ปอศ.จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติสูญ 500 ล. (ไอเอ็นเอ็น)
ตำรวจ ปอศ. บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวต่างชาติเกือบ 100 ราย ในประเทศไทย ที่โทรศัพท์หลอกผู้เสียหายในประเทศจีน สูญกว่า 500 ล้านบาท
พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ผบก.4 แถลงผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวันรวม 6 คน ได้แก่ นายเฉิน เหอ ปิง อายุ 43 ปี,นายยู ซุน ชิง อายุ 33 ปี และ นายซือติ ชาวพม่า หลังนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 46/1 ซอยรามคำแหง 21 แยก 7 ซึ่งการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เป็นการขยายผลจากตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. เข้าจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 6 คน เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พร้อมเงิน 130,000 บาท ที่บริเวณซูเปอร์มาร์เก็ตที่ทาวน์อินทาวน์ ซึ่งเชื่อว่า เป็นการเบิกเงินออกมาเพื่อเตรียมไปให้กับหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยยึดของกลาง เป็นโทรศัพท์พื้นฐาน 23 เครื่อง โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง เราท์เตอร์ 23 เครื่อง ปริ้นเตอร์ 2 เครื่อง เครื่องคิดเลข 4 เครื่อง กล้องวงจรปิด 1 ตัว และมีอุปกรณ์ต่อสัญญาณโทรศัพท์กับอินเทอร์เน็ต โดยพฤติการณ์จะใช้ไทยเป็นฐานหลอกชาวไต้หวันโอนเงินให้ ซึ่งมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท โดยได้อาศัยและเช่าบ้านดังกล่าวมาระยะหนึ่ง เชื่อมีผู้ร่วมกระบวนการอีกและหลบหนีไปได้ขณะเข้าจับกุม
ทั้งนี้จากข้อมูล ปอศ. มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายไต้หวันคาดว่าจะมีกลุ่มอื่น ๆ ด้วย ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวน จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การว่า รับจ้างจากชาวจีน ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา โดยโทรศัพท์กลับไปประเทศตัวเองเพื่อหลอกลวงให้เหยื่อโอนเงินผ่านตู้ ATM ในเบื้องต้นแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวมาประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาตและจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่ง ปอศ.ดำเนินคดีต่อไป
พลตำรวจตรีภูมิรา วัฒนปาณี รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พันตำรวจเอกชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. แถลงผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน-ไต้หวัน ที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการ โทรศัพท์ไปหลอกเหยื่อในประเทศจีน หลังเข้าตรวจค้นบ้านพัก 5 จุด ประกอบด้วย หมู่บ้านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี บ้านพักย่านสนามบินน้ำ ซอยรามคำแหง 21 ซอยลาซาล 11 และที่ จ.เชียงราย จับกุมผู้ต้องหาทั้งชาวจีน ไต้หวัน และพม่า ได้รวม 94 ราย พร้อมยึดของกลาง เป็นโทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ที่ใช้กระทำความผิดอีกจำนวนมาก
ทั้งนี้ จากการสอบสวนทราบว่า เป็นเครือข่ายเดียวกับที่จับกุมผู้ต้องหาทั้งชาวไทยและใต้หวันที่ประเทศจีนได้ก่อนหน้านี้ โดยแก๊งค์ดังกล่าวหลอกลวงผู้เสียหายชาวจีนแล้วนับร้อยราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท โดยผู้เสียหายชาวจีนบางรายถูกหลอกให้โอนเงินไม่ต่ำกว่า 10 ล้านหยวน ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนเพื่อขยายผลจับกุมผู้ต้องหาร่วมเครือข่ายต่อไป ส่วนผู้ต้องหาที่จับกุมได้ จะดำเนินการผลักดันกลับประเทศตามขั้นตอนต่อไป
