ขอขอบคุณภาพประกอบจาก rtl.fr
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เทเลกราฟของอังกฤษ รายงานว่า ทางการฝรั่งเศสสั่งปิดเทือกเขาปิเรนีสในวันที่เชื่อว่าเป็นวันสิ้นโลก หวั่นผู้เชื่อเรื่องวันสิ้นโลกและมนุษย์ต่างดาวจะแห่ปีนขึ้นเขา เพราะเชื่อว่ายอดเขาบูกาคาจบนเทือกเขาแห่งนี้ เป็นสถานที่แห่งเดียวที่รอดจากผลกระทบวันสิ้นโลก และเป็นจุดจอดยานของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งอาจจะมารับคนออกไปนอกโลก ขณะที่นาซายืนยันโลกไม่มีทางวิบัติ และไม่มีวันสิ้นโลกในวันที่ 21 ธันวาคมนี้แน่นอน
โดยการกำหนดปิดยอดเขาแห่งนี้ในช่วงวันที่ 19-21 ธันวาคมนั้น เป็นผลมาจากความเชื่อผิด ๆ ที่เชื่อมโยงกับปฏิทินชาวมายันว่า วันดังกล่าวจะเป็นวันสิ้นโลก และผู้ที่เชื่อในมนุษย์ต่างดาวต่างเชื่อกันว่า ยอดเขาบูกาคาจในเทือกเขาปิเรนิส เมืองออเดอแห่งนี้ เป็นฐานจอดจานบินของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งพวกเขาจะเดินทางมายังโลกเพื่อเฝ้ามองวันสิ้นโลกอย่างเงียบ ๆ ในถ้ำใต้ยอดเขาบูกาคาจ และผู้คนที่เชื่อในมนุษย์ต่างดาวก็หวังว่า เมื่อมนุษย์ต่างดาวเดินทางกลับ ก็จะพาผู้คนที่โชคดีจำนวนหนึ่งกลับไปด้วย
ด้วยเหตุนี้เอง ทางการฝรั่งเศสจึงต้องปิดยอดเขาบูกาคาจ โดยห้ามไม่ให้ผู้คนขึ้นสู่ยอดเขาทุกทาง รวมทั้งทางเครื่องบินเล็กด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความชุลมุนวุ่นวายในวันนั้น เพราะเชื่อว่าคงจะมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่วางแผนจะเดินทางมายังยอดเขาแห่งนี้ และในขณะเดียวกัน สื่อท้องถิ่นยังรายงานว่า มีเจ้าของที่ดินบริเวณเชิงเขา นำความเชื่อเรื่องวันสิ้นโลกมาหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง โดยเปิดให้เช่าบ้านคืนละราว 65,000 บาท และให้เช่าที่สำหรับตั้งแคมป์คืนละ 18,000 บาทด้วย
อย่างไรก็ดี หลังจากทางการออกมาประกาศปิดยอดเขาดังกล่าว ก็ยังคงมีผู้คนบางกลุ่มเชื่อว่า เหตุผลจริง ๆ ของทางการ คือทางการปิดพื้นที่เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องจานบินมนุษย์ต่างดาวที่มีการพบเห็นหลายครั้งก่อนหน้านี้ต่างหาก
ขณะเดียวกัน ทางด้านองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือนาซา ได้ออกมาเปิดเผยว่า วันที่ 21 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ไม่มีทางที่โลกจะวิบัติ หรือเกิดวันสิ้นโลกอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องของพายุสุริยะที่เป็นที่พูดถึงกันบ่อยครั้ง ก็ไม่ได้น่ากลัวและส่งผลกระทบร้ายแรงอย่างที่วิตกกังวลกัน และที่สำคัญ จะไม่มีเหตุการณ์ดาวเคราะห์ใด ๆ พุ่งชนโลก เพราะไม่มีการพบสัญญาณวัตถุอวกาศใด ๆ กำลังพุ่งมาในแนวการโคจรของโลก ดังนั้น ควรเลิกกังวลเรื่องโลกวิบัติเสียที แล้วเอาเวลามาใส่ใจและหาทางแก้ไขปัญหาใหญ่ที่โลกกำลังเผชิญ นั่นคือ ภาวะโลกร้อน จะดีกว่า
ทั้งนี้ สำหรับความเชื่อเรื่องวันสิ้นโลก ซึ่งตีความมาจากการสิ้นสุดปฏิทินมายาของชาวมายันนั้น มีผู้เชี่ยวชาญออกมาเปิดเผยหลายครั้งแล้วว่า เป็นการตีความที่ผิด เพราะไม่ได้หมายถึงวันสิ้นโลกแต่อย่างใด ขณะที่ทางด้านชาวมายันเอง ล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก็มีการออกมาเรียกร้องให้ผู้คนหยุดบิดเบือนเรื่องปฏิทินมายาของบรรพบุรุษพวกเขาเสียที เพราะการสิ้นสุดและเริ่มต้นปฏิทินรอบใหม่นั้น หมายถึงจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับตัวเอง ครอบครัว และสังคม และจะเกิดความสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ไม่ได้มีความหมายอื่นใดนอกเหนือจากนี้