เมื่อวันที่ 16 มกราคม สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า นักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยบาเซิล ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่ทำงานในประเทศอียิปต์ ได้ค้นพบมัมมี่ที่เป็นนักร้องในหุบเขาแห่งกษัตริย์โดยบังเอิญ ซึ่งมัมมี่ตนนี้มีนามว่า เนเมส บาสเท็ท (Nehmes Bastet) จากคำบรรยายที่เขียนเอาไว้ข้างสุสาน กล่าวว่า เธอเป็นนักร้องในโบสถ์ระหว่างช่วงราชวงศ์ที่ 22 ของอียิปต์ (ประมาณ 945-712 ปีก่อนคริสตกาล) โดยภายในหีบศพของเธอนั้น มีมัมมี่อายุราว 3,000 ปี นอนอยู่ และที่สำคัญ ศพของเธอไม่เคยได้รับความเสียหายใด ๆ นับว่านี่เป็นอีกหนึ่งการค้นพบมัมมี่ที่หุบเขาแห่งกษัตริย์ แต่มัมมี่เองไม่ใช่สมาชิกของราชวงศ์ ซึ่งมัมมี่เหล่านี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงราชวงศ์ที่ 18 แห่งอียิปต์ (1500-1400 ปีก่อนคริสตกาล)
ศาสตราจารย์ ซูซาน บิคเคล จากมหาวิทยาลัยบาเซิล กล่าวว่า มีการเปิดหีบศพมัมมี่ในตอนเช้า และศพมัมมี่เองนั้นก็ถูกห่อผ้าเอาไว้อย่างดี โดยมีการขุดพบชั้นบนสุดของสุสานเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2011 ซึ่งตรงกับวันปฏิวัติในอียิปต์ บนฝาหลุมก็ปิดผนึกอย่างดีด้วยเหล็ก และข่าวการค้นพบมัมมี่นี้ ก็เก็บเป็นความลับมาโดยตลอด
ทั้งนี้ เอลิน่า พอลลีน-โกรเธ่ หนึ่งในทีมนักโบราณคดี กล่าวว่า สุสานแห่งนี้ ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อมัมมี่นักร้อง แต่สุสานเเห่งนี้ เป็นสุสานที่นำกลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากที่มีการฝังศพแรกไปแล้วกว่า 400 ปี ส่วนมัมมี่เองนั้น เป็นลูกสาวของพระที่ทำหน้าที่บูชาพระอาทิตย์ ซึ่งการค้นพบครั้งนี้ มีความสำคัญเพราะว่า เป็นการแสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีเพียงสมาชิกราชวงศ์เท่านั้น ที่ถูกฝังในหุบเขาแห่งกษัตริย์ หากแต่รวมไปถึงบุคคลธรรมดาและพระในราชวงศ์ที่ 22 ของอียิปต์อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการรายงานจากสำนักข่าวอับราม แห่งประเทศอียิปต์ ด้วยว่า โลงศพไม้ที่ใช้ฝังมัมมี่นั้น มีสีดำและเต็มไปด้วยอักษรภาพเฮียโรกริฟิค โดยหลุมศพนี้ เป็นหลุมศพที่ 2 ที่ถูกค้นพบที่หุบเขาแห่งกษัติรย์ หลังจากมีการค้นพบหลุมศพของกษัตริย์ตุตันคามุน ในปี 1922 ทั้งนี้ มีการเรียกหลุมศพของมัมมี่เนเมส ว่า เควี64 (KV64) ตามระบบการเรียกชื่อหลุมศพ โดยหลุมศพของเธอนั้น เป็นหนึ่งในหลุมศพที่ไม่มีการตกแต่งใด ๆ บนฝาผนังใกล้กับหลุมศพของกษัตริย์ ทุทโมเสส ที่ 3 (Thutmoses III.)
