เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก zmescience.com
คงยังไม่มีใครคิดจินตนาการออกว่าหากสัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์อย่าง "แมมมอธ" ที่สูญพันธ์ไปแล้วกว่า 10,000 ปี ฟื้นคืนชีพขึ้นมาในยุคสมัยนี้อีกครั้งแล้วจะเป็นอย่างไร อย่างไรก็ดี ตามการรายงานจากเว็บไซต์เดอะซัน ของอังกฤษ ระบุว่า นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีชีวภาพซูอัมของเกาหลีใต้ ได้ลงนามร่วมกับมหาวิทยาลัยสหพันธรัฐตะวันออกเฉียงเหนือของรัสเซีย ในการโคลนนิ่งชุบชีวิตเจ้าช้างขนยาวให้กลับมาอีกครั้งแล้ว
ฮวาง วู-ซอก นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันชีวภาพซูอัม ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการโคลนนิ่งสุนัขตัวแรกของโลกได้สำเร็จเมื่อปี 2005 ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์รัสเซีย วางแผนจะโคลนนิ่งแมมมอธ โดยใช้ต้นแบบเป็นซากแมมมอธที่ถูกพบแช่อยู่ในน้ำแข็งจากไซบีเรีย โดยเริ่มจากค้นหายีนที่สมบูรณ์จากเนื้อเยื่อที่ถูกแช่อยู่ในน้ำแข็งและมีสภาพถูกทำลายน้อยที่สุด ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าจะใช้เนื้อเยื่อจากส่วนไขสันหลัง ก่อนจะนำไปปลูกถ่ายสู่เซลล์ไข่ของช้างสายพันธุ์อินเดีย เพื่อให้พัฒนากลายเป็นเอ็มบริโอ และตัวอ่อนต่อไป ซึ่งถ้ากระบวนการทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ช้างลูกแมมมอธก็จะถือกำเนิดขึ้นในอีก 22 เดือนให้หลัง ส่วนกระบวนการคืนชีพดีเอ็นเอของช้างแมมมอธ คาดว่าจะทำได้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้
ฮวาง อิน-ซุง นักวิทยาศาสตร์อีกรายของเกาหลีใต้ กล่าวว่า ขั้นตอนที่ยากที่สุดของกระบวนการนี้ ก็คือการฟื้นคืนชีพให้แก่ดีเอ็นเอของแมมมอธ แต่กระนั้นเขาก็มีความมั่นใจว่ามันจะประสบความสำเร็จ เพราะสถาบันชีวภาพซูอัมมีความเชี่ยวชาญในการโคลนนิ่งสัตว์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นวัว แมว สุนัข หมู หรือสุนัขป่า ถึงแม้จะยังไม่เคยโคลนนิ่งสัตว์ที่ตายไปนานแล้วนับหมื่นปีก็ตาม
อย่างไรก็ดี สำหรับ ฮวาง วู-ซอก นักวิทยาศาสตร์ผู้ที่นับได้ว่าเป็นฮีโร่ของประเทศเกาหลี หลังการโคลนนิ่งสุนัขตัวแรกของโลกสำเร็จในปี 2005 ก็เคยมีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นในปี 2006 พลังพบว่ารายงานเรื่องการวิจัยพัฒนาสเต็มเซลล์มนุษย์ที่เขาทำขึ้นนั้นมีข้อมูลที่เป็นเท็จ จนถูกศาลตัวสินว่าให้ข้อมูลเป็นเท็จและไร้จรรยาบรรณ จนต้องพักงานไปถึง 2 ปี แต่ในเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว ชื่อของ ฮวาง วู-ซอก ก็กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับข่าวประสบความสำเร็จในการโคลนนิ่งสุนัขป่าที่ใกล้สูญพันธ์ของอเมริกาได้สำเร็จเป็นจำนวน 8 ตัว
