x close

กรณ์ ชี้รัฐบาลปล้นคลัง รีดค่าต๋งแบงก์อื้อ





กรณ์ชี้รัฐบาลย่องปล้นประเทศ รีดค่าต๋งแบงก์อื้อแต่เบี้ยวใช้หนี้ (ไทยโพสต์)

ขอขอบคณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Korn Chatikavanij

          กรณ์โวยค่าต๋งแบงก์รัฐ ตั้งกองทุนพัฒนาประเทศ เหมือนปล้นคลังประเทศทางอ้อม ธปท.แย้มอาจทบทวนอัตราเรียกเก็บเงิน 0.47% ใน 3 ปีข้างหน้า วิรุฬชี้มีเงินเข้ากองทุน 1.5 หมื่นล้าน

          นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีต รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลยังจะเก็บเงินจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐในอัตรา 0.47% เพื่อมาตั้งเป็นกองทุนพัฒนาประเทศ โดยอ้างเพื่อแก้ความเหลื่อมล้ำการทำธุรกิจระหว่างธนาคารพาณิชย์ กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดหลักวินัยการเงินการคลัง ที่ล้วงเงินจากสถาบันการเงินของรัฐที่ต้องนำส่งคลังออกมาใช้โดยการตั้งกองทุน ซึ่งจะทำให้ไม่ต้องผ่านการตรวจสอบโดยวิธีการทางงบประมาณ ถือเป็นการปล้นเงินคงคลังออกมาใช้   

          "เงินฝากของแบงก์รัฐมีสัดส่วนสูงถึง 3 ล้านล้านบาท คิดเป็น 28% ของเงินฝากทั้งระบบ ซึ่งหากมีการเก็บเงินค่าธรรมเนียมในอัตรา 0.47% จะเป็นเงินปีละกว่าหมื่นล้านบาท ที่เป็นเงินที่รัฐบาลนำออกมาใช้โดยไม่ระบบตรวจสอบ นอกจากนี้ การตั้งกองทุนยังเป็นการเปิดช่องให้รัฐบาลตั้งคนใกล้ชิดของตัวเองเข้ามาเป็นกรรมการ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง" นายกรณ์ กล่าว

          อดีต รมว.คลัง ยังกล่าวอีกว่า หากการแก้ไขหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ มีความเร่งด่วนจริง รัฐบาลก็ควรนำเงินที่เก็บจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐไปใช้หนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ด้วย เช่นเดียวกับที่เก็บจากธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะทำให้การชำระหนี้หมดได้เร็วขึ้นภายใน 10 ปี แต่รัฐบาลกลับนำเงินมาตั้งกองทุน โดยไม่ได้สนว่าต้องใช้เวลากี่ปีถึงจะใช้หนี้กองทุนฟื้นฟูฯ หมด

          สำหรับแนวคิดของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ที่ให้มีการลดการเก็บเงินนำส่งของธนาคารพาณิชย์ให้กับสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) ลงเหลือ 0.01% จากเดิมเก็บ 0.4% เพราะเห็นว่าไม่มีความจำเป็น เพราะมีปัญหารัฐบาลก็ต้องเข้าไปดู ซึ่งหาก รมว.คลังคิดเช่นนั้น ก็ควรยกเลิกสถาบันคุ้มครองเงินฝากไปเลย เพราะคงไม่มีความจำเป็นต้องมีอีกต่อไป

          นายกรณ์กล่าวอีกว่า ในวันนี้ (15 ก.พ.) ตนพร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ศาลรัฐธรรมนูญถึงการยื่นตีความ พ.ร.ก.โอนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน วงเงิน 1.14 ล้านบาท และ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 3.5 แสนบาท ว่าขัดรัฐธรรมนูญและไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน

          นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 15 ก.พ. ตนพร้อมจะเข้าชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชี้แจงถึงความจำเป็นถึงการออก พ.ร.ก.ทั้ง 4 ฉบับที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ

          ด้านนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วง 3 ปีข้างหน้า มีความเป็นไปได้ที่ ธปท.จะมีการลดการเก็บอัตราเงินนำส่งจากฐานเงินฝากและตั๋วแลกเงิน ณ สิ้นปี ในอัตรา 0.47% เพื่อนำเงินชดใช้หนี้กองทุนฟื้นฟูฯ เนื่องจากการเก็บที่ระดับ 0.47% น่าจะเพียงพอในการชำระหนี้ในช่วงแรก และสามารถชำระคืนหนี้ทั้งหมด 1.14 ล้านล้านบาท ได้จบภายใน 24 ปี   

          นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง เปิดเผยภายหลังการร่วมประชุมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ว่า ธนาคารรัฐในขณะนี้มีฐานเงินฝาก 3 ล้านล้านบาท หากต้องนำส่งเงินเข้ากองทุนพัฒนาประเทศ 0.47% ของฐานเงินฝาก จะคิดเป็นเงินราวๆ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าเงินดังกล่าวจะนำมาใช้ในการพัฒนาประเทศในรูปแบบใด ทั้งนี้ ยอมรับว่าการนำเงินส่งกองทุนพัฒนาประเทศจะเป็นภาระต่อสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐอยู่บ้าง แต่ธนาคารทุกแห่งยืนยันว่าจะสามารถบริหารจัดการได้

          นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารพร้อมนำส่งค่าธรรมเนียมเท่ากับธนาคารพาณิชย์โดยไม่กระทบต่อฐานะทางการเงินของธนาคาร แต่ฐานเงินฝากปัจจุบันที่ 1.5 ล้านบาท จะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น 8,400 ล้านบาท และกระทบกำไรสุทธิในปีนี้ให้ลดลงบ้าง แต่ยืนยันว่าจะไม่ผลักภาระไปยังลูกค้าทั้งในส่วนของดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก



ขอขอบคุณข้อมูลจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กรณ์ ชี้รัฐบาลปล้นคลัง รีดค่าต๋งแบงก์อื้อ โพสต์เมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 11:40:31 8,162 อ่าน
TOP