เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก backinprc.blogspot.com
แหล่งข่าวของจีนรายงานเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ที่ผ่านมาว่า นายฉาน จี๋เซียง ผู้อำนวยการ หน่วยงานบริหารมรดกทางวัฒนธรรมของจีน ได้ออกมาเปิดเผยถึงผลการสำรวจมรดกทางวัฒนธรรมประเภทที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ โดยการสำรวจครั้งล่าสุดนี้เป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่จีนได้ประกาศตัวเป็น สาธาณรัฐประชาชนจีน ในปี ค.ศ.1949 ผลการสำรวจพบว่า มีสถานที่สำคัญในแง่มรดกทางวัฒนธรรมของจีนทั้งที่มีชื่อเสียงและไม่มีชื่อ เสียง สูญหายไปจากที่ตั้งเดิมราว 40,000 แห่ง จากรายชื่อสถานที่ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานบริหารมรดกทางวัฒนธรรมจำนวน 766,722 แห่ง
นอกจากนี้ ร้อยละ 17.7 อยู่ในสภาพขาดการดูแลเอาใจใส่ ร้อยละ 8.43 อยู่ในสภาพทรุดโทรมต้องได้รับการบำรุงซ่อมแซม
ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่โบราณสถานเก่าแก่นับหมื่นแห่งถูกทำลาย เนื่องมาจากถูกรื้อถอนเพื่อการก่อสร้างเพื่อความเจริญทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในมณฑลชานซี อันเป็นสถานที่ที่มีหุ่นนักรบโบราณที่มีชื่อเสียง นับเป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบร้ายแรงที่สุด ผลสำรวจระบุว่าในมณฑลชานซีเพียงแห่งเดียวก็มีจำนวนโบราณสถานที่ถูกทำลายสูญ หายไปแล้วถึง 3,500 แห่ง
นอกจากนี้ สถานที่สำคัญอันนับเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่างกำแพงเมืองจีน ก็มีการสำรวจพบว่ามีความทรุดโทรม ทั้งจากการละเมิดกฏของนักป่ายปีนทั้งหลาย รวมถึงชาวบ้านที่ตั้งด่านเก็บค่าธรรมเนียมเข้าชมเองโดยพลการ ทำให้การควบคุมทั้งปริมาณและคุณภาพของนักท่องเที่ยวเป็นไปได้ยาก รวมทั้งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ยังมีรายงานว่ามีคนงานได้ลอบขุดเจาะกำแพงเมืองจีนส่วนที่สร้างขึ้นมาในยุค ราชวงศ์ฉิน เพื่อหาทองคำที่หวังว่าอาจถูกซ่อนอยู่ในกำแพงอีกด้วย