เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์, ไทยพีบีเอส
ราตรี หลั่งน้ำตา เดินทางกลับไทยแล้ว เผยขอบคุณทุกคนที่มาต้อนรับ แต่ไม่ดีใจเพราะยังห่วงวีระ ด้านวีระ เตรียมขอโอนตัวกลับไปรับโทษต่อที่เมืองไทย วอนรัฐบาลช่วยเต็มที่
เมื่อเวลา 16.00 น. ของวานนี้ (1 กุมภาพันธ์) ผู้สื่อข่าวรายงานจากประเทศกัมพูชาว่า ทาง รมช.มหาดไทยกัมพูชา ได้เดินทางมาที่เรือนจำเปรย์ซอว์ กรุงพนมเปญ พร้อมกับอ่านพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษให้กับนักโทษ โดยมีนักโทษที่ได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้จำนวนหลายคน รวมถึง นางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ หลังถูกทางการกัมพูชาจับกุมไปตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2553 ในข้อหาข้ามพรมแดนผิดกฎหมาย รุกล้ำเขตพื้นที่ทหาร ส่วนทางด้านนายวีระ สมความคิด ได้รับการลดโทษ 6 เดือน ซึ่งหลังจากอ่านพระราชกฤษฎีกาฯ เสร็จสิ้นแล้ว นางสาวราตรี พร้อมกับญาติก็ได้เดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงพนมเปญ เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย ในเวลา 20.40 น. โดยมีกำหนดถึงประเทศไทยในเวลา 21.45 น.
ทั้งนี้ นายวีระ สมความคิด ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ตนรู้สึกดีใจกับนางสาวราตรีด้วยในการได้รับอิสรภาพในครั้งนี้ ส่วนของตนนั้นจะใช้สิทธิ์ขอรับการโอนตัว เพื่อไปรับโทษต่อที่ประเทศไทย เนื่องจากตนถูกจำคุกที่กัมพูชามาแล้ว 1 ใน 3 ของจำนวนเวลาที่ต้องโทษ ซึ่งตนก็ต้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ต่อมา เมื่อเวลา 21.45 น. นางสาวราตรีก็ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทย โดยมีเครือญาติ บรรดากลุ่มคนเสื้อเหลือง และประชาชนที่ไปให้กำลังใจอย่างล้นหลาม ซึ่งเมื่อนางสาวราตรีเดินลงจากเครื่องเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร พอเห็นผู้คนมาต้อนรับก็ถึงกับหลั่งน้ำตาในทันที พร้อมเปิดใจเพียงสั้น ๆ ว่า ตอนนี้ตนยังไม่อยากจะพูดอะไรมาก เพราะยังไม่รู้สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ ตนขอกลับไปกราบคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านก่อน ส่วนการปล่อยตัวในครั้งนี้ ตนยังไม่รู้สึกดีใจ เพราะคุณวีระยังถูกคุมขังอยู่ โดยตนได้กำชับให้คุณวีระดูแลสุขภาพให้ดี ส่วนทางด้านคุณวีระก็ได้ก็บอกกับตนว่า ให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
นางสาวราตรี กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ถูกคุมขังนั้น ตนไม่มีปัญหาสุขภาพอะไร มีเพียงแต่น้ำหนักลดลงไปประมาณ 5-6 กิโลกรัมเท่านั้น และสุดท้ายนี้ตนต้องขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจตนมาโดยตลอด พร้อมกับยืนยันว่า ที่ผ่านมาตนไม่ได้ทำผิดอะไร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก