เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เรื่องของจำนวนประชากรโลกที่นับวัน ๆ ดูจะมีแต่แนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ได้กลับมาเป็นประเด็นให้ได้ถกเถียงกันอีกครั้ง เพราะล่าสุดทางยูเอ็นได้ออกมาแถลงการคาดการณ์จำนวนตัวเลขประชากรเอาไว้ว่า ในปีค.ศ. 2100 โลกกลม ๆ ใบนี้จะมีประชากรอยู่ร่วมกันมากถึง 1.5 หมื่นล้านคนเลยทีเดียว!!
สหประชาชาติ หรือ "ยูเอ็น" (UN) ได้เปิดเผยถึงข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากรโลกเอาไว้ว่า จากก่อนหน้านี้ที่เคยมีการคาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าว่า จะมีประชากรเพิ่มสูงถึง 7 พันล้านคนนั้น มาในวันนี้ตัวเลขนั้นได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เนื่องจากพบว่าอัตราการเกิดของแต่ละประเทศมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตรงกันข้ามกับอัตราการเสียชีวิตที่ดูจะลดน้อยลง ๆ ไปทุกที ประกอบกับวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ดีมากขึ้น ซึ่งหากเป็นแบบนี้ ก็จะทำให้ในปี ค.ศ. 2100 จะมีประชากรสูงถึงกว่า 1.5 หมื่นล้านคน
ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เมื่อจบปี ค.ศ. 2011 นี้ไป ทั่วโลกจะมีประชากรอยู่ร่วมกันอย่างมากมายด้วยตัวเลขกลม ๆ คือ 7 พันล้านคน โดยเฉพาะในประเทศจีนด้วยแล้ว จะมีประชากรอาศัยกันมากถึง 1.33 หมื่นล้านคนเลยทีเดียว ขณะที่ในปี ค.ศ. 2050 จะเป็นประเทศอินเดียที่จะแซงจีนขั้นมาเป็นอันดับหนึ่งของประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ด้วยจำนวนกว่า 1.69 หมื่นล้านคน
เกี่ยวเรื่องนี้ นายโรเจอร์ มาร์ติน ประธาน "Population Matters" ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รณรงค์เรื่องการคุมกำเนิด ได้กล่าวไว้ว่า การที่ประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แบบนี้ จะส่งผลอันตรายต่อโลกใบนี้มาก ๆ เนื่องจากทรัพยากรทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือพลังงานต่าง ๆ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศที่พร้อมจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของของประชากรทั้งหมดโดยตรง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ศาสตราจารย์ แจ็ค โกล์ดสโตน จากมหาวิทยาลัยจอร์จ เมสัน (George Mason University) ของสหรัฐฯ ได้เห็นต่างกับข้อมูลของทางยูเอ็น โดยเขามองว่าประเทศต่าง ๆ จะไม่ปล่อยให้จำนวนประชากรมีเพิ่มสูงขึ้นอย่างที่ไม่มีขีดจำกัดอย่างแน่นอน เพราะยังไงซะ แต่ละประเทศก็จะต้องมีวิธีด้านจัดการอย่างดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะในเรื่องของการวางแผนครอบครัว ที่เป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ โกล์ดสโตน ยังชี้ให้เห็นอีกว่า ด้วยตัวเลขจำนวน 1.5 หมื่นล้านคนดังที่กล่าวไปนั้น จัดเป็นตัวเลขที่เกิดจากการคาดการณ์ที่มากเกินควร โดยตัวเลขจริง ๆ อาจจะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยแค่ 10 - 12 ล้านคนเท่านั้น
