ชีวิตข้างสังเวียนของบัวขาว จากมุมมองของเพื่อนซี้


ชีวิตข้างสังเวียนของบัวขาว จากมุมมองของเพื่อนซี้
บัวขาว ป.ประมุข หรือ สมบัติ บัญชาเมฆ 
 
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก นิตยสาร ค ฅน

            มรสุมที่ถาโถมใส่ชีวิตของ บัวขาว ป.ประมุข หรือ สมบัติ บัญชาเมฆ ในช่วงนี้ หนักหน่วงไม่แพ้กำปั้นอันทรงพลังของนักมวยซูเปอร์สตาร์คนนี้เลย ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา บัวขาว ป.ประมุข กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วจากข่าวการหายตัวไปจากค่ายซ้อม เรื่อยมาจนกระทั่งประกาศตัดสัมพันธ์กับค่ายมวย ป.ประมุข ซึ่งเป็นนามสกุลที่ติดตัวเขาทุกครั้งในยามขึ้นชก

            วันนี้ เราไม่ได้มาพูดถึงกระแสข่าวต่าง ๆ ของบัวขาว แต่เราจะมาโฟกัสชีวิตข้างสังเวียนผืนผ้าใบของยอดกำปั้นชาวไทยคนนี้ ซึ่ง "สายชล ธรรมรงค์" เพื่อนรักที่เป็นคู่ซ้อมให้บัวขาวมานานกว่า 4 ปี มาบอกเล่าให้ฟังในนิตยสาร ค ฅน พร้อมกับพูดถึงสาเหตุที่บัวขาว ตัดสินใจหันหลังให้กับค่าย ป.ประมุข ในมุมมองของเพื่อนซี้ที่ตัดสินใจเดินออกมาพร้อมกับบัวขาว

ชีวิตข้างสังเวียนของบัวขาว จากมุมมองของเพื่อนซี้
 สายชล ธรรมรงค์

            สายชล ธรรมรงค์ เริ่มเล่าถึงการได้มาเป็นเทรนเนอร์ให้บัวขาวว่า เขาสนิทกับบัวขาวมาสิบกว่าปีแล้ว เพราะต่อยมวยมาด้วยกัน แต่เขาเลิกชกมวยไปก่อน เพราะร่างกายเริ่มไม่ไหว จากนั้นก็ได้ผันตัวเป็นเทรนเนอร์ที่ประเทศจีน ก่อนจะกลับมาเมืองไทยและมาอยู่ที่ค่าย ป.ประมุข ได้ลองจับเป้า ล่อเป้า ซ้อมให้บัวขาวมาตลอด จนเข้าทางกันดี จึงได้เป็นเทรนเนอร์ให้บัวขาวมาตลอด ถึงตอนนี้ก็ 4 ปีแล้ว

            หลายคนอาจจะคิดว่า การล่อเป้า ซ้อมเป้า ใคร ๆ ก็ทำได้ แต่ สายชล บอกว่า จริง ๆ แล้ว การเป็นเทรนเนอร์ให้นักมวย ทั้งสองคนต้องรู้ใจ รู้ชีวิต ศึกษานิสัยมากันเป็นอย่างดี จะได้รู้ว่าวันไหนเจ็บ วันไหนเหนื่อย อย่างเขากับบัวขาวเป็นเพื่อนกันมาก่อน จึงรู้จักกันดีว่าใครใช้ชีวิตมาแบบไหน เป็นคนยังไง

ชีวิตข้างสังเวียนของบัวขาว จากมุมมองของเพื่อนซี้

            สายชล บอกว่า แม้เขาเป็นคนซ้อมเป้า หรือที่เรียกว่ารับมือรับตีนให้กับยอดนักมวยอย่างบัวขาวมานาน แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องของความภูมิใจอะไร กลับกัน เขามองว่าตัวเองโชคดีมากกว่า เพราะการล่อเป้าให้บัวขาว ก็เหมือนกับได้พัฒนาฝีมือตัวเองไปพร้อม ๆ กัน ถามว่าเคยพลาดถูกหมัด ถูกถีบบ้างไหม ก็ยอมรับว่าเคย แต่ทนได้ ยังไงก็ต้องทน เวลาพลาดจะมาโกรธกันไม่ได้ เพราะมันเป็นงาน ถึงจะซ้อมก็ต้องต่อยเต็มที่ ออกอาวุธเต็มที่

            ในฐานะที่เป็นเทรนเนอร์ให้บัวขาว นั่นแสดงว่าทุกไฟต์ที่บัวขาวขึ้นชก สายชล ธรรมรงค์ คนนี้ คือผู้ที่มีส่วนในชัยชนะของบัวขาวเช่นกัน เพราะหน้าที่ของเขาคือการแก้ทางมวยให้เพื่อนรัก บอกจุดบอด จุดเสียให้บัวขาวปรับปรุง เพื่อพิชิตคู่ต่อสู้

            "เวลาเขาขึ้นชกไม่รู้หมดหรอกว่ามีจุดบอดตรงไหนบ้าง แต่เราอยู่ข้างล่างมองเห็นมากกว่า แนะนำในจุดที่ขาดไป เขาก็เชื่อ ไม่เคยคิดว่าเป็นเพื่อนพูดไม่ต้องฟัง เรามีหน้าที่ตรงนี้ เขามีหน้าที่ตรงนั้น ต่างคนต่างมีหน้าที่ บอก ฟัง เชื่อแล้วก็ปฏิบัติ ปฏิบัติแล้วดีขึ้น เขาก็เชื่อเรามากขึ้น"

ชีวิตข้างสังเวียนของบัวขาว จากมุมมองของเพื่อนซี้

            อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกไฟต์ที่บัวขาวขึ้นชกจะชนะแบบสบาย ๆ เพราะถึงแม้เขาจะเป็นนักมวยยอดฝีมือ แต่ก็เคยพลาดพลั้ง จนหวิดจะปราชัยแล้วเหมือนกัน โชคดีที่เขามีเทคนิคเอาตัวรอดมาได้

            "วันนั้นเป็นนัดรอบรองของไทยไฟต์ บัวขาวต่อยเสร็จยกหนึ่งออกมาเล่าให้ฟังว่า จริง ๆ ที่ทำเป็นยิ้มบนเวที กูจะลงไปนั่งแล้ว มันบอกว่าเกิดมาในชีวิต มันเพิ่งเคยโดนนวมตรงนิ้วโป้งจิ้มเข้าไปที่ตา คือตอนนั้นตาทั้งสองข้างบวมไปหมดเลย ลืมตาไม่ขึ้นเลยนะ มันบอกว่าเห็นคู่ชกเหลือแค่กางเกง มองไม่เห็นอะไรเลย มันก็ใช้วิธีไล่เข้าเชือกแล้วควานหาคู่ต่อสู้ว่าอยู่ตรงไหน เหมือนในหนังจีนเลย ปิดตาสู้ จั่วลมไปเรื่อย พอขึ้นยกสองมามันบอกเห็นกางเกงคู่ต่อสู้เป็นห้าตัวแล้ว เราก็บอกไม่มีอะไรหรอก เอาให้เต็มที่ มันก็เลยกัดฟันไปล่อเขาจนน็อก นึกว่ายิบมัน (หัวเราะ)"

            เทรนเนอร์คนสนิท บอกด้วยว่า บัวขาวเป็นนักมวยที่มีความพยายามสูง ดุดัน มีทีเด็ดในตัวเอง ส่วนที่สุดยอดเลยก็คือลูกถีบ เคยถีบคู่ต่อสู้ที่สหรัฐอเมริกาจนน็อกมาแล้ว แต่ถ้าถามว่า บัวขาว กลัวคู่ต่อกรลักษณะไหน ก็คงไม่ถึงกับกลัว แต่จะไม่ชอบคู่ต่อสู้ที่หุ่นเตี้ย ๆ ตัน ๆ เพราะเวลาชกไป เตะไปแล้วจะไม่ค่อยสะเทือน เตะไปท้อใจไปแบบนั้นมากกว่า  

            แล้วเวลาที่ไม่ได้ซ้อมมวย หรือขึ้นชกล่ะ พวกเขาทำอะไรกันบ้าง? สายชล บอกว่า เวลาว่างอย่างเช่นวันอาทิตย์ก็จะไปโยนโบว์ลิ่งกัน หรือไปสถานที่ที่ไม่ร้อน เพราะเวลาซ้อม เวลาวิ่ง ก็อยู่ในที่ที่ร้อนทุกวันอยู่แล้ว หากได้หยุดพักก็จะไปสถานที่เย็น ๆ ไปซื้อของ เดินเที่ยวตามปกติทั่วไป ถ้าสมัยที่อยู่ค่ายเก่า เขา บัวขาว และคมพยัคฆ์ จะสนิทกันมาก เพราะรุ่นเดียวกัน คุยกันถูกคอ เวลาไปไหนก็จะไปด้วยกัน มีอะไรก็ปรึกษากันได้ทุกเรื่อง

ชีวิตข้างสังเวียนของบัวขาว จากมุมมองของเพื่อนซี้

ชีวิตข้างสังเวียนของบัวขาว จากมุมมองของเพื่อนซี้

            มาถึงประเด็นที่เป็นข่าวกันบ้าง เพราะหลายคนสงสัยว่า ทำไมบัวขาวจึงตัดสินใจหนีออกจากค่าย ป.ประมุข และ สายชล ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ออกจากค่ายไปพร้อมกับเพื่อนรักนักชกคนดัง ซึ่งเขาก็เปิดใจว่า

            "ผมตัดสินใจวันเดียวเลย แล้วเราก็ออกกันมาเลย ผมคิดว่าเราเดินทางด้วยกันมานาน ตัวเขาเองก็คงคิดคล้าย ๆ กับผม แล้วตอนนั้นตัวผมก็มีเรื่องกับที่ค่ายด้วย บัวขาวเองก็มีปัญหาอึดอัดใจหลายอย่าง เขาก็เลยไม่อยากให้เราลำบาก จึงชวนผมออกมาด้วยกัน คือเราเคยคุยกันนานแล้วว่า ถ้ามึงดังแล้วจะทำอะไรกันดี เขาบอกกับผมว่า "กูไม่ทิ้งมึงหรอก" ถึงวันนี้เขาก็ไม่ทิ้งจริง ๆ เขาก็บอกว่าตอนนี้เขายังทำอะไรไม่ได้ ให้เหตุการณ์มันจบก่อน เพื่อความถูกต้อง"

ชีวิตข้างสังเวียนของบัวขาว จากมุมมองของเพื่อนซี้

            แน่นอนว่า เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หลายคนพาลคิดไปถึงเรื่อง "เงิน" เพราะสิ่ง ๆ นี้ มักจะเป็นชนวนเหตุของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในทุก ๆ วงการ แต่ สายชล กลับบอกว่า เรื่องเงินไม่ใช่สิ่งที่เขาแคร์มากนัก แต่ความสบายใจคือสิ่งสำคัญมากกว่า

            "พูดตรง ๆ เลยนะ ตัวผมไม่ได้แคร์เรื่องนั้นมากเท่าไหร่ แคร์เรื่องความสบายใจ ความผูกพัน บุญคุณเป็นอีกจุดหนึ่งที่ผมก็คิด เขาช่วยเหลือผมมา ผมก็ไม่ได้ลืมตรงจุดนั้น แต่ผมอยากให้เขาคิดในจุดของพวกผมบ้าง พวกผมก็ 30 แล้วเหลือเวลากันไม่มาก ตัวผมเองเจ็บช้ำร่างกายมาก จะแก่ตายหรือเปล่าก็ไม่รู้"

ชีวิตข้างสังเวียนของบัวขาว จากมุมมองของเพื่อนซี้

            เทรนเนอร์คนสนิทของบัวขาว ยังตัดพ้อต่อด้วยว่า จากข่าวที่ออกมา ทางฝั่งนั้นบอกว่า พวกเขาคือพี่น้อง ถ้าน้องได้ดี เขาก็สงสัยว่า ทำไมถึงกีดกันไม่ให้น้องไป ส่วนเรื่องเงินเขาไม่ได้ซีเรียสเลย ถ้าได้มากก็ดี แต่ถ้าได้น้อยก็ขอให้มีเหตุผลหน่อย

            "มันมีหลายอย่างที่อึดอัดและติดใจ บางครั้งเหมือนเราทำดีไม่ได้ดี บางทีก็เครียดและอยู่ไม่ได้" สายชล ทิ้งท้ายอย่างเป็นปริศนาที่คงไม่มีใครรู้คำตอบของประเด็นนี้ได้ดีเท่ากับค่าย ป.ประมุข และตัวของบัวขาวเอง
 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

นิตยสาร ค ฅน ปีที่ 7 ฉบับที่ 6 (78) เดือนพฤษภาคม 2555



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ชีวิตข้างสังเวียนของบัวขาว จากมุมมองของเพื่อนซี้ โพสต์เมื่อ 22 พฤษภาคม 2555 เวลา 17:21:49 3,194 อ่าน
TOP
x close