x close

น้องกุ๊กกิ๊ก หนูน้อยกำลังใจเกินร้อย แม้โดนรถหกล้อทับจนเสียขาไป


น้องกุ๊กกิ๊ก หนูน้อยกำลังใจเกินร้อย แม้โดนรถหกล้อทับจนเสียขาไป

น้องกุ๊กกิ๊ก หนูน้อยกำลังใจเกินร้อย แม้โดนรถหกล้อทับจนเสียขาไป

น้องกุ๊กกิ๊ก หนูน้อยกำลังใจเกินร้อย แม้โดนรถหกล้อทับจนเสียขาไป
 
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube.com โพสต์โดยคุณ  CiNNtv1

           กำลังใจเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในยามที่คนเราต้องเผชิญเรื่องหนักหนาสาหัสในชีวิต เพราะแม้จะเกิดเรื่องน้อยใหญ่มากมายเพียงใดก็ตาม แต่ขอเพียงแค่เรามีกำลังใจแล้ว เราจะสามารถผ่าฝันเรื่องทุกอย่างไปได้อย่างง่ายดาย เหมือนกับที่ทางรายการตีสิบได้นำเสนอเรื่องราวของน้องกุ๊กกิ๊ก เด็กหญิงธีระรินทร์ อินพิลา หนูน้อยผู้เคราะห์ร้ายที่โดนรถ 6 ล้อชน และทับขาจนกระทั่งอวัยวะเพศรวมทั้งรูทวารหายไปทั้งหมด โดยเมื่อวันอังคาร ที่ 10 มกราคม น้องกุ๊กกิ๊ก  ได้มาถ่ายทอดเรื่องราวของเธอ พร้อมกับคุณแม่ ถึงกำลังใจที่ไม่มีวันหมด

           ก่อนอื่น น้องกุ๊กกิ๊ก ได้เล่าย้อนถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นซึ่งทำให้เธอต้องเสียขาไปนี้ให้ฟังว่า คุณตาขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนเธอเป็นคนซ้อนท้าย เมื่อคุณตาขี่รถพาเธอไปถึงสามแยก คุณตาได้จอดรอเพื่อเตรียมที่จะเลี้ยวขวา ทันใดนั้น มีรถหกล้อบรรทุกอ้อยที่แซงรถคันอื่นมา ชนเข้ากับรถจักรยานยนนต์ของเธออย่างจัง ทำให้คุณตากระเด็นลอยไปตกอีกฟากหนึ่งของถนน แต่อนิจจาตัวเธอตกจากมอเตอร์ไซต์แต่กลับไปอยู่ใต้ท้องรถหกล้อ โดยที่ขาของซ้ายของเธอโดนล้อหน้าของรถทับอยู่ ไม่สามารถขยับพลิกตัวไปไหนได้เลย

น้องกุ๊กกิ๊ก หนูน้อยกำลังใจเกินร้อย แม้โดนรถหกล้อทับจนเสียขาไป

น้องกุ๊กกิ๊ก หนูน้อยกำลังใจเกินร้อย แม้โดนรถหกล้อทับจนเสียขาไป

           ในขณะที่น้องกุ๊กกิ๊ก หนูน้อยผู้เคราะห์ร้าย กำลังโดนล้อรถทับขา เจ็บปางตายอยู่นั้น แต่เธอกลับได้ยินสิ่งที่คนขับพูดออกมาว่า "เด็กยังไม่ตาย  ถ้ายังไม่ตายก็ต้องเสียค่ารักษาพยาบาล ต้องชดใช้ค่าเสียหาย แถมติดคุกอีกต่างหาก แต่ถ้าตาย ก็เสียค่าทำศพแค่นั้น" ว่าแล้ว คนขับก็ถอยรถกลับมาทับขาหนูน้อยอีกครั้ง ทับไปถึงสะโพก ก่อนลงจากรถแล้ววิ่งหนีไป

           คุณแม่ของน้องกุ๊กกิ๊กเล่าว่า ตอนนั้นสภาพของน้องกุ๊กกิ๊กแย่มาก ขาตั้งแต่ส่วนสะโพกข้างซ้ายขาดออกจากกันแล้ว ต้องรออยู่นานกว่ารถพยาบาลจะมา แต่โชคดีที่มีคุณครู ซึ่งสอนตั้งแต่รุ่นตนมาจนถึงสอนน้องกุ๊กกิ๊กช่วยพาน้องกุ๊กกิ๊กส่งโรงพยาบาล และน้องกุ๊กกิ๊กก็หมดสติไปถึง 2 วัน คุณหมอต้องช่วยกันปั๊มหัวใจน้องกุ๊กกิ๊กให้ฟื้นคืน แต่หมอก็บอกให้ทำใจว่า เพราะโอกาสรอดมีไม่มาก ตอนนั้นตนยอมรับว่า ทำอะไรไม่ถูก พอเห็นสภาพลูกก็สงสาร แต่หมอก็บอกว่า อย่าร้องไห้ให้ลูกเห็น เดี๋ยวลูกจะไม่มีกำลังใจ ตนก็ทนดูได้ไม่นานก็ต้องออกมาร้องไห้ข้างนอก ด้วยหัวอกแม่ที่เป็นห่วงลูกจับใจ

           แต่ด้วยปาฏิหาริย์ คุณหมอก็สามารถช่วยน้องกุ๊กกิ๊กไว้ได้ หลังจากการนอนสลบไปถึง 2 วัน น้องกุ๊กกิ๊กได้ย้ายมารักษาตัวที่ห้องไอซียูต่อ วินาทีแรกที่น้องกุ๊กกิ๊กฟื้นขึ้นมา ก็ร้องไห้ แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ ด้วยเพราะสายระโยงระยางจากเครื่องมือการแพทย์ที่กำลังช่วยชีวิตไว้ ผ่านไปไม่นาน น้องกุ๊กกิ๊กเริ่มรู้สึกแล้วว่า ขาเธอหายไป เธอจึงได้เอื้อนเอ่ยคำถามด้วยน้ำเสียงอันใสซื่อบริสุทธิ์ว่า "แม่จ๋า ขาหนูหายไปไหน" เพราะขยับตัวก็ไม่ค่อยได้ จะลุกขึ้นนั่งก็ทำไม่ได้ ตอนแรกน้องกุ๊กกิ๊กก็ได้แต่ร้องไห้จนต้องมีหมอจิตเวชมาช่วยดูแล คอยปลอบใจ และหลังจากนั้น อาการก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ตามที่เห็นในปัจจุบัน

น้องกุ๊กกิ๊ก หนูน้อยกำลังใจเกินร้อย แม้โดนรถหกล้อทับจนเสียขาไป

           นอกจากนี้ น้องกุ๊กกิ๊กยังได้เปิดแผลที่เกิดขึ้นให้ดู พร้อมอธิบายวิธีการรักษาของหมอด้วยว่า ตอนนี้เธอไม่มีรูทวารหนักและอวัยวะเพศแล้ว นั่นหมายถึงว่า เธอไม่สามารถขับถ่ายเองได้ เธอจึงต้องต่อสายตรงหน้าท้อง เพื่อช่วยขับถ่ายของเสียออกมาจากร่างกาย และคุณหมอก็ได้ลอกเอาผิวหนังจากขาข้างที่ยังมีอยู่มาแปะผิวหนังในบริเวณรอยต่อของขาข้างที่ขาดด้วย

           แต่แม้น้องกุ๊กกิ๊กจะพิการทางร่างกาย แต่บอกได้เลยว่า เธอไม่เคยพิการทางจิตใจ เพราะน้องกุ๊กกิ๊กคนนี้ เธอเป็นคนที่ไม่เคยท้อแท้สิ้นหวังเลย มาถึงตอนนี้เธอกำลังใจดีมาก เพราะขณะที่เธอเล่าเรื่องสุดสะเทือนใจที่เกิดขึ้นกับตัวเธอเองนั้น เธอสามารถเล่าด้วยน้ำเสียงสดใส ร่าเริง ไม่มีแววตาของความเศร้าหลงเหลืออีกต่อไป เธอสามารถพูดเล่น หยอกล้อ แม้กระทั่งสามารถบอกชื่อโรคที่เธอกำลังเป็นอยู่ ซึ่งเป็นศัพท์เทคนิคทางการแพทย์ที่เป็นภาษาอังกฤษ และอธิบายมันออกมาได้ดีด้วย แสดงให้เห็นถึงความเป็นเด็กที่ร่าเริง มีกำลังใจพร้อมที่จะสู้กับสิ่งที่จะเข้ามาในชีวิต โดยประโยคสำคัญที่เธอมักท่องขึ้นใจเพือให้กำลังใจตนเองก็คือ

น้องกุ๊กกิ๊ก หนูน้อยกำลังใจเกินร้อย แม้โดนรถหกล้อทับจนเสียขาไป

           "แม้เสียขาไป 1 ข้างแต่เธอยังมีมืออีก 2 ข้างที่มันสามารถทำอะไรได้อีกมากมายในชีวิต"

           และในขณะที่น้องกุ๊กกิ๊กพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เธอก็ร่วมกิจกรรมของทางโรงพยาบาลมากมาย ทั้งเข้าประกวดหนูน้อยเสียงดีจนได้รับรางวัลชนะเลิศ ตลอดเป็นหนูน้อยขวัญใจของคนไข้เด็ก ๆ ในโรงพยาบาล รวมทั้งยังเป็นจิตอาสา ช่วยให้กำลังใจ ปลอบใจผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายให้มีชีวิตต่อไปอีกด้วย



คลิป รายการตีสิบ : หกล้อขยี้..อวัยวะเพศแหลก 1




คลิป รายการตีสิบ : หกล้อขยี้..อวัยวะเพศแหลก 2


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
น้องกุ๊กกิ๊ก หนูน้อยกำลังใจเกินร้อย แม้โดนรถหกล้อทับจนเสียขาไป อัปเดตล่าสุด 12 มกราคม 2555 เวลา 15:59:30 32,807 อ่าน
TOP