x close

นายกเล็กเมืองแปดริ้ว เชื่อ ย่านเศรษฐกิจไม่อ่วม















นายกเล็กเมืองแปดริ้วเชื่อย่านศก.ไม่อ่วม (ไอเอ็นเอ็น)

          นายกเล็กเมืองแปดริ้ว เชื่อ ชาวบ้านย่านเศรษฐกิจกลางเมือง ไม่ถูกลอยคอแล้ว หลังน้ำบางปะกง เริ่มทรุดตัวจากที่วันก่อน ถึง 5 เซนติเมตร

          นายกลยุทธ ฉายแสง นายกเทศมนตรีเมืองฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ถึงขณะนี้เชื่อว่า ชาวเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ก็จะไม่ถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน จนต้องลอยคอแบบชาวบ้านในเขตภาคกลาง และคนกรุงเทพมหานครแล้ว หลังจากในวันนี้ระดับน้ำบางปะกง เริ่มทรุดตัวลงจากเมื่อวานนี้ โดยหลังจากนี้ไปเชื่อว่าระดับน้ำทะเลจะเริ่มหนุนต่ำลงตามลำดับต่อไป

          ส่วนกรณีการพยายามที่จะเจาะระบายน้ำออกจากกรุงเทพฯ หลากหลายรูปแบบ ก่อนที่จะปล่อยน้ำเข้ามาในเขตพื้นที่ ลงยังแม่น้ำบางปะกงผ่านทางคลองหกวา และคลองแสนแสบ ที่อยู่ทางตอนบนของตัว จ.ฉะเชิงเทรา นั้น ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการทะลักหรือไหลล้นขึ้นมาท่วมพื้นที่ภายในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราได้อีก แต่ก็จะเป็นไปในลักษณะของน้ำล้นออกมาจากลำน้ำ ในช่วงของน้ำขึ้น และพอในช่วงน้ำลง น้ำก็จะลดลงหายไป ซึ่งถือว่าเป็นไปตามปกติธรรมชาติของแม่น้ำบางปะกง ที่ขึ้นลงถึงวันละ 2 ครั้ง ตามการขึ้นลงของน้ำทะเล


 ข่าวน้ำท่วม บริจาคผู้ประสบภัยน้ำท่วม คลิกเลยค่ะ  






น้ำท่วม

น้ำท่วมฉะเชิงเทรา 2554

[12 ตุลาคม] ชาวเมืองแปดริ้วผวาน้ำท่วม ฮือแย่งขนทรายกั้นน้ำ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

           แปดริ้วอ่วมแล้ว 4 อำเภอ หลังเขื่อนปล่อยน้ำวันละ 5 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ทางจังหวัดประกาศเตือนน้ำจากกรุงเทพฯ-ปทุมฯ จ่อท่วมเขตเมืองฉะเชิงเทราภายใน 1-2 วันนี้ ทำชาวเมืองเฮโลแย่งทรายแจกอย่างไม่คิดชีวิต

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านจาก 4 อำเภอของจังหวัดฉะเชิงเทรา คือ อำเภอสนามชัยเขต อำเภอพนมสารคาม อำเภอแปลงยาว และอำเภอบ้านโพธิ์ ต่างต้องเร่งขนของหนีน้ำเป็นการใหญ่ หลังจากน้ำจากเขื่อนสียัด และเขื่อนระบม ซึ่งถูกปล่อยออกมาวันละ 5 ล้านลูกบาศก์เมตรไหลเข้าท่วมบ้าน ส่งผลให้บ้านเรือน ไร่นา บ่อปลา บ่อกุ้ง เสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ตำบลแหลมประดู่ อำเภอบ้านโพธิ์ ที่เกิดฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ทำให้บางจุดมีน้ำท่วมขังสูงถึง 1 เมตร ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายข้าวของหนีน้ำ พร้อมกับร้องขอให้หน่วยงานราชการดูแลเรื่องการระบายน้ำออกจากเขื่อนด้วย

           อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ทางจังหวัดฉะเชิงเทราได้ประกาศเตือนให้ประชาชนที่อยู่อาศัยในอำเภอเมืองเตรียมรับมือน้ำที่จะไหลบ่ามาจากจังหวัดปทุมธานี และทะลักมาจากเขตมีนบุรีแล้ว โดยคาดว่า น้ำจะเข้าท่วมเมืองภายใน 1-2 วันนี้ ทำให้ชาวบ้านต้องเร่งนำกระสอบทรายมากั้นหน้าบ้านเป็นการใหญ่

           ขณะเดียวกัน ในวันนี้ (12 ตุลาคม) ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจได้นำรถบรรทุกลงพื้นที่ไปแจกจ่ายทรายให้กับชาวบ้านใน 3 จุดของจังหวัดฉะเชิงเทรา คือ ที่บริเวณลานศาลาไทยหน้าศาลากลางจังหวัด 2 จุด และที่สถานีดับเพลิงของเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา อีก 1 จุด เพื่อช่วยป้องกันมวลน้ำจากจังหวัดปทุมธานี และกรุงเทพมหานครที่กำลังจะไหลผ่านจังหวัดฉะเชิงเทราในอีกไม่กี่วันที่จะมาถึง

           ทั้งนี้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตเศรษฐกิจของเมืองฉะเชิงเทราส่วนใหญ่ต่างรู้สึกวิตกกังวล เมื่อทราบว่า จังหวัดฉะเชิงเทราถูกเลือกให้เป็นทางระบายน้ำที่ท่วมขังในภาคกลางลงทะเล และน้ำกำลังเดินทางมา ดังนั้น เมื่อทราบข่าวว่า ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจได้บรรทุกทรายมาแจกจ่าย จึงรีบกรูกันเข้ามาแย่งตักทรายจากกองที่รถบรรทุก 10 ล้อนำมาเทไว้ให้อย่างโกลาหล แม้ว่ารถยังเททรายลงจากกระบะไม่หมด แต่ชาวบ้านก็วิ่งเข้ายื้อแย่งทรายกันอย่างไม่คิดชีวิต เพื่อหวังจะไปทำกระสอบทรายป้องกันรอบบ้าน จนทรายหมดลงอย่างรวดเร็ว และไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวบ้าน


ชาวฉะเชิงเทราเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม 



          ประชาชนฉะเชิงเทรายังวุ่นวาย ปิดกิจการป้องร้านค้า กันบ้านเรือนถูกน้ำท่วมอย่างโกลาหล เตรียมรับมือมวลน้ำใหญ่

          บรรยากาศการเตรียมความพร้อมรับมือมวลน้ำก้อนใหญ่ที่จะถูกระบายลงมาจากหลายด้าน ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทราเพื่อปล่อยทิ้งออกสู่ทะเล ผ่านมาทางแม่น้ำบางปะกงตลอดทั้งวันนี้ เป็นไปอย่างโกลาหล หลังวัสดุที่เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ได้มีการจัดเตรียมมาให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวบ้าน โดยเฉพาะทราย ที่ถือว่าเป็นปัจจัยหลักในการทำแนวป้องกันน้ำ ไม่ให้ไหลทะลักเข้าสู่บ้านเรือนนั้น ขาดแคลนอย่างหนัก

          หลังจากทางเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา นำใส่รถบรรทุก 10 ล้อ มาเทกองทิ้งไว้ยังที่บริเวณสถานีดับเพลิงใกล้กับธนาคาร ธ.ก.ส. ใต้สะพานเฉลิมพระเกียรติฯ นั้น ได้หมดลงอย่างรวดเร็วเพียงชั่วพริบตา โดยหลายคนต่างพากันมาแบบยกทั้งครอบครัว ช่วยกันอย่างกุลีกุจอตักทรายใส่กระสอบ พร้อมกับช่วยกันขนขึ้นยังท้ายรถยนต์ส่วนตัว และรถยนต์กระบะนำกลับไปตั้งบังเกอร์กันน้ำท่วมยังที่บ้าน ซึ่งตลอดทั้งวันทางเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ได้มีการขนทรายเข้ามาเทกองทิ้งไว้ เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนนับ 10 เที่ยว แต่ก็ยังคงหมดลงอย่างรวดเร็วอีกเช่นเดิม ขณะเดียวกันในแม่น้ำบางปะกงนั้น บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำทั้ง 8 แห่ง ตลอดลำน้ำ ก็ได้มีการนำเรือประมง และเรือของทางหน่วยงานราชการ มาทำการเดินเครื่องยนต์ เพื่อช่วยเร่งขับดันน้ำออกแม่น้ำบางปะกง ให้ไหลลงสู่ทะเลไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




[11 ตุลาคม] ฉะเชิงเทราเตือนน้ำท่วมใน 10 วัน รอรับน้ำผันจากอยุธยา

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

          เมืองฉะเชิงเทรา ออกประกาศเตือนภัยฉุกเฉินแล้ว หลังถูกเลือกเป็นช่องทางระบายน้ำออกจากอยุธยา ลงแม่น้ำบางปะกง เตือนน้ำก้อนใหญ่จะมาถึงใน 10 วัน

          เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (10 ตุลาคม) เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ได้แจ้งเตือนภัยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่เขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ในย่านเศรษฐกิจ เขตชุมชนเมืองของจังหวัด ให้เก็บข้าวของหนีน้ำขึ้นไว้ในที่สูง เนื่องจากน้ำในแม่น้ำบางปะกงจะเอ่อล้นออกมาท่วมตัวเมือง โดยจะมีระดับสูงถึงประมาณ 50 ซ.ม.

          ทั้งนี้ หนังสือแจ้งเตือนดังกล่าว ออกโดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 10 ต.ค. 54 เพื่อให้นำเผยแพร่ออกผ่านทางสื่อมวลชนในท้องถิ่น โดยระบุข้อความว่า

          "ประกาศศูนย์วิเคราะห์สถานการณ์น้ำ จ.ฉะเชิงเทรา แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำบางปะกง และลุ่มน้ำสาขาที่จะเอ่อล้นตลิ่งเนื่องจากน้ำเหนือที่ไหลจากแม่น้ำปราจีนบุรี แม่น้ำนครนายก คลองรังสิต และจากรอยต่อกรุงเทพฯ ที่ระบายลงสู่แม่น้ำบางปะกง และลุ่มน้ำสาขา ประกอบกับอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนสูงสุด ในห้วงระหว่าง วันที่ 9-15 ต.ค. 54 จะทำให้แม่น้ำบางปะกง มีระดับสูงเกินกว่าปกติ 50 ซ.ม. โดยเฉพาะในห้วงเวลาระหว่าง 18.00 น.-22.00 น. จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้ประกาศแจ้งเตือน ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง ทั้งสองฝั่งตลอดแนว รวมทั้งที่อาศัยอยู่ริมฝั่งคลองสาขา ให้เตรียมขนย้ายสิ่งของมีค่าไว้ในที่สูงตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป"


น้ำท่วม


          ด้านนางสุมิตรา ศรีสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า พื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ถูกเลือกให้เป็นเส้นทางระบายน้ำออกจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ที่กำลังถูกน้ำท่วมอย่างหนักและไม่มีช่องทางระบายออกลงสู่ทะเล โดยน้ำจะไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกง ก่อนที่จะถูกปล่อยออกสู่ทะเล เนื่องจากเป็นเพียงช่องทางเดียวที่จะเกิดความเสียหายน้อยที่สุด

          ทั้งนี้ ระดับน้ำที่จะถูกระบายผ่านเข้ามานั้น จะเป็นมวลน้ำจำนวนมาก จนทำให้แม่น้ำบางปะกงเอ่อล้นออกนอกลำน้ำ และจะไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่รวม 6 อำเภอ คือ อ.คลองเขื่อน อ.เมือง อ.บ้านโพธิ์ อ.บางปะกง อ.บางคล้า บางส่วน อ.บางน้ำเปรี้ยว บางส่วน โดยระดับน้ำจะท่วมสูงถึงประมาณ 1-2 เมตร ซึ่งคาดว่ามวลน้ำจำนวนดังกล่าวนี้ จะมาถึงยังในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา อีกประมาณ 10 วันข้างหน้า

          ขณะที่ปริมาณน้ำในพื้นที่นั้น ขณะนี้อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 2 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำคลองระบม และอ่างสียัด เต็มล้นแล้วทั้ง 2 อ่าง และได้มีการเร่งระบายน้ำออกจากอ่างสียัดอย่างต่อเนื่อง ถึงวันละ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนอ่างแควระบมนั้นได้ชะลอการระบายลงแล้ว









เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นายกเล็กเมืองแปดริ้ว เชื่อ ย่านเศรษฐกิจไม่อ่วม อัปเดตล่าสุด 1 พฤศจิกายน 2554 เวลา 07:43:53 73,925 อ่าน
TOP