เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
กทม. ปิ๊งไอเดียใหม่ เปิดให้เช่ารถจักรยาน ขี่เชื่อมต่อการเดินทางกับรถไฟฟ้า นำร่อง 2 จุด โดยสถานีที่ 1 คือ หัวมุมอาคารจามจุรีสแควร์ ส่วนสถานีที่ 2 คือ หัวมุมถนนอังรีดูนังต์ เริ่มให้บริการ 22 ตุลาคมนี้ พร้อมตั้งเป้าขยาย 50 จุด ใน 11 เดือน
วันนี้ (27 กันยายน) นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า เนื่องจากกรุงเทพมหานคร จัดเป็นเมืองที่มีปัญหาการจราจรติดขัดมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ดังนั้น กทม. จึงต้องการรณรงค์ให้ประชาชนเดินทางด้วยรถไฟฟ้ากันมากขึ้น เพื่อลดปัญหาจราจร แต่ในบางจุดรถไฟฟ้ายังไม่ครอบคลุม เช่น บริเวณถนนสีลม สาทร และถนนวิทยุ ซึ่งทำให้ไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง
ดังนั้น กทม. จึงมีแนวคิดในการนำรถจักรยานมาใช้ในการเดินทาง เพื่อเป็นทางเลือกในการเชื่อมโยงโครงข่ายการใช้รถไฟฟ้า และรถไฟใต้ดิน โดยการจัดทำระบบรถจักรยานสาธารณะ (Public Bike) ซึ่งประชาชนจะสามารถเลือกเช่ารถจักรยานจากจุดบริการหนึ่ง เพื่อนำไปใช้แล้วส่งคืนยังจุดบริการใด ๆ ที่ใกล้กับจุดหมายปลายทางของผู้ใช้เส้นทางมากที่สุด
นายธีระชน กล่าวต่อว่า การจ่ายค่าเช่ารถจักรยานนั้น จะดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยบัตรสมาร์ทการ์ดที่สามารถสั่งซื้อมูลค่าบัตรผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรือที่สถานีบริการรถจักรยานสาธารณะ ซึ่งพื้นที่ที่ กทม. นำร่อง 2 สถานีก่อน คือ สถานีที่ 1 หัวมุมอาคารจามจุรีสแควร์ สถานีที่ 2 คือ หัวมุมถนนอังรีดูนังต์ ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ โดยมีรถจักรยานให้บริการสถานีละ 8 คัน และจะมีการขยายในจุดที่เหลืออีก 50 สถานี ภายใน 11 เดือน
สำหรับตัวรถจักรยานสาธารณะ จะเป็นรูปแบบพิเศษที่เหมาะกับระบบการให้บริการจักรยานเช่า โดยมีการติดตั้งอุปกรณ์ และระบบต่าง ๆ เช่น ระบบล็อกอัตโนมัติที่เหมาะสมกับจุดจอด อุปกรณ์คิดค่าบริการ และติดตามรถ ส่วนสถานีจอดรถจักรยาน จะติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นในการควบคุมการเข้า-ออก, ระบบยืม-คืน และการตัดเงินจากบัตร ด้วยการออกใบเสร็จ
โดยในส่วนของอัตราค่าเช่าเริ่มแรกนั้น มีการออกแบบไว้ ดังนี้
15 นาทีแรก ไม่คิดค่าบริการ หลังจาก 15 นาที - 1 ชั่วโมง คิดค่าบริการ 10 บาท 1-3 ชั่วโมง คิดค่าบริการ 20 บาท 3-5 ชั่วโมง คิดค่าบริการ 40 บาท 5-6 ชั่วโมง คิดค่าบริการ 60 บาท 6-8 ชั่วโมง คิดค่าบริการ 80 บาท ตั้งแต่ชั่วโมงที่ 8 เป็นต้นไป คิดค่าบริการ 100 บาท ทั้งนี้ สำหรับเศษของชั่วโมงคิดเป็น 1 ชั่วโมง และหากเกิน 24 ชั่วโมง จะใช้ระบบจีทีเอสที่ติดตั้งกับตัวรถจักรยาน ในการระบุสถานที่ เพื่อติดตามรถกลับคืนมา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
