x close

ไม่รื้อบิ๊กแบ็ก! ชาวบ้านให้ 3 วันซ่อมเครื่องสูบ






เจราจาบิ๊กแบ็ก ปชช.ให้ 3 วัน ซ่อมเครื่องสูบ (ไอเอ็นเอ็น)

        เจรจาลงตัว! ไม่รื้อบิ๊กแบ็กรังสิต ชาวบ้านให้เวลาอีก 3 วันเร่งซ่อมเครื่องสูบน้ำ 9 ตัว
ถ้าน้ำไม่ลด นัดหารืออีกครั้ง

         ช่วงกลางดึกของคืนวานนี้ (15 พฤศจิกายน) สถานการณ์บริเวณแนวคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็ก ถนนวิภาวดีรังสิต ขาออก มีชาวบ้านจากชุมชนจากหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ชุมชนตลาดสี่มุมเมือง และชุมชนหมู่บ้านธนินทร ประมาณ 30 คน เดินทางมารวมตัวกันในบริเวณดังกล่าว ตามที่ทางแกนนำได้นัดหมายไว้

         โดยมีนายปกรณ์พัฒน์ เทพเอื้อตระกูล แกนนำชุมชนย่านรังสิต ได้เดินทางมาทำการชี้แจงกับชาวบ้านที่ได้มาชุนนุมในบริเวณนี้ว่า ทางตัวแทนได้ร่วมประชุมกับตำรวจภูธรภาค 1 กรมชลประทาน และมีมติร่วมกันที่จะให้เวลากรมชลประทาน ดำเนินการซ่อมเครื่องสูบน้ำที่บริเวณประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ ทั้ง 9 เครื่อง ให้สามารถเดินเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใน 3 วัน และจะมีการทำหนังสือถึง ศปภ. เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำของรัฐบาล ที่ไม่มีประสิทธิภาพ จนทำให้น้ำที่สูบออกจากประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ ไหลย้อนกลับเข้ายังพื้นที่รังสิตอีกครั้ง

        
แกนนำชุมชนย่านรังสิต กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ได้เสนอให้มีการวางบิ๊กแบ็ก ตั้งแต่ประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ จนถึงนิคมอุตสาหกรรมนวนคร และเร่งระบายน้ำออกสู่ทางประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ ให้เร็วที่สุด เพื่อให้ระดับน้ำในบริเวณรังสิตลดลง เพราะจะสามารถลดความเดือดร้อนของประชาชนได้

         อย่างไรก็ตาม ภายหลังแกนนำชี้แจง ก็ทำให้กลุ่มชาวบ้านพอใจและเดินทางกลับ โดยไม่มีการรื้อบิ๊กแบ็กแต่อย่างใด

         ทางด้าน
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้เปิดเผยภายหลังจากร่วมเจรจากับ นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน และ นายดำรงชัย นันทปราโมทย์ ตัวแทนชาวบ้านใน 5 ชุมชน ย่านรังสิต ประกอบด้วย หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี หมู่บ้านเมืองเอก ชุมชนตลาดหวั่งหลี ชุมชนริมคลองโรงเรียนศิริฯ และชุมชนตลาดพรพัฒน์ โดยใช้เวลาเจรจานานกว่า 1 ชั่วโมงว่า ผลการเจรจาเป็นที่น่าพอใจทั้ง 2 ฝ่าย โดยชาวบ้านให้เวลากรมชลประทาน 3 วันนับตั้งแต่วันนี้ (16 พฤศจิกายน) เป็นต้นไป ในการดำเนินการซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำ จำนวน 9 ตัว จากทั้งหมด 18 ตัว ที่บริเวณประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ ให้แล้วเสร็จ และเดินเครื่องสูบน้ำอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้น้ำในชุมชนย่านรังสิตนั้น ได้มีการไหลเวียนตามระบบ และไม่เน่าเสีย ตามแผนการจัดการน้ำของรัฐบาล

        ทั้งนี้ ทางตัวแทนชาวบ้าน ได้กล่าวว่า จากนี้ไป ถ้าหากกรมชลประทานดำเนินการตามที่พูดไว้จริง ก็จะไม่มีการรวมตัวกับชาวดอนเมือง เพื่อชุมนุมรื้อคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็กแต่อย่างใด แต่หากหลังจาก 3 วัน พบว่ายังไม่มีการดำเนินการตามที่ได้รับปากไว้จะมีการหารือกับกลุ่มชาวบ้าน อีกครั้งว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร






[15 พฤศจิกายน] ชาวรังสิตโอด เดือดร้อนหนัก นัดรื้อบิ๊กแบ็ก วันนี้


บิ๊กแบ็ก


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Thai PBS




          วันนี้ เวลา 16.00 น. ชาวรังสิตและชาวจังหวัดปทุมธานีประมาณ 900 คน นัดรื้อแนวบิ๊กแบ็กตลอดแนว ถ.วิภาวดี-รังสิต บอกเดือดร้อนหนักแล้ว

          วันนี้ (15 พฤศจิกายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่รังสิตและชาวจังหวัดปทุมธานีประมาณ 900 คนประกอบด้วยชาวบ้านจากหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ชาวรังสิต และย่านตลาดสี่มุมเมือง เตรียมไปรื้อบิ๊กแบ๊กตลอดแนวถนนวิภาวดีรังสิตในเวลา 16.00 น.

          โดยแกนนำชาวบ้านบอกว่า หากไปที่จุดวางบิ๊กแบ๊ก แล้วเจอเจ้าหน้าที่เฝ้าดูแลบิ๊กแบ็ก ก็ยังจะรื้อแม้จะต้องถูกดำเนินคดีก็ตาม เพราะที่ผ่านมานี้ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขังสูงมาเป็นเวลานานแล้ว

จนท.เร่งซ่อมคันบิ๊กแบ็กเหลืออีก 3 เมตร

          เจ้าหน้าที่ เร่งอุดแนวคัน บิ๊กแบ็ก ถ.วิภาวดี ขาออก เหลือระยะเพียง 3 เมตร เท่านั้น ขณะเดียวกัน ยังไม่มี ปชช. ก่อกวน ด้านตำรวจตรึงกำลังเข้ม

          สถานการณ์ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. บริเวณแนวคันกั้น บิ๊กแบ็ก บน ถ.วิภาวดี ขาออก ยังไม่พบกลุ่มชาวบ้าน มารวมตัวประท้วง หรือ รื้อคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็ก เพิ่มเติมแต่อย่างใด โดยจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มาเฝ้าระวังเหตุอยู่ในบริเวณนี้ เปิดเผยว่า จากเมื่อคืนถึงช่วงเช้าวันนี้ ยังไม่พบเหตุการณ์วุ่นวายใด ๆ เกิดขึ้น และสำหรับช่องขาด เป็นระยะทาง 6 เมตร ที่ชาวบ้านมารื้อคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็กออกไปก่อนหน้านี้นั้น เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหาร ก็ได้นำบิ๊กแบ๊กจำนวนหนึ่ง มาอุดช่องขาดดังกล่าว ประมาณ 3 เมตร ทำให้ขณะนี้ เหลือช่องขาดที่น้ำสามารถผ่านได้เพียง 3 เมตรเท่านั้น และจากการสังเกต ก็พบว่า ระดับน้ำเหนือแนวคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็กต่างจากระดับน้ำด้านล่างแนวคันกั้น อยู่ประมาณ 30 เซนติเมตร

          อย่างไรก็ตาม ในบริเวณนี้ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากสถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองร้อยควบคุมฝูงชน กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 คอยดูแล และเฝ้าระวังเหตุอยู่ตลอด 24 ช.ม.






อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




[14 พฤศจิกายน] กทม. - ศปภ. เห็นพ้องปรับแนวบิ๊กแบ็คเป็นฝายน้ำล้น





ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร


สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  ไทยโพสต์


          กทม. และ ศปภ. เห็นพ้องปรับแนวบิ๊กแบ็กดอนเมือง เป็นฝายน้ำล้น กว้างประมาณ 10 เมตร เพื่อป้องกันน้ำเน่า-ช่วยชะลอน้ำ

          วันนี้ (14 พฤศจิกายน) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ @bangkokgovernor Sukhumbhand P ถึงแนวทางการแก้ปัญหาแนวบิ๊กแบ็กบริเวณดอนเมือง หลังจากได้หารือกับตัวแทนประชาชน ว่า ได้ข้อสรุป 3 แนวทาง ในการที่จะน้ำเข้าประชุมกับ ศปภ. 

          โดย 3 แนวทาง ที่ได้หารือกับชาวดอนเมือง ประกอบด้วย

          1. ถ้าเปิดคันกั้นบิ๊กแบ็กแล้วไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ กทม. ประชาชนดอนเมือง ขอให้เปิดอย่างนี้ต่อไป

          2. หากเปิดแล้วกระทบต่อ กทม. และพื้นที่ชั้นใน ประชาชนพร้อมจะให้ปิดคันบิ๊กแบ็ก แต่ขอให้เป็นลักษณะฝายน้ำล้น เพื่อให้น้ำได้ระบาย และไม่เกิดภาวะน้ำเน่า

         
3. หากยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าคันกั้นจะสร้างปัญหาหรือไม่ จะให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างสำนักการระบายน้ำ และตัวแทนประชาชน

          ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ยังได้แสดงความเห็นว่า ข้อ 2 น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อให้น้ำเคลื่อนไหวแบบชะลอตัว และไม่เน่าเสีย แต่ต้องดูตามสถานการณ์ต่อไป ซึ่งทาง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ได้เดินทางมาถึง ศปภ. เพื่อร่วมประชุมหาข้อสรุปในเรื่องดังกล่าวแล้ว และเห็นพ้องกันว่า จะปรับแนวบิ๊กแบ็กดอนเมืองเป็นลักษณะฝายน้ำล้น กว้างประมาณ 10 เมตร เพื่อป้องกันน้ำเน่า และช่วยชะลอน้ำ
 

  ศปภ.โบ้ย กทม. เข้าจัดการซ่อมบิ๊กแบ็ก

          ทั้งนี้ เมื่อเวลา 23.15 น. วันที่ 13 พ.ย.2554 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ได้รับหนังสือจาก ศปภ.เมื่อเวลา 22.00 น. ให้ กทม.เข้าไประงับยับยั้งการรื้อคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็กที่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต (บริเวณหน้าร้านนายใช้) โดยหนังสือระบุว่า เนื่องจากการรื้อบิ๊กแบ็กจะทำให้น้ำเหนือไหลบ่าเข้าท่วมกรุงเทพฯ ชั้นในได้รวดเร็วขึ้น จึงเป็นหน้าที่ของ กทม.ที่จะต้องไประงับเหตุการณ์ดังกล่าว

          ผู้ว่าฯ กทม.ยังกล่าวต่อด้วยว่า หลังจากได้รับหนังสือเมื่อเวลา 22.00 น. ทางตนก็ได้ทำหนังสือด่วน เมื่อเวลา 22.12 น. เพื่อขอให้ ผบ.ชน.ส่งกำลังตำรวจเข้าไปอารักขาเจ้าหน้าที่ กทม.ทันที อย่างไรก็ตาม ข่าวการรื้อบิ๊กแบ็กนี้ตนทราบมาตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนจะเกิดเหตุแล้ว แต่ ศปภ.กลับเพิ่งส่งหนังสือมาเมื่อ 22.00 น. ซึ่งตนเข้าใจว่าเป็นการประสานงานที่ล่าช้า เพราะลืมดูนาฬิกาเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องการกลั่นแกล้งทางการเมืองแต่อย่างใด
ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่มี ส.ส. ในพื้นที่ต้องเข้าไปเจรจาด้วย โดยยืนยันว่า กทม. ไม่ได้รับการหารือใด ๆ ทั้งสิ้นเมื่อวานนี้ และส่วนตัวก็ไม่อยากรบกวนสายตรงถึงนายกรัฐมนตรี

         
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวด้วยว่า บิ๊กแบ็ก เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการชะลอน้ำ โดยหากน้ำคลองรังสิต ลดลง กทม. ก็จะสามารถสูบน้ำออก ทำให้ กทม. แห้งได้ นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า ปัญหาการเมือง ไม่ได้ทำให้ตนร้องไห้ แต่เป็นเพราะความเดือดร้อนของประชาชนต่างหาก ที่ทำให้ตนสลดใจมากกว่า 
 

 อานนท์ ยันรื้อบิ๊กแบ็ก ไม่ทำให้น้ำขยายวงกว้าง

           
นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เลขานุการคณะทำงานจัดการน้ำในพื้นที่วิกฤต ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ได้กล่าวถึงกรณีที่ชาวบ้านดอนเมืองรื้อบิ๊กแบ็กในพื้นที่ว่า กรณี ดังกล่าวจะไม่ขยายพื้นที่น้ำท่วม แต่จะส่งผลให้พื้นทีที่ถูกน้ำท่วม เช่น เขตดอนเมือง เขตหลักสี่ และเขตบางเขน ระดับน้ำจะลดช้าลงกว่าเดิม 2 - 3 วัน

             นอกจากนี้ นายอานนท์ ยังกล่าวอีกว่า การรื้อบิ๊กแบ็กไม่ส่งผลในภาพรวม เพราะระดับน้ำในพื้นที่ดังกล่าว จะขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำจากคลองประยูรศักดิ์ที่ไหลมาเท่านั้น  ส่วนในพื้นที่ ถนนพระราม 2 และฝั่งธนบุรี ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่กำลังทะลวงท่อระบายน้ำ และคลองต่าง ๆ เพื่อกำจัดสิ่งที่ขวางการไหลของน้ำ และจะใช้ถนนในจังหวัดสมุทรสาคร ใช้เป็นเส้นทางระบายน้ำสู่แก้มลิงมหาชัย


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







[13 พฤศจิกายน]ไม่ฟัง ศปภ.! ชาวบ้านรื้อบิ๊กแบ็กเอง ยาว 20 เมตร



 

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

            ชาวบ้านดอนเมืองชุมนุมจี้ ศปภ.รื้อบิ๊กแบ็กให้น้ำไหลลงด้านล่าง การุณรุดเคลียร์ไม่เป็นผล ก่อนมีข่าวลือศปภ.สั่งรื้อบิ๊กแบ็กแล้ว สุดท้ายแถลงกลับไม่มีคำสั่งใด ๆ ขณะที่ชาวบ้านรื้อบิ๊กแบ็กเองแล้ว

            หลังจากที่วานนี้ (12 พฤศจิกายน) นายการุณ  โหสกุล ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ได้ออกกล่าวยืนยันถึงการรื้อคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็กของประชาชนในเขตดอนเมือง ว่าจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะได้ทำความเข้าใจกับประชาชนไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

            แต่ทว่า ช่วงสายของวันนี้ (13 พฤศจิกายน) มีตัวแทนชาวบ้านแขวงสนามบินดอนเมืองกว่า 20 ชุมชน นับร้อยคนได้เข้ามาเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดแนวบิ๊กแบ็กบริเวณถนนวิภาวดีสังสิตขาออก และอยากให้มีการลดระดับแนวบิ๊กแบกลง เพื่อจะได้ให้น้ำไหลลงมาบริเวณด้านล่างบ้าง โดยต้องการให้เปิดแนวบิ๊กแบ็กบนถนนวิภาวดีรังสิต กว้าง 10 เมตร หรือเปิดให้เรือผ่าน 2 ช่องทาง ทั้งขาเข้าและขาออก  เป็นเวลา 1 เดือน

            ขณะที่ นายการุณ โหสกุล เมื่อได้ทราบข่าวดังกล่าว ก็รีบรุดมายังที่เกิดเหตุทันที เพื่อมาพูดคุยกับชาวบ้าน แต่ก็ไม่สามารถหาข้อยุติได้ ทั้งนี้ระดับน้ำในคันบิ๊กแบ็ก และนอกคันบิ๊กแบ็กต่างกันอยู่ที่ประมาณ 50 - 60 เซนติเมตร

            อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการเจรจากับชาวบ้านนานกว่า 2 ชั่วโมง ก็มีกระแสข่าวออกมาว่า ทาง ศปภ. มีมติให้รื้อแนวบิ๊กแบ็ก ถนนวิภาวดีรังสิตเป็นระยะทาง 30 เมตร โดยจะทำการรื้อให้แล้วเสร็จในวันพรุ่งนี้ (14 พฤศจิกายน) ทำให้ประชาชนที่รวมตัวต่างพอใจผลสรุปที่ออกมาและได้แยกย้ายกันกลับบ้าน

            แต่ล่าสุด พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ยืนยันว่า ไม่มีการสั่งการให้มีการรื้อแนวบิ๊กแบ็กระยะทาง 30 เมตร ที่สนามบินดอนเมือง ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด โดยระบุว่า ในขณะนี้ ทาง ศปภ. เพิ่งจะประชุมเสร็จ และไม่ได้มีคำสั่งใด ๆ ทั้งสิ้น

            ทั้งนี้ แนวบิ๊กแบ็กที่กั้นไว้นั้น เป็นแนวป้องกันเพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้า กทม. ส่วนถ้าจะมีการรื้อถอนนั้น จะต้องมีการหารือร่วมกันกับประชาชนในพื้นที่ด้วย

           อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่า ชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้เข้ารื้อบิ๊กแบ็กเป็นแนวยาวประมาณ 20 เมตรแล้ว โดยอ้างว่า ส.ส.คนหนึ่งให้รื้อ ทั้งนี้ การรื้อบิ๊กแบ็กดังกล่าวอาจจะส่งผลให้น้ำไหลท่วมกรุงเทพฯ ชั้นในได้แรงและเร็วขึ้น



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
  




[11 พฤศจิกายน] กทม.เผยหลักสี่ - ดอนเมือง ระดับน้ำลดลงแล้ว



น้ำท่วมดอนเมือง


          กทม. สรุปสถานการณ์น้ำ หลักสี่ - ดอนเมือง ลดลง ด้านฝั่งตะวันตก เร่งเสริมแนวกั้นริมคลองมหาสวัสดิ์ 7 กม.

          กรุงเทพมหานคร ระบุ สถานการณ์ภาพรวมในพื้นที่เขตหลักสี่ และเขตดอนเมือง ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดลง จากการตรวจระดับในคันบิ๊กแบ๊ก ด้านถนนวิภาวดีรังสิต พบว่า น้ำลดลงประมาณ 25 เซนติเมตร ส่วนคลังสินค้า ลดลงประมาณ 15 เซนติเมตร และระดับน้ำบริเวณหลักหก ช่วงนอกแนวคันกั้นน้ำ ลดลงประมาณ 15 เซนติเมตร

          ขณะที่ ฝั่งธนบุรี ยังมีน้ำท่วมขังสูงอยู่ในหลายพื้นที่ ส่วนน้ำในคลองมหาสวัสดิ์ สูงกว่าพนังกั้นน้ำ บริเวณใกล้ประตูระบายน้ำ คลองทวีวัฒนา ประมาณ 5 - 10 เซนติเมตร ทำให้น้ำล้นเข้าท่วมในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ สำนักการระบายน้ำ กทม. จึงได้เร่งเสริมแนวกระสอบทรายบนสันเขื่อน ริมคลองมหาสวัสดิ์ เพื่อป้องกันน้ำล้นเขื่อนแนวริมคลองมหาสวัสดิ์แล้ว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จอีกประมาณ 7 วัน และขณะนี้ดำเนินการไปแล้วประมาณ 2 กิโลเมตร และจะดำเนินการให้แล้วเสร็จ ในระยะความยาว รวม 7 กิโลเมตร





[31 ตุลาคม] ดอนเมืองน้ำท่วมสูง - อพยพหมู่บ้านสายทิพย์

ดอนเมืองน้ำท่วมสูง-อพยพหมู่บ้านสายทิพย์ (ไอเอ็นเอ็น)

          ผอ.เขตดอนเมือง เผย ระดับน้ำในเขตท่วมสูงต่อเนื่อง ประสานเจ้าหน้าที่เร่งอพยพคนในหมู่บ้านสายทิพย์ หลังน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตรแล้ว


          นายภูมิพัฒน์ ดำรงเกียรติศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตดอนเมือง เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดในพื้นที่เขตดอนเมือง โดยระบุว่า ขณะนี้น้ำได้ท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนในบางจุดได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าน้ำท่วมสูงกว่า 1.80 - 2.00 เมตร และยังมีชาวบ้านที่ยังคงติดค้างและต้องการเดินทางออกจากพื้นที่ อาทิ หมู่บ้านสายทิพย์ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง ซ.เจริญวิภาวดี-รังสิต โดยในเช้าวันนี้อยู่ระหว่างการประสานกำลังเจ้าหน้าที่ทหารให้เข้าไปช่วยเหลือประชาชน ออกมาจากหมู่บ้านแล้ว

          อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. เดิมภายใน ท่าอากาศยานดอนเมืองนั้น น้ำยังคงท่วมสูง ส่วนประชาชนที่ยังยืนยันอาศัยอยู่ภายในนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง และพยายามช่วยเหลือ เพื่อให้อยู่ต่อได้แล้ว

          ทั้งนี้ ในส่วนของถนนวิภาวดี-รังสิต หน้าท่าอากาศยานดอนเมือง น้ำยังท่วมสูง และเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถนนวิภาวดี-รังสิต ขาออก ไม่สามารถเดินทางต่อไปยังอนุสรณ์สถานได้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจฝากเตือนประชาชนที่จะเดินทาง ควรตรวจสอบเส้นทางอย่างละเอียดด้วย












[27 ต.ค.] คันกั้นน้ำประตู 5 ดอนเมืองรั่ว จนท.เร่งอุดสำเร็จ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

 จากสถานการณ์น้ำในพื้นที่บริเวณสนามบินดอนเมืองที่ได้เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณประตู 5 ของสนามบินดอนเมืองที่มีคันกั้นน้ำระหว่างถนนวิภาวดี ได้พังลงมา ส่งผลให้น้ำไหลเข้าบริเวณสนามบินดอนเมืองอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังท่วมเต็มลาดจอดรถ แต่ ณ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการซ่อมแซมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 โดยทางเจ้าหน้าที่ ได้ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการซ่อมแซม โดยใช้หินคลุกมาเทและใช้กระสอบทรายกั้น จนขณะนี้ ได้เข้าสู่ภาวะปกติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



ศปภ.ประกาศคันทิศเหนือดอนเมืองแตกน้ำสูง (ไอเอ็นเอ็น)

          พนังกั้นนำทิศเหนือ ศปภ. แตก น้ำทะลักท่วมลานจอดรถ ต้องตัดไฟ ยกหม้อแปลงหนีน้ำโกลาหลเจ้าหน้าที่ เริ่มทยอยเข้าทำงาน

          สักครู่ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ ว่า พนังกั้นน้ำบริเวณทางทิศเหนือของท่าอากาศยานดอนเมืองแตก ทำให้น้ำทะลักท่วมลานจอดรถ และระดับน้ำได้เพิ่มความสูงจนเป็นอันตรายต่อหม้อแปลงไฟฟ้า ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตัดไฟเพื่อแก้ไขยกหม้อแปลงขึ้นก่อนจ่ายไฟฟ้าอีกครั้ง 

          สำหรับบรรยากาศทั่วไปที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานและกระทรวงต่าง ๆ เริ่มทยอยเดินทางมาบ้างแล้ว แต่วันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากท่าอากาศยานดอนเมือง มีน้ำท่วม ขังสูง รถเล็กผ่านไปมาได้ไม่สะดวก










น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54


น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง 26 ต.ค.54


 

[26 ตุลาคม] น้ำท่วมถนนวิภาวดี ช่วงดอนเมือง สูงถึง 1.5 เมตร
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ หอยทากตัวน้อย (พรดิลก กมลดิลก), ไทยโพสต์,

           เตรียมอพยพคนออกจากดอนเมือง 1,200 คนไปยังชลบุรี คาดเคลื่อนย้ายเสร็จภายในวันนี้ (26 ตุลาคม) ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมถนนวิภาวดีรังสิต ระดับน้ำสูงต่อเนื่อง หน้าสนามบินเพิ่มเป็น 1.5 เมตร

           วันนี้ (26 ตุลาคม) นางรัชนี สุดจิตต์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีอพยพผู้ประสบภัยออกจากดอนเมือง ว่า ทาง พม.ได้ประกาศว่าได้มีการจัดเตรียมพื้นที่อพยพ ประกอบด้วย สถาบันการพละศึกษาแห่งชาติ จ.ชลบุรี จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน และส่งกลับภูมิลำเนา โดยให้ประชาชนเลือกตามความสมัครใจ ปรากฏว่ามีประชาชน 1,200 คน มาลงทะเบียนที่จะเดินทางไป จ.ชลบุรี ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเคลื่อนย้ายให้เสร็จสิ้นภายในวันนี้ (26 ตุลาคม) ขณะที่ จ.นครปฐม และ จ.สมุทรสาคร มีประชาชนมาลงทะเบียนที่จะเดินทางไปประมาณ 100 คนเท่านั้น

           นางรัชนี กล่าวต่อไปว่า สำหรับประชาชนที่ยังพักอยู่ที่อาคารผู้โดยสารนั้น ทาง พม.ก็ยังดูแลอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ พร้อมกับประกาศให้ประชาชนเลือกพื้นที่ที่จะเดินทางไป เพราะได้รับแจ้งจาก ศปภ.ว่าให้เคลื่อนย้ายผู้อพยพออกจากพื้นที่ให้หมด แต่ขณะนี้ประชาชนบางส่วนยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะไปยังจังหวัดใด จึงคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ ประชาชนจะตัดสินใจและเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ได้

            ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมดอนเมือง บริเวณ ถ.วิภาวดีรังสิต ระดับน้ำที่พื้นผิวจราจรด้านหน้าอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.) อยู่ที่ประมาณ 30 ซม. ขณะที่ช่องการจราจรฝั่งขาออกมุ่งหน้าสู่รังสิตนั้น ระดับน้ำสูงถึง 1-1.5 เมตร ส่งผลให้รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ และน้ำทะลักเข้ามาในพื้นที่สนามบินอีกด้วย

 ศปภ. ดอนเมืองอพยพผู้ประสบภัยไปชลบุรี

             ศปภ.ดอนเมืองเตรียมอพยพผู้ประสบภัยไปชลบุรี หลังจากน้ำได้ทะลักเข้าสู่พื้นที่สนามบินดอนเมือง แต่เล็งสนามศุภชลาศัยไว้เป็นที่รองรับอีก 1 แห่ง ด้านสนามบินดอนเมืองปิดรันเวย์จนถึง 1 พ.ย.

             หลังจากน้ำได้ทะลักท่วมเข้าสู่พื้นที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งเป็นศูนย์อพยพของศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ทำให้ ศปภ. แจ้งให้ผู้อพยพเตรียมลงชื่อไปสถานพักพิงสถาบันการพลศึกษา จ.ชลบุรี มีผู้ลงทะเบียนกว่า 500 คน จาก 4,131 คน

             สำหรับ จ. ชลบุรี ยังมีศูนย์อพยพอีก 7 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ศึกษาพัฒนาชุมชน ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 2 มณฑลทหารบกที่ 14 ค่ายลูกเสือวชิราวุธ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน สวนสัตว์เปิดเขาเขียว และเทศบาลตำบลหนองไม้แดง ทั้งหมดรองรับได้ประมาณ 8,000 คน

             ด้านนายวิม รุ่งวัฒนจินดา โฆษก ศปภ. กล่าวว่า ขณะนี้กำลังติดต่อขอใช้สนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัย เป็นศูนย์อพยพ หลังจากที่ใช้สนามราชมังคลากีฬาสถาน อพยพผู้คนจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตมาแล้ว นอกจากนี้รัฐบาลกำลังมองหาสถานที่อื่น ๆ เพิ่มเติม อาทิ โบนันซ่า เขาใหญ่ หรือศาลากลางจังหวัดที่ไม่ถูกผลกระทบจากน้ำท่วม ค่ายทหารม้าอดิศร จ.สระบุรี แม้กระทั่งมหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรีก็อยู่ในลิสต์

             ทั้งนี้ นาวาอากาศเอกกันต์พัฒน์ มังคละศิริ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่าจะปิดเส้นทางการบินของสนามบินตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน เวลา 17.00 น. เพราะการที่น้ำทะลักเข้ามาสนามบิน ทำให้การจ่ายไฟฟ้ามีปัญหา รวมถึงการเดินอากาศแบบทัศนวิสัย และทำให้แรงเสียดทานการวิ่งของเครื่องบินต่ำลง อาจจะทำให้เครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์ได้

 




[26 ตุลาคม] ดอนเมืองน้ำท่วม 40-50 ซม. รถสัญจรไม่ได้


ท่าอากาศยานดอนเมือง





          ด้านหน้าท่าอากาศยานดอนเมือง ยังน้ำท่วมขัง 40 - 50 ซม. รถไม่สามารถสัญจรได้ ขณะ ถ.วิภาวดีรังสิต น้ำไหลถึงฝ่ายช่างการบินไทย แต่ยังไม่ถึง ศปภ.


          สถานการณ์น้ำท่วมที่บริเวณด้านหน้าท่าอากาศยานดอนเมือง บนเส้นทางคู่ขนานขาออกถนนวิภาวดีรังสิต ในเช้าวันนี้ ยังคงมีน้ำท่วมขังผิวการจราจร โดยลักษณะจะท่วมเป็นช่วง ๆ สูงประมาณ 40 - 50 ซม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้แล้ว โดยประชาชนที่จะเดินทางไปยังรังสิต หรือ จ.ปทุมธานี ได้ตกค้าง และรอโบกรถจากเจ้าหน้าที่ทหาร หรือรถโฟว์วิวขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก ขณะที่รถบริการ ขสมก. จะให้บริการรับส่งถึงหน้าสถานีตำรวจดอนเมือง เท่านั้น เช่นเดียวกันกับทางคู่ขนานขาเข้าฝั่งกรุงเทพมหานคร บนถนนวิภาวดีรังสิต ปริมาณน้ำได้ไหลมาจนถึงฝ่ายช่างการบินไทย โดยน้ำดังกล่าวมาจากท่อระบายน้ำเป็นส่วนใหญ่ และสูงประมาณ 10 - 20 ซม.

          โดยในส่วนของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ได้มีการเตรียมกระสอบทรายกั้นบริเวณด้านหน้าสูงประมาณ 1 เมตร โดยน้ำยังเข้าไปไม่ถึงแต่อย่างใด



 ข่าวน้ำท่วม บริจาคผู้ประสบภัยน้ำท่วม คลิกเลยค่ะ 











 [22 ตุลาคม] ผอ.ดอนเมือง ห่วงน้ำคลองเปรมฯ เพิ่มสูง

         ผอ.เขตดอนเมือง เผย น้ำในคลองเปรมประชากรมีระดับสูง ประสานสถานีสูบน้ำในเขต บางซื่อ ดุสิต สามเสน เร่งดึงน้ำ หวั่นท่วมชุมชนริมคลอง

         นายภูมิพัฒน์ ดำรงเกียรติศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตดอนเมือง เปิดเผย สถานการณ์น้ำในคลองเปรมประชากรว่า ขณะนี้ ระดับน้ำได้มีระดับสูงมาก และเกือบเท่ากับระดับน้ำในคลองประปาแล้ว ส่งผลให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองเปรมประชากร ต้องเริ่มเก็บข้าวของขึ้นที่สูง และต้องเฝ้าระวังเป็นอย่างใกล้ชิด

         ขณะเดียวกัน หากปริมาณน้ำในคลองปรมประชากร ยังไม่มีระดับลดลง ก็อาจส่งผลให้เข้าท่วมหลายพื้นที่ได้ เนื่องจากคลองเปรมประชากร เป็นคลองที่ตัดผ่าน กรุงเทพฯ ชั้นใน และสำนักเขตหลายจุด สถานีสูบน้ำที่อยู่บริเวณสำนักเขต บางซื่อ สามเสน และดุสิต จำเป็นต้องเร่งสูบน้ำ เพื่อดึงน้ำออกคลองเปรมประชากรให้ได้














ภาพน้ำท่วมวัดพุทธ ดอนเมือง ติดคลองประปา อัพเดต 21/10/54 เวลา 14.00น.


ภาพน้ำท่วมกรมการสื่อสารทหาร ดอนเมือง อัพเดต 21/10/54 เวลา 14.00น.


ภาพน้ำท่วมดอนเมือง 21/10/54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมดอนเมือง 21/10/54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมดอนเมือง 21/10/54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมดอนเมือง 21/10/54

น้ำท่วมดอนเมือง 2554
น้ำท่วมดอนเมือง 21/10/54

[21 ตุลาคม]ชาวทุ่งสีกัน เร่งอพยพ หลังระดับน้ำสูงต่อเนื่อง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3, ไทยพีบีเอส, http://www.pantip.com/cafe/news/topic/NE11226964/NE11226964.html, เฟซบุ๊ก Gorrilar Toob


          ประชาชนในหมู่บ้านปิ่นเจริญ แขวงทุ่งสีกันเขตดอนเมืองเร่งอพยพข้าวของออกจากพื้นที่ หลังน้ำจากคลองประปาได้เอ่อล้นเข้าท่วมหมู่บ้านตั้งแต่กลางดึกของคืนที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง

          วันนี้ (21 ตุลาคม) สถานการณ์น้ำจากคลองประปาได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ถนนนาวงประชาพัฒนา แขวงทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้ขณะนี้ระดับน้ำภายในหมู่บ้านปิ่นเจริญ เพิ่มสูงกว่า 50 เซนติเมตร ประชาชนต่างพากันขนย้ายข้าวของออกจากหมู่บ้านกันจ้าละหวั่น 

          ทั้งนี้ แขวงทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง เป็นหนึ่งใน 3 แขวงที่ทางกรุงเทพมหานคร เพิ่งประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนที่น้ำจากคลองประปาจะไหลเข้าท่วมพื้นที่ โดยน้ำที่ไหลมาจากคลองประปาจะไหลข้ามถนนนาวงประชาพัฒนา ถนนเทิดราชันย์ ไปสมทบกันที่คลองนายกิม ก่อนจะไหลลงสู่คลองเปรมประชากร ตลอดเส้นทางของน้ำ ยังมีชุมชนและหน่วยงานราชการ ที่ได้รับผลกระทบ โดยที่ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าให้การช่วยเหลือ

          ด้าน นายภูมิพัฒน์ ดำรงเกียรติศักดิ์ ผอ.เขตดอนเมือง เปิดเผยว่า ปัญหาน้ำท่วมเขตดอนเมือง เกิดจากการประปานครหลวงควบคุมน้ำไม่ได้จึงทำให้ชาวบ้านในเขตดอนเมืองได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้จัดโรงเรียนของ กทม.เป็นศูนย์พักพิง ได้แก่ โรงเรียนประชาอุทิศ, วัดดอนเมือง, บำรุงรวิวรรณ, เปรมประชา, เทคนิคดอนเมือง รวมถึงวัดเวฬุวนารามด้วย

คลองประปาไหลท่วม หมู่บ้านปิ่นเจริญ-ดอนเมือง



          ชาวบ้านปิ่นเจริญแตกตื่น อพยพข้าวของกลางดึก หลังน้ำจากคลองประปาเอ่อทะลักไหลเข้าท่วมหมู่บ้านครั้งแรกในรอบหลายสิบปี

          เมื่อช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา (20 ตุลาคม) น้ำจากคลองประปาได้ไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านปิ่นเจริญ โครงการ 4 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กว่า 400 หลังคาเรือน ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเกือบ 1 เมตร ส่งผลให้ชาวบ้านต่างเร่งรีบขนย้ายข้าวของออกจากพื้นที่กลางดึกอย่างไม่ทันตั้งตัว เนื่องจากคาดไม่ถึงว่าน้ำจะไหลเข้าท่วมหมู่บ้าน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี

          นอกจากนี้กระแสน้ำยังไหลข้ามไปยังถนนนาวงประชาพัฒนา ที่จะมุ่งหน้าไปยังถนนสรงประภา จนถึงถนนวัดเวฬุวนาราม หรือวัดไผ่เขียวซึ่งถูกน้ำท่วมมาก่อนหน้านี้ตั้งแต่เมื่อช่วงหัวค่ำของเมื่อวาน ในส่วนของเขตพื้นที่ดอนเมืองขณะนี้ระดับน้ำบริเวณชุมชนเลียบคลองประปา ตั้งแต่เมืองทองธานี 1 ซอยแจ้งวัฒนะ 14 เพิ่มสูงขึ้น บางจุดท่วมสูงถึงระดับเอว  ขณะที่ ถ.วัดเมฬุวนาราม (วัดไผ่เขียว) น้ำท่วมขังค่อนข้างสูง

          ทางด้านเจ้าหน้าที่อาสาสมัครเคหะแจ้งวัฒนะ เปิดเผยว่า คลองตาอูฐที่เชื่อมต่อดอนเมืองหลักสี่ระดับน้ำได้ล้นจากคลองสูงเกือบถึงคอสะพาน อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ชาวบ้านในชุมชนยังรอการแจ้งข่าวจากทางราชการว่าประมาณการระดับน้ำจะสูงสุดที่ระดับใด เพื่อวางแผนการอพยพต่อไป


เตือนย้ายของขึ้นที่สูง! ดอนเมือง - หลักสี่ เสี่ยงท่วม


พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก


        ดอนเมือง - หลักสี่ เสี่ยงท่วม เขื่อนกั้นน้ำหลักหกอาจต้านไม่ไหว รวมไปถึงคลองประปารั่วตลอดแนว เตรียมเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

         วานนี้ (20 ตุลาคม) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ผอ.ศปภ.) แถลงว่า เนื่องจากมวลน้ำในคลองระพีพัฒน์ ซึ่งมีปริมาณมากและเชี่ยวกรากสูง กำลังจะเคลื่อนเข้าสู่ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ทั้งนี้เขื่อนกั้นน้ำบริเวณหลักหกอาจจะต้านทานไม่ไหว จึงขอให้ประกาศให้ประชาชนในเขตดอนเมือง และหลักสี่ รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียง เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และควรปฏิบัติดังนี้...

        1.ย้ายของมีค่าและปลั๊กไฟขึ้นที่สูง 1 เมตรขึ้นไป

        2.เตรียมอุปกรณ์ส่องสว่างในเวลากลางคืน

        3.ถ้ามีความประสงค์จะเคลื่อนย้ายรถยนต์ส่วนตัวไปไว้ที่อื่น ขอให้นำไปจอดที่ลานจอดรถสนามบินสุวรรณภูมิ





         ทางด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้แถลงข่าวภายหลังการประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารของ กทม. ถึงปัญหาไหลเข้าท่วมคองประปาเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา ว่า เดิมตนคาดว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ปรากฏว่า ระดับน้ำในคลองประปาไม่ได้ลง ขณะนี้เหมือนกับว่าคลองประปาทำหน้าที่เป็นแนวทางระบายน้ำจากเหนือลงใต้ หรือคลองประปาเปรียบเหมือนเป็นท่อระบายน้ำไปแล้ว ต่อมาพบว่า บายริเออร์ทั้งสองฝั่งของริมคลองประปา ไม่ได้ซึมอย่างเดียว แต่มีลักษณะรั่วทำให้น้ำได้เข้าท่วมในเขตหลักสี่ และดอนเมือง โดยเฉพาะในเขตหลักสี่ บายริเออร์ได้รั่วตลอดแนว จึงทำให้มีน้ำเข้ามาในพื้นที่ใกล้เคียง จึงเกรงว่า ถ้าไม่มีการแก้ไขบายริเออร์ดังกล่าว อาจจะทำเสียหายทั้งหมด จึงทำให้ปริมาณน้ำที่รั่วเข้ามามีปริมาณกว่านี้

         ทั้งนี้ กทม.อยากจะเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ แต่ทรัพยากรบุคคลและเครื่องมือต่าง ๆ ได้ถูกนำไปช่วยในพื้นที่ กทม. ฝั่งเหนือ และตะวันออก โดยเฉพาะที่เขตสายไหม ที่จะเร่งสร้างคันแนวกั้นน้ำริมแนวคลองหกวา จึงไม่สามารถไปช่วยประชาชนในสองเขตนี้ได้โดยเร็ว จึงได้ประสานไปยัง ศปภ.ให้พยายามลดระดับน้ำในคลองประปา ด้วยการปิดไซฟ่อนที่รังสิต และให้ ศปภ. รับภาระดูแลพื้นที่หลักสี่ และดอนเมือง เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นผลสืบเนื่องมาจากคลองประปา เพราะคลองประปาถือว่าเป็นจุดเดียว ที่ กทม.ไม่สามารถเข้าไปสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมได้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ทาง กทม.จะเข้าไปซ่อมบายริเออร์ที่เสียหาย เพราะเป็นพื้นที่ของการประปานครหลวง จึงขอให้ทางศปภ.เข้าไปดำเนินการซ่อมแซมด้วย

         ผู้ว่า กทม. กล่าวอีกว่า กทม. ขอประกาศแจ้งเตือนว่ามีพื้นที่ที่จะมีการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วม เพิ่มเติม อีก 3 จุด ประกอบด้วย 1. แขวงทุ่งสีกัน 2.แขวงดอนเมือง ในเเขตดอนเมือง และ 3.แขวงทุ่งสองห้อง ในเขตหลักสี่ พร้อมทั้งให้มีการเพิ่มศูนย์อพยพในพื้นที่ทั้งสองเขต ประกอบด้วย เขตดอนเมือง 6 แห่ง เขตหลักสี่ 5 แห่ง

         




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไม่รื้อบิ๊กแบ็ก! ชาวบ้านให้ 3 วันซ่อมเครื่องสูบ อัปเดตล่าสุด 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา 07:33:42 329,364 อ่าน
TOP