ปรัชญาจากถั่วเขียว เมล็ดนิดเดียวกลายเป็นถั่วงอกรักชาติ







เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube โพสต์โดย LadyBimbette

          ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารจานเดียวอิ่มท้องที่หาทานได้แทบทุกตรอกซอกซอยบนพื้นถิ่นแดนไทย มีทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ บะหมี่มากมายให้เลือกสรร เติมลูกชิ้นและเนื้อสัตว์ ราดรดด้วยน้ำซุปร้อนหอมกรุ่นและที่ขาดไม่ได้ควรจะมีผักบุ้งและถั่วงอกให้เคี้ยวกรุบ ๆ ควบคู่กัน

          แต่เคี้ยวไปเคี้ยวมาก็หลายคนคงจะลืมไปว่า ถั่วงอกโดยมากถูกกัดและฟอกขาวด้วยสารเคมีที่มีฤทธิ์ร้ายต่อร่างกายตัวเอง แต่ใช่ว่าเกษตรกรผู้เพาะถั่วงอกจะทำลายผู้บริโภคเพื่อผลกำไรของตัวเองเสมอไป เพราะ ในรายการภัตตาคารบ้านทุ่ง ที่ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ก็ได้นำเสนอถั่วงอกปลอดภัยพ่วงปรัชญาและชื่อแสนเก๋ปลุกใจว่า "ถั่วงอกรักชาติ" มาให้ประเทืองความรู้ แถมยังเสริมสร้างอาชีพอีกต่างหากมาให้ได้ชมกัน

          ณ ศูนย์งอกงาม ตำบลโคกลำภา อำเภอเมืองจังหวัดลพบุรี ทำให้เรามารู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งที่เคยตกอับจากพิษเศรษฐกิจในยุคฟองสบู่แตกเมื่อปี 40 ติดหนี้ติดสินอยู่หลายล้าน ก่อนจะพลิกชีวิตกลับมาเลี้ยงตัวเองตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียงด้วยการเพาะถั่วงอก ที่มีชื่อ รักชาติ พ่วงท้าย อันเป็นชีวิตของลูกผู้ชายที่ชื่อ นิมิตร เทียมมงคล










          ถั่วงอกรักชาติ ไม่ใช่ชื่อที่น้านิมิตรเรียกขานเอง แต่ได้รับเกียรติมาจากนายแพทย์ประเวศ วะสี และที่มาของชื่อนี้ก็เกิดมาจากการที่น้านิมิตรเพาะถั่วงอกซ้อนกันเป็นสี่ชั้นเหมือนคอนโด โดยชั้นล่างสุดจะเป็นชั้นของถั่วงอกที่คอยรองรับถั่วงอกในชั้นอื่น ๆ แทบไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน แต่มันก็ยังงอกงามหาแสง เป็นชั้นที่แข็งแกร่ง รับภาระทั้งหมด ขนาดถั่วงอกถูกกดทับก็ยังสู้ แล้วมนุษย์จะไม่สู้เลยเชียวหรือ นอกจากนี้ความที่ถั่วงอกรักชาติเป็นต้นตรง มีกลีบเลี้ยงเหมือนศีรษะคนที่โค้งคำนับอ่อนน้อมทำความเคารพเวลาร้องเพลงชาติจบ

          ซึ่งหลังจากเจอพิษเศรษฐกิจน้านิมิตรก็เปลี่ยนมาขายก๋วยเตี๋ยวและด้วยความที่อยากให้ผู้บริโภคได้กินถั่วงอกไม่มีสารพิษ ก็เลยลองผิดลองถูกปลูกถั่วงอกเอง โดยเริ่มจากนำอุปกรณ์ที่ถือเป็นบรมครูของชีวิตคือ ตะกร้า ที่มีทุกบ้านมาลองเพาะ ใช้เมล็ดถั่วครึ่งกิโลกรัมมาเพาะจะได้ถั่วงอกสี่กิโลกรัม แล้วเอากระสอบป่านปิดไว้ จากนั้นก็พัฒนามาเพาะถั่วงอกคอนโดในถังซีเมนต์ และเพราะรากของถั่วงอกที่ปลูกกันด้วยวิธีทั่วไปมักจะดำ ทำให้มีการใช้สารฟอก แถมผู้บริโภคเองก็ไม่กินใบต่างจากชาติอื่นที่จะกินถั่วงอกทั้งใบ ทำให้พ่อค้าแม่ค้ามีการใช้สารกัดรากให้หลุด ซึ่งเป็นอันตรายมาก แต่วิธีที่น้านิมิตรใช้นั้นมีความพิเศษ ด้วยการนำตะแกรงกับกระสอบมาใช้ทำให้มีรอยต่อของราก แค่ใช้มือสับหรือมีดปาดก็หลุดออก ถือเป็นภูมิปัญญาไทยที่มีการจดสิทธิบัตรเป็นสมบัติของประเทศ อีกทั้งการใช้ใจใส่ลงไปในการเพาะก็เป็นเรื่องสำคัญ

          นอกจากนี้น้านิมิตรยังสอนวิธีการเพาะถั่วงอกเป็นอาชีพ และการเพาะถั่วงอกใส่ขวดไว้ใช้เป็นสเบียงสำหรับเด็กหอหรือไว้ประทังความอิ่มตอนน้ำท่วมก็ยังได้ แถมยังนำสูตรเด็ดจากถั่วงอกมาให้ลองแสดงฝีมือลิ้มชิมรส โดยเมนูแรกที่นำมาฝากกันเป็นเมนูมังสวิรัติ ชื่อสูงส่งว่า พล่าหนวดมังกร



          ส่วนผสมของพล่าหนวดมังกรมีดังต่อไปนี้

          ถั่วงอก

          ตะไคร้

          กระเทียม

          ซีอิ้วขาว

          มะม่วง

          ใบมะกรูด

          หอมแดง

          น้ำตาลปี๊บ

          ผักชีฝรั่ง

          สะระแหน่

          มะนาว

          มะขามเปียก

          พริกแห้งเม็ดใหญ่

            วิธีทำ





          1. เริ่มต้นก็นำหอมแดงมาปอกเปลือก ตามด้วยกระเทียม และเอาสะระแหน่มาเด็ดใบ



          2. เอากระเทียมกับหอมแดงมาซอย  แล้วหยิบมะม่วงมาปอกล้างน้ำให้สะอาด



          3. นำมะขามเปียกใส่ถ้วยตามด้วยซีอิ้ว แล้วเอาช้อนบี้ให้รสเปรี้ยวเค็ม



          4. หยิบตะไคร้หั่นเป็นแว่น หยิบมะนาวแป้นมาคลึงให้นิ่ม



          5. เอามะม่วงมาหั่นให้เป็นแผ่นแล้วซอยเป็นเส้น จากนั้นก็นำผักชีมาหั่น







          6. นำมะกรูดมาเด็ดก้านซอยเป็นเส้น จากนั้นก็ตั้งกระทะเทหอมกับกระเทียมพริกแห้งลงไปคั่วอย่าให้ไฟแรง คั่วเสร็จก็ใส่ตักใส่กะละมัง แล้วนำมาฟลัดไล่ความร้อน ถึงค่อยใส่ลงโขลก



          7. ตำจนพริกแหลก แล้วนำพริกแกงที่ได้ตักใส่กะละมัง มะขามเปียก ถั่วงอก  มะม่วง ตะไคร้ และ หอมแดงลงไป





          8. เอาน้ำตาลปิ๊บมาละลายน้ำเปล่าเทราด บีบมะนาว แล้วใส่ใบมะกรูด คลุกเคล้าต่อไปปิดท้ายด้วยโรยใบสะระแหน่เป็นอันเสร็จ

          จากเมนูชื่อสุดหรูทำจากถั่วงอกเมนูแรกผ่านพ้นไปแล้ว ก็อย่ารอช้าตามต่อมาด้วยเมนู เกาเหลาต้มแซ่บ กันดีกว่า



          ส่วนผสมก็มีดังนี้

          ถั่วงอก

          เห็ดฟาง

          ไส้ตันเจ

          เห็ดนางฟ้า

          เห็ดหอม

          อบเชย

         โป๊ยกั๊ก

          โปรตีนถั่วเหลือง

            ขั้นตอนการทำ



          1. เอาน้ำเทใส่กะละมัง แล้วหยิบโปรตีนถั่วเหลืองลงไปแช่ หั่นเห็ดนางฟ้า แล้วเอาเห็ดหอมลงแช่น้ำ



          2. เอาไส้ตันเจมาหั่นเป็นวงชิ้นขนาดพอดีคำ และ เอาโปรตีนเกษตรที่แช่น้ำจนนิ่มมาหั่นเป็นชิ้น



          3. แกเปลือกกระเทียม แล้วทุบตะไคร้ด้วยสาก



          4. เอากระทะวางบนเตาจากนั้นก็เทน้ำมันลงไป พอน้ำมันเดือดก็เอาโปรตีนถั่วเหลืองทอดและทอดไส้ตันเจต่อ



          5. หั่นคึ่นช่าย ตามด้วยการโขลกกระเทียมมาพักไว้ จากนั้นก็โขลกพริกขี้หนู



          6. เอากระเทียมที่โขลกมาเจียวพอเหลือง แล้วหยิบหม้อใส่น้ำมาวางบนเตาจนกระทั่งน้ำเดือด



          7. เอามะนาวมาคลึงต่อ เทตะไคร้ใบมะกรูด โป๊ยกั๊ก อบเชย เห็ดนางฟ้า เห็ดฟาง เห็ดหอม ไส้ตันเจ และโปรตีนถั่วเหลืองลงไป



          8. ปรุงด้วยเกลือ ซีอิ้วหวาน จนน้ำเปลี่ยนสีก็เติมซีอิ้วขาวจากนั้นก็ปล่อยต้มไปเรื่อย ถ้าจะให้ดีควรต้มข้ามวัน



          9. เวลารับประทานให้นำถั่วงอกใส่ถ้วยก่อนแล้วค่อยตักน้ำซุบต้มแซ่บมาราด

          ถ้าในบ้านใครมีตะกร้า หรือ ขวดพลาสติก แล้วจะซื้อเมล็ดถั่วเขียวมาตุนไว้สักนิดในยามคับขัน อย่าได้ลืมนำมาลองเพาะจะได้รู้ว่า รสชาติถั่วงอกที่ปราศจากสารฟอกขาวจะอร่อยคูณสองขนาดไหน



คลิป ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ถั่วงอกรักชาติ 1/2


คลิป ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน ถั่วงอกรักชาติ 2/2










เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปรัชญาจากถั่วเขียว เมล็ดนิดเดียวกลายเป็นถั่วงอกรักชาติ อัปเดตล่าสุด 20 มีนาคม 2555 เวลา 13:30:10 14,932 อ่าน
TOP
x close