x close

สนธิ เปิดใจ ปฏิวัติ 19 ก.ย. ไม่ใช่จุดเริ่มต้นความขัดแย้ง


พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน
 

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน
 
          สนธิ เปิดใจนั่งประธาน กมธ.ปรองดอง ระบุมีหน้าที่แค่เสนอผลวิจัยให้สภาฯ ไปจัดการเอง ปัดไถ่บาป ยัน 19 กันยายน ไม่ใช่จุดเริ่มต้นความขัดแย้ง เพราะความขัดแย้งมีมานานแล้ว ย้ำตอนปฏิวัติมีแต่คนชื่นชม

          กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองในขณะนี้ เมื่อ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ หรือ กมธ.ปรองดอง สภาผู้แทนราษฎร ถูก ส.ส.ฝ่ายค้าน กดดันให้รัฐสภามีมติเลื่อนวาระการประชุมพิจารณารายงานของ กมธ.ปรองดอง เมื่อคืนวันอังคารที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องดังกล่าว ทำให้หลายฝ่ายจับตามองการทำงานของ กมธ.ปรองดอง ภายใต้การนำของ พล.อ.สนธิ มากขึ้น

          ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พล.อ.สนธิ ได้ออกมาเปิดใจกับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เกี่ยวกับประเด็นการทำหน้าที่ประธาน กมธ.ปรองดอง โดย พล.อ.สนธิ ระบุว่า ที่รับตำแหน่งประธานกรรมาธิการฯ นั้น เนื่องจากในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติประชุมวันแรก ซึ่งมีการเลือกประธาน ผู้เข้าประชุมก็มองว่า หากให้ฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลมาเป็นประธานก็ดูไม่เหมาะ จึงขอให้ตนรับหน้าที่นี้ เพราะตนไม่รู้จักนักการเมืองคนไหน จึงดูเป็นกลางที่สุด

          สำหรับหลักการทำงานของ กมธ.ปรองดอง นั้น พล.อ.สนธิ ระบุว่า คณะกรรมาธิการที่จะทำงานด้วยกันต้องลืมอดีต คิดปัจจุบัน และสร้างอนาคต เพื่อให้เดินต่อไปข้างหน้าได้ และขอให้ทุกคนไม่ยึดติดกับพรรคการเมือง เพื่อสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น จากนั้น ก็พิจารณาเลือกสถาบันพระปกเกล้ามาเป็นผู้วิจัยหาแนวทาง

          อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายก็ยังมองว่า พล.อ.สนธิ คือ ผู้นำก่อการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2549 นำไปสู่เหตุการณ์ต่าง ๆ ทางการเมือง แต่กลับมาดำรงตำแหน่งประธาน กมธ. ปรองดอง ซึ่งดูขัดแย้งกัน ประเด็นนี้ พล.อ.สนธิ ชี้แจงว่า เหตุการณ์วันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2549 ไม่ใช่จุดที่สร้างความขัดแย้ง เพราะความขัดแย้งเกิดขึ้นมาก่อนหน้านั้นแล้ว และตนก็เป็นผู้ยับยั้งความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2549 ทำให้คนรักสามัคคีกัน เพราะเห็นได้ว่าหลังจากนั้นประชาชนก็มีความสุข ดังนั้น ตนคือผู้ที่แก้ปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรงของประเทศ

          พล.อ.สนธิ ระบุต่อว่า ด้วยความที่วิวัฒนาการทางการเมืองที่เคลื่อนมาเรื่อย ๆ ทำให้คนอ้างเหตุการณ์ 19 กันยายน มาเป็นเครื่องมือสร้างกระแสให้คนมองว่าปฏิวัติคือสิ่งที่ผิด ไม่ใช่ประชาธิปไตย ขณะเดียวกัน ผู้ที่ปกครองประเทศหลังจากนั้นก็ไม่ได้แก้ปัญหาสังคม ทำให้ความขัดแย้งขยายตัวมากขึ้น และยิ่งรุนแรงเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

          เมื่อถามว่า พล.อ.สนธิ รู้สึกเช่นไรที่ถูกคนมองว่าเสียคน เมื่อรับตำแหน่งประธาน กมธ.ปรองดอง พล.อ.สนธิ ระบุว่า คำพูดดังกล่าวเป็นวาทกรรมใส่ร้ายทางการเมือง เพราะเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2549 ตนเป็นคนหนึ่งที่ประชาชนชื่นชม ในกองบัญชาการกองทัพบกมีแต่ดอกไม้ขอบคุณ แต่พอวันนี้เปลี่ยนไปเพราะมีคนพยายามโน้มน้าวให้เห็นว่าการปฏิวัติเป็นการกระทำที่ไม่ถูก อย่างไรก็ตาม การรับหน้าที่ในครั้งนี้ไม่ใช่การไถ่บาป เพราะตนมั่นใจว่าสิ่งที่ทำไปเมื่อวันนั้นเป็นการทำคุณให้กับประเทศ แต่กลับมาถูกใส่ร้ายทางการเมืองทำให้คนมองว่าตนเองผิด

          ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณารายงานของ กมธ.ปรองดอง ที่เสนอต่อสภาฯ แล้ว ทำให้หลายฝ่ายก็มองว่า แนวทางปรองดองที่ได้ข้อสรุปมานั้นสอดคล้องกับความพยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรมของบางพรรคการเมือง ซึ่งเรื่องนี้ พล.อ.สนธิ มองว่า คนที่รับรู้คือประชาชน เพราะประชาชนจะเป็นผู้เลือก ผู้ดู เช่นเดียวกับรัฐสภา หรือพรรคการเมือง หากทำอะไรแล้วประชาชนรู้ว่าไม่ถูก คราวหน้าประชาชนก็จะไม่เลือก อย่างไรก็ตาม กมธ.มีหน้าที่ไปค้นหาแนวทางปรองดองแล้วเสนอผลวิจัยส่งให้สภาฯ เท่านั้น ดังนั้น คนที่จะต้องปฏิบัติจริง ๆ คือ สภาฯ โดย กมธ.ไม่ได้มองว่า ข้อเสนอจะไปเข้าทางใคร เพราะมีหน้าที่แค่ศึกษาวิจัย ได้อย่างไรก็ส่งข้อมูลให้ต่อไป สภาฯ จะนำไปทำอะไรอย่างไรก็เป็นเรื่องของสภาฯ

          ในตอนท้าย ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า ข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้าจะเป็นชนวนเหตุให้เกิดการปฏิวัติหรือไม่ พล.อ.สนธิ ตอบว่า เงื่อนไขของการปฏิวัติอยู่ที่ประชาชน สมัยที่ตนทำปฏิวัติเพราะมีประชาชนสนับสนุน แต่หากประชาชนไม่เห็นด้วย ทหารก็ไม่ทำแน่นอน ส่วนเรื่องที่ประชาชนที่เคยสนับสนุนตนช่วงปฏิวัติ จะเห็นด้วยกับแนวทางปรองดองครั้งนี้หรือไม่นั้น ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะนี่เป็นแนวคิดทางวิชาการ และความคิดของคนในวันนั้นและวันนี้ ก็อาจไม่เหมือนกันแล้ว

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สนธิ เปิดใจ ปฏิวัติ 19 ก.ย. ไม่ใช่จุดเริ่มต้นความขัดแย้ง โพสต์เมื่อ 29 มีนาคม 2555 เวลา 11:13:45 4,109 อ่าน
TOP