Bangkok Airways สายการบินชั้นนำภายใต้สโลแกน Asia’s Boutique Airline มีกิจกรรมมาให้ทุกคู่รักได้ร่วมสนุกกับ "เรื่องราวคนพิเศษ" ให้ได้ลุ้นชิงรางวัลตั๋วเครื่องบิน ฟรี!! จำนวน 2 ที่นั่ง กับโปรโมชั่นพิเศษ Summer Fly Summer Free เส้นทาง กรุงเทพฯ-ภูเก็ต จำนวน 1 รางวัล ที่ใคร ๆ ก็สามารถร่วมสนุกกันได้ ขอแค่มีคนพิเศษของคุณ ไม่ว่าจะเป็นความรักแบบแม่ลูก หรือสามีภรรยาก็ไม่เกี่ยง
และเพื่อตอบสนองแคมเปญนี้ ในขณะเดียวกัน Bangkok Airways ได้จัดการปล่อย TVC อีกตัวหนึ่งออกมา หลังจากแอบทำซึ้งกันไปเรียบร้อย กับ Time: เวลาที่หายไป TVC ตัวแรกของ Bangkok Airways ที่พูดเรื่องราวความรักแม่ลูก ที่โดนความต่างเวลาพรากความสุขไปจากชีวิต จนพระเอกเกือบจะจิตตกนึกว่าเสียแม่ไป เรียกน้ำตาคนดูให้รื้น ๆ กันได้ทั่วประเทศมาแล้ว โดยคราวนี้ Bangkok Airways เบนเข็มมาซ้ำความซึ้งกับบรรดาคู่รักที่ไม่ค่อยมีเวลาให้กันตามประสาคนเมืองบ้างานทั่ว ๆ ไป กับ Tune: ปรับรัก ให้ลงตัว มาเรียกกระแสครอบครัวอบอุ่นกันอีกคำรบ โดยคอนเซ็ปต์ของ TVC ตัวนี้ เปลี่ยนมาเน้นเรื่อง "ความรัก" และ "การจูนเวลา" ที่ไม่ตรงกัน ทำให้เกิดความห่างเหินและจุดด้อยในหัวใจเข้ามาแทนที่ (มันช่างโดนใจคนทำงานอะไรเช่นนี้)
Tune: ปรับรัก ให้ลงตัว
Time: เวลาที่หายไป
เนื้อเรื่องพูดถึงคู่แต่งงานคู่หนึ่ง ที่สามีทำงานจนไม่มีเวลาให้ภรรยาสุดที่รัก ความรักก็จืดจางลงไปเรื่อย ๆ ตามเวลาที่ผ่านไป รวมทั้งความหวานและความโรแมนติกในชีวิตเช่นเดียวกัน ขนาดที่ว่าวันสำคัญสุด ๆ ในชีวิตคู่แบบวันแต่งงาน ภรรยายังคิดว่าสามีนั้นใจจืดใจดำลืมมันได้ลงคอ แทนที่จะสวีทหวานกัน สามีดันเห็น "งาน" และ "ลูกค้า" เป็นพระเจ้า แทนที่จะเป็นภรรยาว่างั้นเถอะ…จนภรรยาเกิดน้อยใจจะเก็บข้าวเก็บของหนีกลับไปอยู่กับแม่เลยทีเดียว
แต่ท้ายที่สุด โฆษณาชุดนี้ได้ให้ความหมายของความรักกับการให้เวลาซึ่งกันและกันเพียงง่าย ๆ ก็แค่สลัดงานที่ไม่ใช่ส่วนสำคัญของชีวิตขนาดต้องยอมตายถวายหัวให้ มาให้ความสำคัญกับคนที่จะอยู่เคียงข้างกันไปจนแก่แทน ซึ่งหนังก็หักมุมไว้ได้น่ารักเลยทีเดียว (ไม่บอก…เดี๋ยวสปอยล์)
ใครดูแล้วเกิดอารมณ์ขึ้นมา ประมาณว่าอยากได้ตั๋วฟรี บินไปสวีวี่วี ไปซาบซึ้ง ไปสนุกสนาน หรือไประลึกย้อนวัยเด็กที่แสนอบอุ่น ก็สามารถเข้าไปติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก FlyBangkokAir กันเลย
อย่าลืมบอกต่อ ๆ กันไปในหมู่เพื่อนฝูง พี่น้อง พ่อแม่ หรือแม้แต่หวานใจว่า "ไปเที่ยวกันเถอะ" ซะล่ะ เพราะคำ ๆ นี้มันมีความหมายแบบสุด ๆ จริง ๆ นะ
