ถึงตาย! เถียงปมปรองดอง แทงตัวประกอบบางระจันดับ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ Khaokhon สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

            โชเฟอร์แท็กซี่เสื้อเหลือง เถียงเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง ก่อนมีความเห็นไม่ตรงกัน แทงตัวประกอบบางระจันดับ

            วานนี้ (21 มิถุนายน) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองค้างพลู รับแจ้งเหตุคนแทงกันตาย ที่บ้านเลขที่ 49/14 หมู่ 6 ถนนเพชรเกษม ซอย 106 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม จึงเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบบ้านไม้สูง 2 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายของชำ ส่วนด้านบนแบ่งเป็นห้องเช่า จำนวน 3 ห้อง ทั้งนี้ ในห้องเช่าห้องแรกพบศพของ นายภัทรชัย เวียงคำ อายุ 51 ปี  พ่อค้าขายไอศกรีม และเคยเป็นนักแสดงตัวประกอบภาพยนตร์เรื่องบางระจัน ลักษณะศพอยู่ในสภาพนอนหงายจมกองเลือด มีบาดแผลฟันเข้าที่ลำคอข้างซ้าย และถูกแทงที่ใต้รักแร้ซ้าย รวมทั้งหมด 2 แผล อีกทั้งในที่เกิดเหตุยังพบร่องรอยการต่อสู้ และคราบเลือดสาดกระเซ็นเป็นทางยาวลงไปถึงบันไดทางขึ้น ทางเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมหลักฐานเก็บไว้
 
            จากการสอบสวน นายสัญญา แช่มพุทรา อายุ 29 ปี เพื่อนร่วมห้องของผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น ผู้ตายได้นั่งดื่มสุรากับตน พร้อมด้วยเพื่อนอีก 2 คน คือ นายวิเชียร สุขไสยาสน์ อายุ 40 ปี เป็นโชเฟอร์แท็กซี่ และเพื่อนโชเฟอร์อีกหนึ่งคน ระหว่างนั่งดื่มสุรากันอยู่ ก็พูดคุยถึงเรื่องการเมือง ในเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง โดยฝ่ายนายเชียร โชเฟอร์แท็กซี่ดังกล่าว ยึดมั่นในอุดมการณ์เสื้อเหลือง ส่วนตนและผู้ตายอยู่เสื้อแดง ก็มีการโต้เถียงกันตลอดทั้งคืนจนเกือบรุ่งเช้า แต่ทั้งนี้ ตนง่วงจึงขอตัวไปนอนก่อน

            นายสัญญา กล่าวต่อว่า จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ตนก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันเอะอะโวยวาย จึงวิ่งออกมาดู พบว่า นายภัทรชัย นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ส่วนนายวิเชียรก็ยืนถือมีดดาบเปื้อนเลือด พอเห็นว่า นายภัทรชัย แน่นิ่งเสียชีวิต เลยรีบวิ่งไปสตาร์ทรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

            อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เจ้าหน้าที่ควบคุม นายวิเชียร ได้แล้ว ขณะที่หลบหนีไปกบดานอยู่ในปั๊มน้ำมันพีที ซอยเพชรเกษม 81/2 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม. โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า ตนชื่นชอบเสื้อเหลือง ซึ่งก่อนเกิดเหตุตน และกลุ่มเพื่อน รวมทั้งผู้ตาย นั่งดื่มสุราอยู่ด้านล่างห้องเช่า สักพักพอเมาได้ที่ ก็ถกเถียงกันเรื่องการเมือง จากนั้นก็ลุกลามไปถึงเรื่องหนี้สิน ที่ต่างฝ่ายต่างเคยหยิบยืมกัน แล้วจู่ ๆ นายภัทรชัย ก็เดินขึ้นไปหยิบขวาน และตะโกนบอกว่า การ์ดคนเสื้อแดงไม่เคยกลัวใครทั้งนั้น ส่วนตนเมื่อเห็นดังนั้นก็กลัวจึงหยิบมีดปอกผลไม้ขึ้นมาหยั่งเชิงกัน จนกระทั่ง นายภัทรชัยใช้ขวานจามเข้าที่หน้าผากตนก่อน 1 ที จนเลือดไหลโชก ตนจึงใช้มีดแทงสวนกลับเข้าไปที่รักแร้ของนายภัทรชัย และพยายามยื้อแย่งอาวุธ แต่บังเอิญขวานพลาดไปถูกลำคอของ นายภัทรชัย จนเสียชีวิต

        นายวิเชียร กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นตนก็ได้เดินทางไปเย็บแผลที่โรงพยาบาลศาลายา และกำลังจะเดินทางไปหาเจ้าของอู่แท็กซี่ที่ปั๊ม จากนั้นก็จะเดินทางไปแจ้งความ แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่รวบตัวได้เสียก่อน

        ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า คดีนี้แสดงให้เห็นว่า คนเป็นเพื่อนกันย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป แต่เมื่อมีสุราเข้ามาข้องเกี่ยว เรื่องก็สามารถลุกลามใหญ่โต จนลงมือฆ่ากันได้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมสถิติคดีทำร้ายร่างกายเอาไว้ พบว่า คู่กรณีแต่ละคดีมีการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนลงมือก่อเหตุ 80% ดังนั้น จึงอยากให้ประชาชนดูกรณีนี้ไว้ เพื่อเป็นอุทาหรณ์










อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก