลายหมู่บ้าน เช่น หมู่บ้านท่าทอง หมู่บ้านดีพร้อม หมู่บ้านเรืองศรี นั้น ไม่สามารถใช้รถวิ่งสัญจรบนถนนได้ชาวบ้านต้องหันมาใช้บริการรถอีแต๊ก หรือเรียกว่า รถไถแทน


[14 ตุลาคม] แม่ทัพภาค 3 ประกาศอพยพชาวนครสวรรค์ ฝั่งตะวันตก
แม่ทัพภาคที่ 3 ประกาศให้ ชาวนครสวรรค์ ฝั่งตะวันตก อพยพออกจากพื้นที่ หลัง ระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงกว่า 50 ซ.ม. ด้านถนนเอเชียตัดขาดแล้ว
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม จังหวัดนครสวรรค์ ล่าสุด พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่ 3 ได้แจ้งเตือนไปยังประชาชนชาวจังหวัดนครสวรรค์ ฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัย โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองให้เก็บสิ่งของขึ้นที่สูงและบ้านชั้นเดียวให้อพยพออกจากพื้นที่ หลังจาก เจ้าหน้าที่ ยังไม่สามารถซ่อมและปิดกั้นพนังกั้นน้ำที่ชำรุดได้ ทั้งนี้ สถานการณ์นั้นถือว่า ยังอยู่ในขั้นวิกฤติ เพราะน้ำจากเจ้าพระยา ได้ไหลทะลักจากสะพานเดชาติวงศ์ สูงกว่า 50 ซ.ม. ส่งผลให้พื้นที่โดยรอบ มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ น้ำไหลเข้าบริเวณ 4 แยกสะพานเดชาติวงศ์ ถนนเอเชีย สถานีขนส่งผู้โดยสาร สถานที่ราชการหน่วยงานสำคัญเกือบทั้งหมด นอกจากนี้ หลังจากที่มีการประกาศ ได้มีประชาชนแจ้งขออพยพออกจากพื้นที่จำนวนมาก ล่าสุด บริเวณ ซ.บ้านสวนรีสอร์ท เจ้าหน้าที่ทหารจาก กองทัพภาคที่ 3 ได้เข้าไปช่วยเหลือแล้ว เนื่องจาก น้ำได้ไหลท่วมจนเกือบมิดชั้น 2 ของบ้าน และน้ำไหลเชี่ยวอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม สำหรับความเป็นอยู่ในศูนย์อพยพ พบว่า เต็มเกือบทุกศูนย์ โดยมียอดผู้อพยพรวม ๆ กว่า 10,000 คน และคาดว่าตลอดทั้งคืน ก็มีการแจ้งขออพยพกันเพิ่มมากขึ้นอีก ขณะที่ น้ำดื่มยังขาดแคลนอย่างมาก เนื่องจาก ระบบประปาของทางจังหวัดเสียหายทั้งหมดและไม่สามารถผลิตน้ำได้ แม้ในวันนี้ เทศบาลนครสวรรค์ จะเร่งกู้โรงผลิตน้ำ แต่น้ำก็ไหลทะลักเข้าโรงงานไม่สามารถใช้การได้เลย
ส่วนแผนการสำหรับเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ อยู่ระหว่างการประชุมร่วมกันเพื่อวางแผนการทำงาน โดยเบื่องต้นจะต้องมีการตรวจสอบ ดูคนที่ติดอยู่ภายในบ้าน เพื่ออพยพมาอยู่ในที่ปลอดภัย

แม่ทัพภาคที่ 3 ประกาศให้ ชาวนครสวรรค์ ฝั่งตะวันตก อพยพออกจากพื้นที่ หลัง ระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงกว่า 50 ซ.ม. ด้านถนนเอเชียตัดขาดแล้ว
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม จังหวัดนครสวรรค์ ล่าสุด พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่ 3 ได้แจ้งเตือนไปยังประชาชนชาวจังหวัดนครสวรรค์ ฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัย โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองให้เก็บสิ่งของขึ้นที่สูงและบ้านชั้นเดียวให้อพยพออกจากพื้นที่ หลังจาก เจ้าหน้าที่ ยังไม่สามารถซ่อมและปิดกั้นพนังกั้นน้ำที่ชำรุดได้ ทั้งนี้ สถานการณ์นั้นถือว่า ยังอยู่ในขั้นวิกฤติ เพราะน้ำจากเจ้าพระยา ได้ไหลทะลักจากสะพานเดชาติวงศ์ สูงกว่า 50 ซ.ม. ส่งผลให้พื้นที่โดยรอบ มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ น้ำไหลเข้าบริเวณ 4 แยกสะพานเดชาติวงศ์ ถนนเอเชีย สถานีขนส่งผู้โดยสาร สถานที่ราชการหน่วยงานสำคัญเกือบทั้งหมด นอกจากนี้ หลังจากที่มีการประกาศ ได้มีประชาชนแจ้งขออพยพออกจากพื้นที่จำนวนมาก ล่าสุด บริเวณ ซ.บ้านสวนรีสอร์ท เจ้าหน้าที่ทหารจาก กองทัพภาคที่ 3 ได้เข้าไปช่วยเหลือแล้ว เนื่องจาก น้ำได้ไหลท่วมจนเกือบมิดชั้น 2 ของบ้าน และน้ำไหลเชี่ยวอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม สำหรับความเป็นอยู่ในศูนย์อพยพ พบว่า เต็มเกือบทุกศูนย์ โดยมียอดผู้อพยพรวม ๆ กว่า 10,000 คน และคาดว่าตลอดทั้งคืน ก็มีการแจ้งขออพยพกันเพิ่มมากขึ้นอีก ขณะที่ น้ำดื่มยังขาดแคลนอย่างมาก เนื่องจาก ระบบประปาของทางจังหวัดเสียหายทั้งหมดและไม่สามารถผลิตน้ำได้ แม้ในวันนี้ เทศบาลนครสวรรค์ จะเร่งกู้โรงผลิตน้ำ แต่น้ำก็ไหลทะลักเข้าโรงงานไม่สามารถใช้การได้เลย
ส่วนแผนการสำหรับเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ อยู่ระหว่างการประชุมร่วมกันเพื่อวางแผนการทำงาน โดยเบื่องต้นจะต้องมีการตรวจสอบ ดูคนที่ติดอยู่ภายในบ้าน เพื่ออพยพมาอยู่ในที่ปลอดภัย



[13 ตุลาคม] ระดับน้ำนครสวรรค์ เริ่มทรงตัว แต่ยังสูง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
รองนายกเทศมนตรีนครสวรรค์ เผยระดับน้ำในพื้นที่เริ่มทรงตัวแล้ว ไม่มีน้ำใหม่ไหลมาเพิ่มเติม แต่ระดับน้ำยังสูงอยู่
วันนี้ (13 ตุลาคม 2554) นายวิโรจน์ ตันวิสุทธิ์ รองนายกเทศมนตรีนครนครสวรรค์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดนครสวรรค์ ว่า ขณะนี้ระดับน้ำในพื้นที่เริ่มทรงตัวแล้ว ไม่มีน้ำใหม่ไหลมาเพิ่มเติม แต่ระดับน้ำยังสูงอยู่ โดยทางเจ้าหน้าที่อพยพประชาชนที่สมัครใจออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เหลือเพียงบางส่วนที่ขออยู่เฝ้าบ้านและทรัพย์สิน ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ชั้น 2 ของตัวบ้าน ด้านการจราจรบริเวณสะพานเดชาติวงศ์นั้น ได้ปิดไม่ให้รถผ่านแล้ว
สำหรับจุดน้ำท่วมสูงนั้น เริ่มตั้งแต่กลางตัวเมืองปากน้ำโพ คือ ถนนโกสีย์ ถนนมาตุลี ถนนอรรถกวี ถนนอารักษ์ ถนนดาวดึงส์ เรื่อยมาจนถึงอุทยานสวรรค์ และท่วมถนนซอยหิมพานต์ ข้ามฝั่งมาท่วมภายในศูนย์ท่ารถจนมิดสูงกว่า 2 เมตร แถมระดับน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่องจุดที่ต่ำที่สุดรอบ ๆ อุทยานสวรรค์ ขณะนี้ท่วมเกินกว่า 3 เมตรแล้ว และคาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ สูงสุดในช่วงเช้าวันนี้ (13 ตุลาคม)
ด้าน นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า ทางจังหวัดต้องหาสถานที่ทำงานชั่วคราว เนื่องจากศาลากลางจังหวัดน้ำท่วมหมดแล้ว เบื้องต้น ได้ใช้อาคารสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาคเหนือ ที่บริเวณเชิงเขาเขียวเป็นศูนย์ราชการชั่วคราว โดยจะใช้โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (จิรประวัติ) จังหวัดนครสวรรค์เป็นสถานที่จอดรถ ส่วนราชการจะสามารถไปทำงานได้เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนช่วงนี้ไปก่อน
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
รองนายกเทศมนตรีนครสวรรค์ เผยระดับน้ำในพื้นที่เริ่มทรงตัวแล้ว ไม่มีน้ำใหม่ไหลมาเพิ่มเติม แต่ระดับน้ำยังสูงอยู่
วันนี้ (13 ตุลาคม 2554) นายวิโรจน์ ตันวิสุทธิ์ รองนายกเทศมนตรีนครนครสวรรค์ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดนครสวรรค์ ว่า ขณะนี้ระดับน้ำในพื้นที่เริ่มทรงตัวแล้ว ไม่มีน้ำใหม่ไหลมาเพิ่มเติม แต่ระดับน้ำยังสูงอยู่ โดยทางเจ้าหน้าที่อพยพประชาชนที่สมัครใจออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เหลือเพียงบางส่วนที่ขออยู่เฝ้าบ้านและทรัพย์สิน ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ชั้น 2 ของตัวบ้าน ด้านการจราจรบริเวณสะพานเดชาติวงศ์นั้น ได้ปิดไม่ให้รถผ่านแล้ว
สำหรับจุดน้ำท่วมสูงนั้น เริ่มตั้งแต่กลางตัวเมืองปากน้ำโพ คือ ถนนโกสีย์ ถนนมาตุลี ถนนอรรถกวี ถนนอารักษ์ ถนนดาวดึงส์ เรื่อยมาจนถึงอุทยานสวรรค์ และท่วมถนนซอยหิมพานต์ ข้ามฝั่งมาท่วมภายในศูนย์ท่ารถจนมิดสูงกว่า 2 เมตร แถมระดับน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่องจุดที่ต่ำที่สุดรอบ ๆ อุทยานสวรรค์ ขณะนี้ท่วมเกินกว่า 3 เมตรแล้ว และคาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ สูงสุดในช่วงเช้าวันนี้ (13 ตุลาคม)
ด้าน นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า ทางจังหวัดต้องหาสถานที่ทำงานชั่วคราว เนื่องจากศาลากลางจังหวัดน้ำท่วมหมดแล้ว เบื้องต้น ได้ใช้อาคารสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาคเหนือ ที่บริเวณเชิงเขาเขียวเป็นศูนย์ราชการชั่วคราว โดยจะใช้โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (จิรประวัติ) จังหวัดนครสวรรค์เป็นสถานที่จอดรถ ส่วนราชการจะสามารถไปทำงานได้เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนช่วงนี้ไปก่อน

[12 ตุลาคม] น้ำท่วมนครสวรรค์วิกฤติ! ผู้ว่าฯ ประกาศภัยพิบัติฉุกเฉิน
น้ำท่วมนครสวรรค์ทะลักเข้าถนนสายเอเชีย และกำลังจะไหลข้ามเข้าท่วมห้างสรรพสินค้า และตัวเมืองด้านฝั่งศาลากลางแล้ว ขณะที่ผู้ว่าฯ เตรียมประกาศอพยพ
สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนครสวรรค์วันนี้ (12 ตุลาคม) แนวพนังกั้นน้ำ ริมแม่น้ำปิงที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา ได้เกิดแตกขึ้นที่บริเวณหน้าตลาดบ่อนไก่ ทำให้ปริมาณน้ำจำนวนมากไหลทะลักเข้าท่วมตลาด และย่านเศรษฐกิจสถานที่ราชการ วัด โรงเรียน โรงพยาบาล ของ จ.นครสวรรค์ ขณะนี้ปริมาณน้ำยังคงมีปริมาณสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร จำนวนนับพันนาย พยายามเร่งเอาหินคลุก และกระสอบทราย จะไปอุดบริเวณที่เกิดเหตุแต่ปรากฏว่า ทำได้ยากลำบาก เนื่องจากระดับน้ำสูงเคียงเอว
พร้อมกันนี้ น้ำยังได้ท่วมอุทยานสวรรค์ และไหลบ่าขึ้นไปท่วมถนนสายเอเชียนครสวรรค์ –พิษณุโลก อีกทั้งที่บริเวณสี่แยกสะพานเดชาติวงศ์ น้ำก็ได้ท่วมบริเวณดังกล่าวด้วยเช่นกัน และกำลังจะไหลข้ามเข้าท่วมห้างสรรพสินค้า และตัวเมืองด้านฝั่งศาลากลางแล้ว ซึ่งขณะนี้ประกาศรถเล็กห้ามใช้เส้นทางดังกล่าวแล้ว และถ้าไม่จำเป็นผู้ที่จะเดินทางขึ้นสู่ภาคเหนือควรหลีกเลี่ยงการผ่าน จ.นครสวรรค์ ในขณะนี้
ทางด้านผู้ว่าฯ ประกาศภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว พร้อมเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่สูงที่น้ำยังไม่ท่วมให้อพยพของขึ้นที่สูง ส่วนประชาชนที่มีรถยนต์แนะนำให้เอาไปจอดในที่ปลอดภัย เช่น สนามกีฬากลาง ค่ายธีรประวัติ หรือเขาเขียว ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการเตรียมให้ความช่วยเหลือและเตรียมอพยพประชาชนออกมาในที่ปลอดภัย

น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ไหลหลากข้ามถนนเข้าท่วม ศูนย์ท่ารถนครสวรรค์
สำหรับ สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดที่ จ.นครสวรรค์ พบว่า น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ยังไหลหลาก ถึงสี่แยกสะพานเดชาติวงศ์ เข้าท่วมถนน ขาล่อง 1 เลน ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มข้ามไปยัง ถนนสวรรค์วิถี ซึ่งอีกฝั่งมีศูนย์ราชการ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ มหาวิทยาลัย และโรงเรียนอีกหลายแห่ง น้ำยังไหลเข้าอุทยานสวรรค์ ก่อนไหลย้อนกลับเข้าท่วมศูนย์ท่ารถนครสวรรค์ ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร
ขณะที่ การอพยพชาวบ้าน เจ้าหน้าที่มูลนิธิและทีมแพทย์ พยาบาล ร.พ.สวรรค์ประชารักษ์ นำเรือท้องแบน เข้าไปช่วยขนย้ายสิ่งของ และชาวบ้านไปอยู่ที่ประสบภัย นอกจากนี้ ยังเปิดศูนย์อพยพที่โรงเรียนนครสวรรค์เพิ่มอีก 1 แห่ง คืนนี้ มีชาวบ้านกว่า 100 ครอบครัว ไปพักอาศัยอยู่หอประชุมของโรงเรียน โดยยังขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. กำลังตรวจจุดเขื่อนแตก ใต้สะพานเดชาติวงศ์ จ.นครสวรรค์ ขณะที่ สะพานเดชาติวงศ์ ฝั่งขาเข้าถนนกำแพงเพชร ยังวิ่งได้แต่ตอนนี้ปิดการจราจรแล้ว เพื่อให้รถทหารบรรทุกหิน ไปทำคันดินฝั่งขาเข้ากรุงเทพ ขณะที่ พล.ต.ปรีชา จันทร์โอชา รองแม่ทัพภาคที่ 3 ได้สั่งทำคันดินกั้นน้ำ จากเทศบาลนครสวรรค์ ซึ่งน้ำได้ไหลทะลักข้ามฝั่งถนนสายเอเชียให้ได้ภายในคืนนี้ ก่อนที่ เส้นทางภาคเหนือ จะถูกตัดขาด
สำหรับภาพสถานการณ์น้ำท่วมที่นครสวรรค์ ในเช้าวันนี้ (12 ตุลาคม)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ Chanidapa Na จากกลุ่ม แจ้งข่าวสถานการณ์น้ำนครสวรรค์ 24 ชั่วโมง





[11 ตุลาคม] นครสวรรค์ยังซ่อมพนังกั้นน้ำไม่ได้-น้ำสูงต่อเนื่อง
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก คุณ Apichaya Thanachot, เฟซบุ๊ก กลุ่มแจ้งข่าวสถานการณ์น้ำนครสวรรค์ 24 ชั่วโมง

สำหรับความคืบหน้า เหตุพนังกั้นน้ำ ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา จ.นครสวรรค์ พังเสียหาย กว่า 100 เมตร ทำให้น้ำจำนวนมหาศาล ไหลหลากเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจ จ.นครสวรรค์ และไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนเป็นบริเวณกว้าง เจ้าหน้าที่ ต้องนำเรือท้องแบนเร่งเข้าไปช่วยเหลือและอพยพชาวบ้านไปอยู่ที่ปลอดภัย ขณะที่ระดับน้ำ ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทางด้าน นายวิศาล วสุนธาระภร หัวหน้าโครงการชลประทานจังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่า คันดินสูงกว่า 2 เมตร พังเสียหาย ส่งผลให้ น้ำไหลทะลักเข้าท่วมตลาดปากน้ำโพทันที ถึงแม้ทหารจะพยายามเข้าไปซ่อมแซม แต่ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยว
นอกจากนี้ ยังต้องเฝ้าระวังคันดินตลอดระยะทาง 11 กิโลเมตร ตลอดแนวแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตะวันตก ซึ่งทางราชการขอให้ชาวบ้านอพยพขึ้นไปอยู่บนเขากบ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของวัดและโรงเจ รวมทั้ง ได้เปิดสนามกีฬาจังหวัด โรงเรียนประชานุเคราะห์ โรงเรียนพลตำรวจนครสวรรค์ ที่บริเวณเขาขาด ให้เป็นที่หลบภัย และที่อยู่อาศัยของผู้ที่ถูกน้ำท่วมใหญ่ในวันนี้อีกด้วย
[10 ตุลาคม] แตกตื่น! คันกั้นน้ำเจ้าพระยาที่นครสวรรค์แตก-น้ำทะลัก











เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3, เฟซบุ๊ก คุณ Apichaya Thanachot, เฟซบุ๊ก กลุ่มแจ้งข่าวสถานการณ์น้ำนครสวรรค์ 24 ชั่วโมง
ชาวนครสวรรค์แตกตื่น! คันกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาแตกยาว 100 เมตร น้ำทะลักเข้าตัวเมือง ท่วมกว่า 80% เร่งอพยพคนไป 5 จุดหลัก ขณะที่เจ้าหน้าที่ซ่อมพนังดินที่พังลงมาได้แล้ว
วันนี้ (10 ตุลาคม 2554) เวลา 10.30 น. มีรายงานว่า เกิดเหตุคันกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณตลาดลาว ถนนโกศรี เทศบาลนครนครสวรรค์ ถูกน้ำแม่น้ำเจ้าพระยากัดเซาะจนแตก ทำให้น้ำทะลักเข้าสู่ตัวเมืองนครสวรรค์แล้ว ทำให้ประชาชนจำนวนมากในพื้นที่ดังกล่าวเกิดความแตกตื่น และได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากน้ำดังกล่าวได้ไหลเข้าทะลุตัวตลาดชั้นในและขยายวงกว้าง
เบื้องต้น พล.ต.ต.ชฏิล พรหมไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ได้บินขึ้นตรวจคันเหตุคันกั้นน้ำแตกแล้ว พบแตกยาวกว่า 100 เมตร ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งทำการอุดรอยรั่วของพนังกั้นน้ำ ทำให้กระแสความแรงของน้ำลดลง และระดับน้ำน้ำท่วมเขตเทศบาลนครสวรรค์เริ่มนิ่งแล้ว

รมว.คมนาคม เผยกรณีเรือพุ่งชนคันกั้นน้ำปากน้ำโพจนแตก เร่งซ่อมแล้ว หากกู้ไม่ได้ เตรียมแผนอพยพไว้แล้ว
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงสถานการณ์ภายหลังเรือพุ่งชนคันกั้นน้ำแม่น้ำปิง ที่ จ.นครสวรรค์ ว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่จากกรมทางหลวง และจากกองทัพภาคที่ 3 กำลังเร่งอุดรอยแตกร้าว ของแนวคันกั้นน้ำดังกล่าว โดยหลังจากนี้จะติดตามสถานการณ์ ว่า สามารถสกัดกั้นกระแสน้ำได้หรือไม่ หากไม่สามารถสกัดกั้นกระแสน้ำได้ เจ้าหน้าที่ได้เตรียมสถานที่ไว้รองรับประชาชน ซึ่งเป็นแผนรองรับขั้นที่ 2 ไว้ทั้งหมด 5 จุด คือ โรงเรียนนครสวรรค์ 2 วิทยาลัยอาชีวศึกษานครสวรรค์ วัดคีรีวงศ์ วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคเหนือ และสนามกีฬากลาง จ.นครสวรรค์ ซึ่งแต่ละแห่งสามารถรองรับประชาชนได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 คน และจะสามารถอพยพประชาชนได้ภายใน 2 - 3 ชม. รวมทั้งได้เตรียมอาหารสดจากกรุงเทพฯ ส่งไปสมทบในศูนย์อพยพได้ทันที





ทหาร 500 นาย พร้อมรถจีเอ็มซี อพยพชาวนครสวรรค์นับหมื่น หนีตายขึ้นเขากบ เปิดสนามกีฬาโรงเรียนพลตำรวจหลบภัย
ความคืบหน้า จากเหตุการณ์แนวพนังกั้นน้ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณตลาดปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ โดยใช้กระสอบทรายและก่อเป็นแนวกำแพงปูน ความสูงกว่า 2 เมตร ที่ทางเทศบาลนครสวรรค์ ทำไว้แล้ว เกิดพังลง จึงทำให้มวลน้ำมหาศาล จากแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลเข้าในย่านเขตเศรษฐกิจของเมืองนครสวรรค์ เพียงแค่ 1 ชั่วโมง ที่ผ่านมานี้ ทั้งเมืองนครสวรรค์ กลายเป็นเมืองบาดาลไปแล้ว ฝ่ายทหาร จำนวนเกือบ 500 นาย พร้อมด้วย รถจีเอ็มซี ขนาดใหญ่ ต้องช่วยกันอพยพชาวบ้านจำนวนนับหมื่นคน ให้หนีตายจากสภาพน้ำที่ไหลบ่าเข้ามา มีสภาพคล้ายกับสึนามิ เพียงแต่ไม่เป็นคลื่นยักษ์ ที่ไหลเข้ามาถาโถมเท่านั้น
ล่าสุด ทางราชการขอให้ชาวบ้านอพยพขึ้นไปอยู่บนเขากบ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของวัดและโรงเจ รวมทั้งได้เปิดสนามกีฬาจังหวัด โรงเรียนประชานุเคราะห์ โรงเรียนพลตำรวจนครสวรรค์ ที่บริเวณเขาขาด ให้เป็นที่หลบภัย และที่อยู่อาศัยของผู้ที่ถูกน้ำท่วมใหญ่ในวันนี้อีกด้วย

ตำรวจ สภ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ กล่าวว่า ขณะนี้เกิดเหตุเรือชาวบ้านล่ม ที่ ต.ทับกฤช อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รุดเข้าช่วยเหลือ แต่ไม่ทันการณ์ ทำให้เด็กอายุ 4 ขวบกับ 12 ขวบ จมน้ำเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนเด็กอีก 2 คน ที่นั่งเรือไปด้วยนั้น อาการสาหัส เพราะจมน้ำป็นเวลานาน ได้นำส่ง ร.พ.ชุมแสง เป็นการเร่งด่วนแล้ว สำหรับสาเหตุนั้น เกิดจากเด็กทั้ง 4 คนได้พายเรือเล่นบนถนนที่ถูกนำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร แต่ด้วยกระแสนำเชี่ยวกราก ทำให้พัดเรือล่มดังกล่าว

นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. น้ำได้ทะลักเข้าท่วมโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ บริเวณชั้นล่างอาคาร ไม่สามารถให้บริการได้ ระดับน้ำสูงประมาณ 60 เซนติเมตร แนวโน้มเพิ่มขึ้นอาจถึง 2 เมตร ขณะนี้มีผู้ป่วยนอนรักษา 650 ราย โดยมีผู้ป่วยหนัก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 50 ราย ได้ระดมเจ้าหน้าที่ลำเลียงผู้ป่วยหนักจาก รพ.สวรรค์ประชารักษ์ ขณะนี้ส่งไปแล้ว 34 ราย รักษาที่ รพ. ในจังหวัดคือ รพ.ค่ายจิระประวัติ ที่เหลือจะทยอยย้ายไปที่อื่น ๆ ต่อไป
และขณะนี้งดการให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยนอก ฉุกเฉิน งดรับผู้ป่วยรายใหม่เป็นการชั่วคราว และจะทยอยย้ายผู้ป่วยที่เหลืออีก 600 รายต่อไป ซึ่งทุกรายจะต้องดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน และปลอดภัยที่สุด และได้ส่งหน่วยช่างจากกองวิศวกรรมการแพทย์ เข้าไปติดตั้งเครื่องปั่นไฟสำรอง เพื่อให้สามารถบริการผู้ป่วยได้

เทศบาลเมืองนครนครสวรรค์ ท่วมแล้วกว่า 80% คนทยอยอพยพไป 5 จุดหลัก ขณะนี้ทหารซ่อมพนังดินกั้นนำที่พังได้แล้ว
นายปราโมทย์ วินิจสร ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครสวรรค์ กล่าวกับไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในเขตตัวเทศบาลเมืองนครนครสวรรค์ ว่าขณะนี้น้ำเข้าท่วมกว่า 80 % ของพื้นที่แล้ว แต่ไม่ใช่เป็นการท่วมแบบฉับพลัน ซึ่งได้มีการประกาศให้ประชาชนเตรียมพร้อมอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทาง นายจิตตเกษมณ์ นิโรจน์ธนรัฐ นายกเทศมนตรีนครนครสวรรค์ ประเมินว่า ในคืนนี้ในบริเวณตลาด ปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงถึง 2 เมตร ซึ่งได้ประกาศให้ประชาชนในพื้นที่อพยพอย่างเร่งด่วนแล้ว ทั้งนี้ ทางการได้จัดเตรียมศูนย์อพยพไว้ตอนนี้ 5 จุด ซึ่งแต่ละแห่งรองรับประชาชนได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 คน ดังนี้
1. วัดคีรีวงศ์
2. ร.ร.ประชานุเคราะห์
3. ร.ร.เทคโนโลยีนครสวรรค์
4. ร.ร.นครสวรรค์
5. สนามกีฬากลางจังหวัดนครสวรรค์
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางทหารได้เข้าซ่อมแซมพนังดินกั้นน้ำที่พังลงมาได้แล้ว ซึ่งทำให้ปริมาณน้ำในเขตเทศบาลเมืองลดลง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก