พลุระเบิดสุพรรณบุรีแจ้งข้อหา 2 คน (ไอเอ็นเอ็น)
รองผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เผยจับกุม 2 ผู้ต้องหา เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี ระบุ เร่งสืบสวนคนจุดพลุเพิ่มอีก
พ.ต.อ.สุทธิ พวงพิกุล รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า กรณีเหตุพลุระเบิดพิธีเปิดงานฉลองเทศกาลตรุษจีน ปีมังกรทอง ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี อุทยานมังกรสวรรค์ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร เมื่อคืนวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น
ขณะนี้จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 คน ทราบชื่อ นายสยาม สารเซ็น อาชีพพนักงานบริษัทคอมอาร์ท มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับเอฟเฟ็กต์พลุ และนายสายธาร แผนดี อาชีพรับเหมาพลุมาจุดและควบคุมการจุดพลุในงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหากระทำโดยประมาท เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนเจ้าหน้าที่จุดพลุนั้น ตำรวจกำลังเร่งสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อขยายผลต่อไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าสำนวนในคดีนี้จะแล้วเสร็จประมาณ 1 เดือน
[28 มกราคม] ชาวบ้าน เผย พลุระเบิด ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
ชาวบ้านพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ครวญยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ พร้อมแห่ไหว้ศพหลวงพ่อโพธิ์ เชื่อบารมีคุ้มครองวัด
หลังจากเกิดเหตุการณ์พลุระเบิดในงานฉลองตรุษจีน ฉลองมังกรสวรรค์ ที่บริเวณศาลหลักเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนกว่า 700 หลัง มีผู้เสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บกว่าอีก 600 คน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.ที่ผ่านมา วันที่ 24 มกราคม ทำให้นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตผู้ว่า และ อดีต ส.ส. จังหวัดสุพรรณบุรี เร่งให้งบช่วยเหลือฉุกเฉินเบื้องต้นรายละ 5,000 บาท และเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ยังคงทยอยเข้าแจ้งความเสียหายกับตำรวจอย่างต่อเนื่อง และยังมีชาวบ้านจากทุกสารทิศ มากราบไหว้พระผงสุพรรณยักษ์ หลวงพ่อโพธิ์ อดีตเจ้าอาวาสและพระปรางค์ ที่ไม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่า ด้วยบารมีของหลวงพ่อ จึงทำให้ไม่ได้รับความเสียหาย
ด้านนายคเชนทร์ จาดทองคำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ที่หมู่ 1 ตำบลรั้วใหญ่ ก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์พลุระเบิดในครั้งนี้ และหมู่บ้านเสียหายกว่า 180 หลังคาเรือน เกิดไฟไหม้จำนวน 1 หลัง และจ่ายค่าเสียหาย 50,000 บาทไปแล้ว 3 หลัง นอกจากนี้ ยังได้มีการแจกถุงยังชีพให้แก่ชาวบ้านจำนวนอีก 100 ชุด ส่วนการช่วยเหลือต่อไปนั้น ต้องมาดูว่าจะช่วยเหลือได้อย่างไร อย่างเช่นเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือการเกษตร ก็ไม่มีใครกล้ารับรอง แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องจิตใจของประชาชน
นอกจากนี้ ชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายยังได้ออกมาให้สัมภาษณ์ อย่างเช่น นางอัมรีย์ ทะนะปราบ อายุ 32 ปี กล่าวว่า ตนไม่ได้รับเงิน 50,000 บาท เนื่องจากบ้านที่ตนเองอยู่เป็นบ้านเช่า และเจ้าของบ้านก็รับเงินส่วนนี้ไป และเรื่องทรัพย์สินที่เสียหาย ตนต้องได้รับค่าชดเชยที่คุ้มค่า หากไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว ตนเองจะไม่ยอมเด็ดขาด หรือนางสาววิเวก เสื้อนุ้ย อายุ 21 ปี ที่บอกว่าตนเองอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด แต่วันเกิดเหตุไม่อยู่บ้าน เข้ามาพบน้อง ๆ วิ่งหนีตายกันอลหม่าน ส่วนเรื่องค่าซ่อมบ้าน ถ้ามีค่าชดเชยก็ดี แต่หากไม่มีก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
ทั้งนี้ ยังมีชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่ง ที่เดินทางมาดูศพหลวงพ่อโพธิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ได้ให้สัมภาษณ์เช่นกัน อาทิ นางสาวหนึ่งฤทัย หนูสวัสดิ์ ชาวบ้านอำเภอสองพี่น้อง กล่าวว่า ตนทราบเรื่องพลุระเบิดและบ้านเรือนเสียหายไปกว่า 700 หลังคาเรือน ส่วนวัดพระศรีรัตนมหาธาตุนั้น ก็เสียหายหลายจุดมาก แต่บริเวณที่ตั้งศพหลวงพ่อโพธิ์ อดีตเจ้าอาวาส พระผงสุพรรณขนาดยักษ์ และพระปรางค์ ที่ไม่มีร่องรอยความเสียหายนั้น เป็นเรื่องที่แปลกมากไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งเชื่อว่าเป็นบารมีของหลวงพ่อที่คุ้มครองรักษาวัดแห่งนี้ไว้
นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า จากที่มีกระแสข่าวลือเรื่องที่มียอดผู้เสียชีวิตกว่าสิบรายนั้นไม่จริง เพราะตัวเลขจริง ๆ อยู่ที่ 4 คน และบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายจะซ่อมแซมทันที ส่วนบ้านเรือนที่ซ่อมแซมเองแล้วร่วมมือกับห้างร้านปลอมแปลงใบเสร็จ แล้วนำมาเบิกนั้น จะส่งเรื่องให้สรรพากร ตนขอแนะนำว่าไม่ควรทำเนื่องจาก มีการตรวจสอบอย่างละเอียด และอย่าเชื่อข่าวลือใด ๆ เพราะทางจังหวัดจะเข้าดูแลประชาชนทุกคนเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ได้มีการสอบนาย สงวน ฉ่ำแจ้ง อายุ 37 ปี คนบรรจุพลุ ต่อสายชนวน ซึ่งนายสงวนบอกว่า เป็นเพียงคนรับจ้างจุดพลุเท่านั้น และตนเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน และเรื่องนี้ต้องรอวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่จะมีการสอบสวนให้ครบทุกด้าน ว่าจะพาดพิงใครหรือไม่
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
[27 มกราคม] ชาวบ้านลือ! เหตุพลุระเบิดสุพรรณบุรีอาถรรพ์มังกร
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
ชาวบ้านวิจารณ์เหตุการณ์พลุระเบิด ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณฯ เกิดจากอาถรรพ์มังกร เชื่อจุดที่มีก่อสร้างตัวมังกร เจ้าที่แรง และอาจมีการขอขมาไม่ถูกต้อง
หลังจากเกิดเหตุการณ์พลุระเบิดที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรีในวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 รายบาดเจ็บอีกกว่ามากมาย หลังเกิดเหตุชาวบ้านได้วิจารณ์กันต่าง ๆ นานาถึงสาเหตุการเกิดครั้งนี้ว่า อาจเป็นอาถรรพ์ของรูปปั้นมังกรยักษ์ ซึ่งมีทั้งในทางที่ดีและไม่ดี โดยบางส่วนเชื่อว่า ที่รอดมาได้ก็เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นอกจากจะเป็นเจ้าพ่อหลักเมืองแล้วยังมีรูปปั้นมังกรยักษ์ช่วยปกป้องไว้ เนื่องจากบริเวณที่จุดพลุอยู่ด้านหลังมังกร เมื่อเกิดระเบิดขึ้น ร่างของมังกรจึงได้บังไว้ ไม่ให้ได้รับอันตราย
อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ในทางตรงกันข้ามว่า จุดที่มีก่อสร้างตัวมังกร เจ้าที่แรง และอาจมีการขอขมาไม่ถูกต้องก็เป็นได้ เพราะช่วงที่ดำเนินการก่อสร้าง ได้เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รูปปั้นช่วงหัวมังกรมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2550 ทำให้คนงานก่อสร้างได้รับบาดเจ็บ และครั้งที่ 2 เดือนธันวาคม ปี 2550 ไฟลุกไหม้ขณะคนงานกำลังอ๊อกเหล็กเชื่อมบริเวณหัวมังกรเช่นกันแต่สามารถดับไฟทัน และจนกระทั่งเหตุการณ์ล่าสุด ตรงกับปีมังกรพอดี
นอกจากนี้ ยังมีการวิจารณ์กันอีกว่า ในวันที่ 16 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ ซึ่งมีการจัดงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์และงานกาชาดประจำปี 2555 ถือเป็นงานเทิดพระเกียรติพระนเรศวรมหาราชที่ทรงกอบกู้เอกราชให้ชาติไทย แต่มีการให้ความสำคัญน้อยกว่างานตรุษจีน จึงอาจเป็นอาถรรพ์ได้เช่นกัน
ด้านนายเสมอ งิ้วงาม หรือที่รู้จักกันนามป๋อง พระเครื่อง เซียนพระชื่อดังชาวสุพรรณบุรี เชื่อว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นมีจริง เมื่อเกิดเรื่องรุนแรงขนาดนี้ อาจเป็นการแสดงให้รู้ว่าไม่พอใจ เพราะการก่อสร้างมังกรอาจจะโดดเด่นและบดบังทัศนียภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และก่อนหน้านี้ก็มีการส่งสัญญานมาแล้วกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ถึง 2 ครั้งด้วยกัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
[26 มกราคม] ตำรวจตั้ง 2 สาเหตุ สอบสวนพลุระเบิดที่สุพรรณบุรี
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส
ตำรวจจังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งประเด็นพลุเฉลิมฉลองตรุษจีน ไว้ 2 ประเด็น คือ ประมาทเลินเล่อของทีมงานจุดพลุ และ การจัดเก็บพลุไม่ได้มาตรฐาน
วันนี้ (26 มกราคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพลุระเบิดในพิธีเปิดงานตรุษจีนมังกรสวรรค์ ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองบริเวณอุทยานมังกรสวรรค์ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร จังหวัดสุพรรณบุรีทำให้มีผู้บาดเจ็บเกือบ 100 คนและเสียชีวิต 4 คน ประกอบด้วย นายวินัย พันธ์แตง คนจุดพลุ นายสามารถ ศรีนิล, นายวสันต์ ศรีสาธร ทีมงาน และนางลำยอง พานสกุล ชาวบ้านจังหวัดสุพรรณบุรี
ด้านนายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า สาเหตุระเบิดของพลุยังสันนิษฐานได้ไม่ชัดเจนว่าเป็นความบกพร่องจากบุคคล หรือเหตุบกพร่องทางเทคนิค หรือวิธีการจุด ต้องรอให้เจ้าหน้าที่วิทยาการมาตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ได้ตั้งสาเหตุของการเกิดระเบิดนั้นได้ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ ความประมาทเลิ่นเลอของทีมงาน และ เรื่องของการจัดเก็บพลุว่าจัดเก็บถูกต้องตามระเบียบที่กำหนดไว้หรือไม่ เนื่องจากมีการนำพลุมาใช้ในงานนี้กว่า 5,000 ลูก แต่ใช้ไปเพียง 500 ลูกจึงเหลือพลุที่ยังไม่ได้จุดอีกหลายพันลูก แต่ก็ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดเต็มที่ ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีกับใครทั้งสิ้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
[25 มกราคม] สรุปเหยื่อพลุระเบิดสุพรรณบุรี ดับ 4 เจ็บ 74
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
เหตุพลุระเบิด สรุปผู้เสียชีวิต รวม 4 ราย ผู้บาดเจ็บ 74 ราย ขณะที่ผู้ว่าฯ เผยสาเหตุบึ้มเพราะพลุไม่ยอมพุ่งขึ้นท้องฟ้า แต่เอียงพุ่งใส่บ้านเรือนประชาชน ด้าน ปภ.เตรียมชดเชยบ้านเสียหายทั้งหลัง หลังละ 3 หมื่น จ่ายค่าทำศพ 2.5 หมื่น ส่วนบรรหารรุดเยี่ยมคนเจ็บ มอบเงินช่วยเหลือรายละ 10,000 บาท
วันนี้ (25 มกราคม) มีรายงานว่า นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะแพทย์ ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดในงานฉลองตรุษจีน ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช ทั้งหมด 15 ราย และที่โรงพยาบาลศุภมิตร จำนวน 5 ราย
โดย นายวิทยา กล่าวว่า จากเหตุการณ์พลุระเบิดในครั้งนี้ มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 74 ราย กระทรวงสาธารณสุข ได้ระดมหน่วยแพทย์กู้ชีพจากโรงพยาบาลในจังหวัดสุพรรณบุรี กว่า 10 ทีม ดูแลช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ รวม 4 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บส่งรักษาที่โรงพยาบาล 2 แห่ง ประกอบด้วย 1.โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จำนวนทั้งหมด 60 ราย ในจำนวนนี้ แพทย์รับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล 15 ราย และโรงพยาบาลศุภมิตร ส่งรักษาตัวทั้งหมด 14 ราย ในจำนวนนี้ แพทย์รับตัวไว้รักษา 5 ราย ส่วนที่เหลืออาการไม่มากนัก แพทย์ดูแลบาดแผลและให้กลับบ้านได้
สำหรับผู้บาดเจ็บสาหัส 3 ราย รายแรกเป็นหญิงชาวจังหวัดชัยนาท ถูกแท่งเหล็กยาว 1.5 เมตร ทิ่มที่ด้านหลัง บาดแผลยาวประมาณ 40 เซนติเมตร แพทย์ได้นำตัวเข้าห้องผ่าตัดเพื่อเอาเหล็กออก และให้เลือด 8 ยูนิต, รายที่ 2 เป็นชายอายุ 40 ปี ศีรษะแตกมีบาดแผลที่ใบหน้า และรอบ ๆ โพรงจมูก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ขณะนี้รู้สึกตัวดี และรายที่ 3 เป็นหญิงอายุ 70 ปี รายนี้อาการวิกฤติอยู่ในขั้นน่าห่วง มีอาการหยุดหายใจก่อนถึงโรงพยาบาล แพทย์กระตุ้นหัวใจ และใช้เครื่องช่วยหายใจ ขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัว โดยหญิงรายนี้มีประวัติมีโรคประจำตัวคือ โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง แพทย์ได้ทำการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ ไม่พบสิ่งผิดปกติในสมอง ขณะนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียูโรงพยาบาลศุภมิตร
นอกจากนี้ นายวิทยา ได้สั่งการให้โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวแก่ประชาชนที่บ้านเรือนถูกไฟไหม้จากเหตุพลุระเบิด ในงานฉลองตรุษจีนที่ศาลหลักเมือง จ.สุพรรณบุรี ประมาณ 20 หลังคาเรือน พร้อมกับได้ประสานรัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ให้การดูแลเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตทุกราย รวมทั้งประชาชนที่บ้านถูกไฟไหม้ด้วย
ขณะที่นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า สาเหตุของพลุระเบิดเกิดจากพลุที่จุดไม่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า กลับเอียงพุ่งเข้าสู่รถดับเพลิง และบ้านเรือน ทำให้ไม่สามารถควบคุมพลุได้จนเกิดแรงระเบิด และไฟไหม้เสียหายเป็นบริเวณกว้าง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าใครเป็นผู้รับเหมาจัดงานในครั้งนี้ว่า ทำการโดยการประมาทหรือไม่ เพราะทางมูลนิธิศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเป็นผู้ว่าจ้างผู้รับเหมามา
ด้านนางสมเจตน์ พรหมสุนทร หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสุพรรณบุรี ระบุว่า สำหรับบ้านเรือนที่เสียหายให้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่วัดพระธาตุได้เลย โดย ปภ.จะประเมินความเสียหายในภายหลัง ซึ่งเบื้องต้นจะได้รับการช่วยเหลือตามระเบียบของกระทรวงการคลัง โดยบ้านเรือนที่เสียหายบางส่วน จะได้รับเงินช่วยเหลือหลังละ 20,000 บาทตามสภาพจริง ส่วนบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายทั้งหลัง จะได้รับการช่วยเหลือหลังละ 30,000 บาท ส่วนผู้ที่เสียชีวิตจะได้รับค่าทำศพรายละ 25,000 บาท ถ้าผู้เสียชีวิตเป็นหัวหน้าครอบครัว จะได้รับเพิ่มอีก 25,000 บาท
ต่อมาในช่วงบ่าย นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วยนายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลศุภมิตร พร้อมกับรับปากว่าจะช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกรายอย่างเต็มที่ ซึ่งเบื้องต้นได้มอบเงินช่วยเหลือให้รายละ 10,000 บาท
ในส่วนทางจังหวัดนั้น ได้ตั้งเต้นท์เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวให้ผู้ประสบภัยได้พักอาศัย และตั้งจุดรับเรื่องจากผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุพลุระเบิด ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดก็ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว พร้อมกับกันไม่ให้ใครเข้าพื้นที่อันตราย
รายชื่อผู้บาดเจ็บทั้ง 20 ราย มีดังนี้
ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช 15 ราย ได้แก่...
1. นางสมาพร คุ้มฉายา 2. นายประกิจ นิ่มนวล 3. นายชลิต กลิ่นเกตุ 4. นางฉวี บริสุทธิ์ 5. นายขวัญเมือง คุ้มฉายา 6. ด.ช.ธวัช บริสุทธิ์ 7. นายสำราญ แซ่เจือ 8. ด.ญ.ศรินรัตน์ รินสินจ้อย 9. ด.ช.เกริก ไม่ทราบนามสกุล (ใส่เสื้อลายสก๊อต) 10. นางเปลื้อง แก้วศรีนวล 11. นางขันแก้ว กุมกัน 12. นางสังเวียน จิตรดา 13. นางอารี แสนสุข 14. ด.ช.ธานาวุฒิ สุขพันธ์ 15. นางไข่ล่าโทนที่โรงพยาบาลศุภมิตร 5 ราย ได้แก่...
1.นางฉันทนา อำนวยพร 2.นางลำยอง พานสกุล 3.นายสงวน ฉ่ำแจ่ม 4.นายดอกรัก เรืองมาก 5.พระภิกษุอุทัย ชำนาญศิลป์คลิป พลุระเบิด งานตรุษจีนสุพรรณบุรี
คลิป พลุระเบิด งานตรุษจีนสุพรรณบุรี
คลิป พลุระเบิด งานตรุษจีนสุพรรณบุรี
คลิป พลุระเบิด งานตรุษจีนสุพรรณบุรี
อ่านรายละเอียด้เพิ่มเติมจาก
[24 มกราคม] ระทึก! พลุบึ้มกลางงานตรุษจีนสุพรรณฯ ดับแล้ว 3
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
พลุระเบิดกลางงานตรุษจีนสุพรรณฯ สะเก็ดพลุตกใส่บ้านเรือนประชาชนไฟไหม้นับสิบหลัง มีผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บเพียบ คล้อยหลัง บรรหาร เปิดงาน และถ่ายทอดสดทางทีวีไม่กี่นาที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.ที่ผ่านมา วันที่ 24 มกราคม ได้เกิดเหตุพลุระเบิดกลางงาน "ตรุษจีนสุพรรณบุรี ปีทองมังกรสวรรค์" ณ อุทยานมังกรสวรรค์ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี คล้อยหลังที่นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปเปิดงาน และมีการถ่ายทอดสดงานดังกล่าวผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เพียงไม่กี่นาที
ทั้งนี้ สะเก็ดพลุที่ระเบิดได้ตกใส่บ้านเรือนประชาชนที่ตั้งอยู่ติดกันที่บริเวณชุมชนข้างวัดพระธาตุ รวมทั้งที่บริเวณกุฏิพระในวัดพระธาตุด้วย เป็นเหตุให้ไฟโหมไหม้วัด และบ้านเรือนชาวบ้านกว่า 30 หลังแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งสกัดเพลิงโดยด่วน แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก ขณะที่มีรายงานว่า เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย ผู้บาดเจ็บอีกหลายสิบราย ซึ่งมีพระในวัดพระธาตุด้วยอีกกว่า 10 รูป เจ้าหน้าที่ต้องเร่งนำส่งโรงพยาบาลจ้าละหวั่น
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา และนายชุมพล ศิลปอาชา ซึ่งร่วมชมพลุอยู่ในงานนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ขณะที่ ญาญ่า อุรัสยา สเปอร์บัน นักแสดงสาวชื่อดังซึ่งเดินทางไปร่วมงานดังกล่าวด้วยก็ปลอดภัยดี โดยเดินทางออกมาจากงานดังกล่าวแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
