ขอขอบคุณภาพประกอบจาก images.medicaldaily.com
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา สำนักข่าวแคนาเดียนเพรส เปิดเผยเรื่องราวน่าทึ่งซึ่งจะทำให้คนปกติที่มีอวัยวะครบสามสิบสองต้องอาย เมื่อหนุ่มพิการครึ่งตัวชาวอเมริกัน ได้พิชิตยอดเขาคิลิมันจาโร ยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปแอฟริกาได้สำเร็จ โดยใช้เวลา 7 วัน
หนุ่มพิการผู้สร้างประวัติศาสตร์รายนี้คือ สเปนเซอร์ เวสต์ ชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ในแคนาดาวัย 31 ปี เขากลายเป็นผู้มีร่างกายพิการตั้งแต่เอวลงไปขณะอายุได้ 5 ขวบ เมื่อแพทย์ได้ตัดขาของเขาออกทั้งหมดเนื่องด้วยโรคทางพันธุกรรม และจากนั้นมา แม้เวสต์จะรู้ตัวดีว่าตัวเองมีสภาพร่างกายที่ดูแล้วน่าเห็นใจในสายตาใครหลาย ๆ คน เพราะต้องเดินด้วยสองมือแทนเท้า แต่เขาก็ทำตัวเองให้ต่างจากผู้พิการคนอื่น ๆ ด้วยการพยายามทำสิ่งต่าง ๆ ให้เทียบเท่ากับคนปกติ เพื่อพิสูจน์ให้ใครเห็นว่าเขาก็มีคุณค่าเหมือนกับคนอื่น ๆ เช่นกัน
จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เวสต์ก็ได้ทำให้คนทั่วโลกทึ่ง เมื่อเขาได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถและจิตใจที่ไม่เคยท้ออีกครั้ง ด้วยการพิชิตยอดเขาคิลิมันจาโร ยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปแอฟริกาที่มีความสูง 6 กิโลเมตรจากระดับน้ำทะเล โดยมีเพื่อนสนิท 2 คนคอยให้ความช่วยเหลือระหว่างทาง และภารกิจดังกล่าว ก็มีจุดประสงค์เพื่อระดมทุนสนับสนุนมูลนิธิ ฟรี เดอะ ชิลเดรน ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือเรื่องน้ำดื่มแก่ชาวเคนยา เรียกว่านอกจากพิสูจน์ให้โลกได้เห็นความสามารถแล้ว ยังเป็นการทำประโยชน์เพื่อสังคมด้วย
หลังจากประสบความสำเร็จในการพิชิตยอดเขาคิลิมันจาโรแล้ว เวสต์ได้เปิดเผยด้วยความภาคภูมิใจว่า ภารกิจนี้เป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับเขามาก เขาต้องใช้เวลาฟิตซ้อมร่างกายนานเป็นปีกว่าจะเริ่มออกเดินทางจริง ๆ ได้ และระหว่างการปฎิบัติภารกิจนี้ เขาก็ต้องเผชิญกับความเมื่อยล้าบริเวณแขนและหัวไหล่ไม่น้อย เพราะมันคืออวัยวะที่เขาใช้ถีบตัวเองขึ้นไปบนยอดเขา แต่หลังจากที่เขาทำมันได้แล้ว เขาก็รู้สึกถึงพลังความเชื่อมั่นของตัวเอง และเป็นการพิสูจน์ให้ใคร ๆ เห็นว่าเขาเองก็มีคุณค่าต่อสังคมไม่น้อยกว่าคนปกติ
ทั้งนี้ นอกจากจะพิสูจน์ให้โลกรู้ว่าคนพิการอย่างเขาสามารถทำภารกิจยิ่งใหญ่ได้เทียบเท่าคนปกติแล้ว เวสต์ยังเปิดเผยว่า เขาต้องการลบคำสบประมาทของแพทย์ที่ผ่าตัดขาของเขา ซึ่งเคยพูดว่าเขาจะไม่สามารถทำประโยชน์ต่อสังคมได้อีกด้วย
