ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเช้าดูวู้ดดี้
หลายคนที่ได้ทราบข่าวของ คุณโอ๊ต กิตติพงษ์ กองแก้ว หรือที่รู้จักในกลุ่มนักปั่นจักรยานว่า "โอ๊ตนนท์" ที่ปั่นจักรยานพาพ่อซึ่งเป็นอัมพาตไปเที่ยวทะเลจากรุงเทพฯ ไปไกลถึงกระบี่ เป็นระยะทางกว่า 800 กิโลเมตร คงจะประทับใจในความน่ารัก และความรักที่ลูกมีให้กับพ่อ เนื่องจากพ่อของคุณโอ๊ตบอกว่า ไม่ได้ชมทะเลมานานกว่า 20 ปีแล้ว วันนี้กระปุกดอทคอมก็ขอนำเรื่องราวน่ารัก ๆ ของพ่อลูกคู่นี้ จากรายการเช้าดูวู้ดดี้มาฝากกัน (15 พฤษภาคม) เชื่อเลยค่ะว่า ถ้าได้ดูแล้วจะต้องอมยิ้ม และประทับใจสองพ่อลูกนี้อย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้ คุณโอ๊ต กลายเป็นที่กล่าวถึงเมื่อหลายปีก่อน เนื่องจากเขาได้ปั่นจักรยานกับเพื่อนไปยังทิเบต เพื่อเปิดร้านกาแฟบนยอดเขา ซึ่งเรื่องนี้ก็สร้างความทึ่งให้กับผู้ชมที่ได้ทราบข่าว โดยคุณโอ๊ต ได้เล่าถึงการใช้ชีวิตประจำวันกับเจ้าสองล้อนี้ว่า ตนเป็นคนติดรถจักรยานมาก ถ้าไม่ได้ปั่นก็จะรู้สึกว่าเหมือนขาดอะไรไป เมื่อก่อนตอนสมัยที่ตนทำงานอยู่ประเทศไทย ตนใช้จักรยานเป็นพาหนะในการเดินทางเสมอ และปั่นจักรยานไป-กลับ มาบุญครอง - จ.นนทบุรี เพื่อไปทำงานทุกวัน ส่วนบางวันอยากกินเป็ดที่บ้านโป่ง ก็ปั่นไปซื้อกินบ้าง
ส่วนจุดเริ่มต้นที่คุณโอ๊ตได้ไปเปิดร้านกาแฟที่ประเทศทิเบตนั้น คุณโอ๊ต เล่าให้ฟังว่า เริ่มแรกตนเป็นคนชอบปั่นจักรยานอยู่แล้ว คราวนี้มีเพื่อนคนหนึ่งเป็นคนฮ่องกง อยากจะมาศึกษาเรื่องการปั่นจักรยานในประเทศไทย และอยากเข้าชมรมด้วย ครั้งแรกที่ตนเจอเขาก็คือ ทริปไปอยุธยา ซึ่งตนก็คอยแนะนำการปั่นจักรยาน จนถูกคอและกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน
คุณโอ๊ต เล่าต่อว่า หลังจากนั้นเพื่อนคนนี้ก็มีแพลนไปทิเบต โดยเขามีความฝันที่จะเปิดร้านกาแฟบนเขา ซึ่งเขาก็มาชักชวนตนให้ไปด้วย แต่ในฐานะเพื่อนร่วมทาง ที่คอยแนะนำและให้ข้อมูล ตนจึงเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ไปทิเบต เพราะทิเบตเป็นประเทศที่เดินทางไปยาก และเปิดกิจการต่าง ๆ ค่อนข้างยากเหมือนกัน ตนจึงขอร่วมหุ้นกับเขาด้วยเลย
สำหรับระยะทางที่ไปทิเบตนั้น คุณโอ๊ต เล่าว่า ความจริงแล้วระยะทางที่ตนอยู่บนอานใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 เดือน แต่ด้วยความที่ว่า ผ่านหลายเมือง หลายประเทศ ก็เลยขอพักชมเมืองบ้าง ซึ่งสรุประยะเวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 5 เดือน ส่วนความฝันต่อไปคือการเดินทางรอบโลก แต่คงเป็นได้ยาก ... ถ้าถามว่าตนมีอาชีพอะไร ทำไมปั่นจักรยานอย่างเดียว (หัวเราะ) คือก็มีงานที่ร้านกาแฟ ซึ่งผลตอบรับดีมาก และขายดีเป็นเทน้ำเทท่า นอกจากนี้ ตนยังเปิดทัวร์อีกด้วย
และล่าสุด เรื่องราวที่ทำให้คนในสังคมต้องพูดถึงคุณโอ๊ตอีกครั้งนั้นก็คือ การพาพ่อที่เป็นอัมพาตซ้อนท้ายนั่งรถ (จักรยาน) ชมวิว ที่ทะเลกระบี่ โดยคุณโอ๊ต กล่าวว่า ตนดีใจมากที่มีโอกาสได้พาพ่อไป ถึงแม้ระยะทางจะไกล แต่ตนก็มีความสุข ทั้งนี้ หลายคนคิดว่าตนทรมานพ่อหรือเปล่า แต่จริง ๆ แล้ว ตนก็มีพักบ้าง เพราะตลอดการเดินทางมันมีฝนตก และแดดแรง ยังไงตนก็ต้องห่วงใยความปลอดภัยของพ่อก่อนอยู่แล้ว
ด้านพ่อของคุณโอ๊ต กล่าวว่า ตนดีใจ และมีความสุขมากที่ได้ไปกับลูก ซึ่งการนั่งรถจักรยานก็ไม่ได้ลำบากเลย มีแต่สบายใจ ส่วนคุณโอ๊ต กล่าวต่อว่า พ่อของตนไม่ได้ดูทะเลมานานกว่า 20 ปีแล้ว ตนดีใจมากที่ได้พาพ่อไป ส่วนคนอื่นเมื่อเห็นตนพาพ่อไปด้วย ก็ชะลอรถหยุดดู บางคนก็หยิบกล้องมาถ่ายรูป ซึ่งทริปครั้งนี้ตนใช้ระยะเวลาเดินทางทั้งหมด 5 วัน
ถ้าถามเหตุผลว่า ทำไมถึงอยากพาพ่อไปเที่ยว คุณโอ๊ต กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนไม่มีเวลาให้พ่อ ส่วนมากเวลาตนไปออกทริปต่าง ๆ ก็กินเวลาหลายวัน เลยอยากพาพ่อไปเที่ยวบ้าง เพราะท่านก็แก่แล้ว อยากให้เวลากับเขาก่อนที่จะไม่มีโอกาส
นอกจากนี้ คุณโอ๊ต ยังเตรียมที่จะทำรถที่พ่วงอันใหม่ให้พ่อซ้อนจักรยานได้สบายขึ้น อีกทั้งยังเตรียมดัดแปลงจักรยานคันใหม่ เพื่อให้พ่อลองปั่นได้บ้าง เนื่องจากเห็นผู้สูงอายุหลายคนเขาชอบปั่นจักรยาน บางคนปั่นเร็วมาก ตนก็อยากให้พ่อได้ออกกำลังกาย เพื่อเป็นการกายภาพบำบัดในตัว ส่วนพ่อของคุณโอ๊ตก็บอกว่า อยากลองปั่นดูเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ท้ายนี้ คุณโอ๊ต กล่าวต่อว่า ตนพยายามจะอยู่กับครอบครัวมากขึ้น ซึ่งต่อจากนี้ตนตั้งเป้าไว้แล้วว่า ปีหน้าจะเป็นปีสุดท้ายที่มาอยู่ทิเบต และตนจะพยายามสร้างเนื้อสร้างตัวที่ประเทศไทยให้ได้ เพื่อมาอยู่กับครอบครัว
