x close

แท็กซี่คืนทองเสี่ย ยันไม่ได้ข่มขู่ทวงเงินรางวัล 3 แสน


แท็กซี่คืนทองเสี่ยกลับบ้านที่ร้อยเอ็ด


แท็กซี่คืนทองเสี่ยกลับบ้านที่ร้อยเอ็ด (ไอเอ็นเอ็น)
 
          คนขับแท๊กซี่ที่นำทองคืนเสี่ยร้านทองอุบลฯ เดินทางกลับบ้านที่ จ.ร้อยเอ็ด ท่ามกลางพี่น้อง ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงต้อนรับเนืองแน่น

          เมื่อวานนี้ (19 มีนาคม) นายศักดิ์ศรี เกษศรีแก้ว อายุ 56 ปี แท็กซี่ซึ่งเก็บทองคำหนัก 540 บาท ของนายเอกรัตน์ กนกวรรณกรณ์ เจ้าของร้านทองจากจังหวัดอุบลราชธานี ในรถแท็กซี่ ซึ่งนำส่งเจ้าของมอบสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น หนัก 5 บาท 1 เส้น เป็นสิ่งตอบแทนรางวัลน้ำใจในความซื่อสัตย์ ล่าสุดเจ้าตัวได้เดินทางกลับที่ จ.ร้อยเอ็ด ท่ามกลางชาวบ้านที่เดินทางมาชื่นชมยินดีในความซื่อสัตย์สุจริตของคนร้อยเอ็ด

          ทั้งนี้ นายศักดิ์ศรี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกไม่พอใจกับการที่สื่อมวลชนช่องหนึ่งไปสัมภาษณ์เจ้าของร้านทองออกอากาศว่าถูก นายศักดิ์ศรี ไปทวงเงินจำนวน 300,000 บาท ในลักษณะข่มขู่ ซึ่งครอบครัวตน ถึงแม้จะยากจน แต่ไม่เคยที่จะไปข่มขู่ใคร และการให้ข่าวไม่อิงพื้นฐานของความเป็นจริง การเสนอข่าวไม่เป็นไป 2 ด้าน เข้าข้างคนรวย ทำให้คนอื่นเสียหาย





[18 มีนาคม] เสี่ยร้านทอง บอกแท็กซี่อยากได้รางวัลที่เหลือ ให้มาเอาเอง

คนขับแท็กซี่คืนทอง

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก @fm91trafficpro


            เสี่ยร้านทอง บอก ถ้าแท็กซี่อยากได้รางวัลที่เหลือ ให้ติดต่อมารับเอง ชี้หากบริสุทธิ์ใจจริง ทำไมไม่มาคืนตั้งแต่วันแรก

            จากกรณีที่ นายเอกรัตน์ กนกวรรณาการ เจ้าของร้านทองเยาวราชภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี จ.อุบลราชธานี  ลืมกระเป๋าใส่ทองรูปพรรณหนัก 540 บาท มูลค่าประมาณ 13 ล้านบาท ไว้บนรถแท็กซี่ โดยนายเอกรัตน์ กล่าวว่า ถ้าแท็กซี่นำทองมาคืนจะมอบรางวัลให้ 5 แสนบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 16 มีนาคม นายศักดิ์ศรี เกษศรีแก้ว อายุ 56 ปี เจ้าของแท็กซี่ ได้ติดต่อขอนำทองมาคืน โดยทางเจ้าของร้านทองได้มอบรางวัลเป็นทองรวมมูลค่า 2 แสนบาท ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

            ล่าสุด วานนี้ (17 มีนาคม) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายศักดิ์ศรี เจ้าของแท็กซี่ดังกล่าวว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากเจ้าของร้านทองเลย และนับตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้พูดถึงเงินรางวัลที่เหลือ ซึ่งตนก็รอให้เสี่ยร้านทองติดต่อกลับมา แต่ถ้าจะมอบให้ตนเพียงเท่านี้ ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะตนจะได้ไม่ต้องรอ และจะเดินทางกลับบ้านที่ จ.ร้อยเอ็ด

            ส่วนทางด้าน นายเอกรัตน์ เสี่ยร้านทอง กล่าวว่า ตนคิดว่าถ้าหาก นายศักดิ์ศรี มีความบริสุทธิ์ใจจริง ก็น่าจะนำทองมาคืนตนทั้งหมดโดยเร็ว ไม่ใช่ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไป 3 วัน และตนนั้นได้หมดเงินไปกับการจ้างคนติดตามหาเจ้าของแท็กซี่เป็นจำนวนมาก ซึ่งกำลังคิดอยู่ว่า จะเข้าแจ้งความดำเนินคดี แต่เมื่อ นายศักดิ์ศรี เอาทองมาคืน ตนก็มอบรางวัลไปแล้ว 2 แสนบาท เพื่อเป็นการตอบแทน และถ้าหาก นายศักดิ์ศรี ต้องการรางวัลที่เหลือก็ให้ติดต่อ และมารับรางวัลด้วยตนเอง ที่ จ.อุบลราชธานี

            อย่างไรก็ตาม นายศักดิ์ศรี ได้เล่าถึงเหตุผลที่คืนทองล่าช้าให้ฟังว่า  หลังจากขับแท็กซี่ไปส่งนายเอกรัตน์และภรรยาที่ตลาดสี่มุมเมืองเรียบร้อยแล้ว ตนก็ได้ตรวจสอบภายในรถและพบกระเป๋าวางอยู่เบาะหลัง จึงได้เปิดดู และต้องตกใจเมื่อพบว่า ภายในกระเป๋ามีสร้อยคอทองคำจำนวนมาก ตนจึงขับรถวนกลับมายังจุดเดิมเพื่อตามหาตัวเจ้าของ ซึ่งก็ตามหาอยู่ 2 วัน แต่ไม่พบ จึงได้ปรึกษากับนายมนูญ เนตรลอย เพื่อนแท็กซี่ที่เป็นสมาชิก สวพ.91 และได้โทรศัพท์มาแจ้งเรื่องไว้ เพราะไม่รู้จะไปตามหาเจ้าของที่ไหน และเมื่อพบตัวพร้อมนำทองไปคืน ก็ทราบว่า เสี่ยร้านทองได้ตั้งรางวัลไว้ให้ จำนวน 5 แสนบาท ซึ่งตนได้รับเพียง 2 แสนบาทเท่านั้น




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




[16 มีนาคม] คนขับแท็กซี่ คืนทอง 500 บาท ให้เจ้าของแล้ว


          คนขับแท็กซี่สีชมพูติดต่อ สวพ.91 พร้อมส่งคืนทองคำ 500 บาทให้เจ้าของแล้ว ด้านเจ้าของมอบทอง 8 บาท เงินสด 5 แสนให้เป็นสินน้ำใจ

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 มีนาคม) ที่สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ FM 91 หรือ สวพ.91 นายศักดิ์ศรี เกษสีแก้ว อายุ 56 ปี ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ สีชมพู ทะเบียน ทศ 8421 กทม. ได้ส่งคืนทองคำหนัก 500 บาท มูลค่า 13 ล้านบาท ให้กับนายเอกรัตน์ กนกวรรณากร เจ้าของร้านทองเยาวราช สาขาบิ๊กซี ในจังหวัดอุบลราชธานี แล้ว หลังจากนายเอกรัตน์ลืมทองคำทิ้งไว้ในรถแท็กซี่ เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา

          ทั้งนี้ นายเอกรัตน์ ได้มอบสร้อยคอทองคำหนัก 8 บาท และเงินสด 5 แสนบาทให้นายศักดิ์ศรีเป็นสินน้ำใจอีกด้วย


          ขณะที่ นายศักดิ์ศรี ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า หลังจากขับแท็กซี่ไปส่งนายเอกรัตน์และภรรยาที่ตลาดสี่มุมเมืองเรียบร้อยแล้ว ตนก็ได้ตรวจสอบภายในรถและพบกระเป๋าวางอยู่เบาะหลัง จึงได้เปิดดู และต้องตกใจเมื่อพบว่า ภายในกระเป๋ามีสร้อยคอทองคำจำนวนมาก ตนจึงขับรถวนกลับมายังจุดเดิมเพื่อตามหาตัวเจ้าของ ซึ่งก็ตามหาอยู่ 2 วัน แต่ไม่พบ จึงได้ปรึกษากับนายมนูญ เนตรลอย เพื่อนแท็กซี่ที่เป็นสมาชิก สวพ.91 และได้โทรศัพท์มาแจ้งเรื่องไว้ เพราะไม่รู้จะไปตามหาเจ้าของที่ไหน

          กระทั่งหลานชายของตนเห็นภาพข่าวในโทรทัศน์ที่นายเอกรัตน์ประกาศตามหาทองคำที่ลืมไว้บนรถแท็กซี่ ตนจึงได้ติดต่อไปยัง สวพ.91 เพื่อให้ช่วยติดต่อส่งคืนสร้อยคอทองคำให้เจ้าของต่อไป



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




[15 มีนาคม] เสี่ยร้านทอง ลั่นให้ 5 แสน หากแท็กซี่พลเมืองดีนำทองมาคืน


เจ้าของร้านทองลืมทองคำกว่า 10 ล้านบาท บนแท็กซี่

เจ้าของร้านทองลืมทองคำกว่า 10 ล้านบาท บนแท็กซี่

เจ้าของร้านทองลืมทองคำกว่า 10 ล้านบาท บนแท็กซี่


ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  ครอบครัวข่าว 3

           เสี่ยเจ้าของร้านทองเมืองอุบลฯ โร่แจ้งความ ลืมทองคำน้ำหนักกว่า 500 บาท มูลค่าร่วม 13 ล้านบาท ไว้ในรถแท็กซี่ วอนเร่งตามหา ประกาศหากนำมาคืนเอง จะให้สินน้ำใจ 5 แสน

           วันนี้ (15 มีนาคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองคูคต จังหวัดปทุมธานี รับแจ้งความจาก นายเอกรัตน์ กนกวรรณากร เจ้าของร้านทองเยาวราช สาขาบิ๊กซี ในจังหวัดอุบลราชธานี ว่า เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ตนเองพร้อมภรรยาเดินทางมาจากจังหวัดอุบลราชธานี และพักอยู่กับมารดากับน้องสาวในกรุงเทพมหานคร โดยในช่วงเย็นวันนั้นได้เดินทางไปซื้อทองและเปลี่ยนลายทองที่เยาวราช น้ำหนักรวม 9 กิโลกรัม จำนวนเนื้อทองกว่า 100 รายการ รวมกว่า 500 บาท มูลค่ากว่า 13 ล้านบาท จากนั้นได้นำขึ้นเรียกรถแท็กซี่สีชมพู ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จากแยกไฟแดง SAB ถนนเจริญกรุง ไปส่งยังตลาดสี่มุมเมือง จังหวัดปทุมธานี เพื่อจะไปหาน้องชายซึ่งเป็นเสี่ยเขียงหมู โดยที่ตนนั่งหน้าคู่กับคนขับและได้วางกระเป๋าไว้ที่พื้นรองเท้าด้านหน้า ส่วนภรรยาของตนนั่งอยู่ที่นั่งด้านหลัง พร้อมด้วยกระเป๋าเสื้อผ้าแบบถือ อีก 2 ใบ พอถึงที่หมายหน้าตลาดสี่มุมเมืองก็จ่ายค่าแท็กซี่แล้วลงรถโดยลืมหยิบกระเป๋าทองลงมาด้วย จึงรีบแจ้งตำรวจในวันนั้น และ ประสานงานกับ จส.100 ช่วยประกาศตามหา แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

           ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนแบ่งกำลังตรวจสอบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่ผู้เสียหายให้การ โดยเบื้องต้นยังไม่ทราบหมายเลขทะเบียนรถ หากคนขับแท็กซี่ทราบเรื่องแล้วขอให้นำทรัพย์สินมาคืนให้กับเจ้าของ หรือแจ้งประสานติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต หรือที่เบอร์มือถือ พ.ต.อ.นราเดช  ทิพย์รักษ์ ผกก.สภ.คูคต จ.ปทุมธานี 081-1661818 หรือเบอร์โทรศัพท์นายเอกรัตน์ 080-0539579

           ทั้งนี้ นายเอกรัตน์ กล่าวว่า ในตอนแรกมีสัญญาณที่ดีว่าคนขับแท็กซี่ จะนำของมาคืน เพราะหลังจากส่งตนแล้ว ได้ย้อนกลับมาถามว่าลูกจ้างร้านทองในตลาดว่ามีคนลืมของหรือไม่ แต่ลูกจ้างคนดังกล่าวบอกว่าไม่รู้เรื่อง ทำให้คลาดกัน ซึ่งตนตั้งใจว่า หากแท็กซี่เป็นพลเมืองดีนำทองมาคืนให้ตน ตนจะให้สินน้ำใจเป็นรางวัล 5 แสนบาท แต่ถ้ามีจุดประสงค์นำทองไป ก็จะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
   




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แท็กซี่คืนทองเสี่ย ยันไม่ได้ข่มขู่ทวงเงินรางวัล 3 แสน อัปเดตล่าสุด 20 มีนาคม 2555 เวลา 07:52:03 290,528 อ่าน
TOP