x close

ราตรี แฉ รัฐบาลอภิสิทธิ์ ลอยแพ ปล่อยติดคุกเขมร


ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส

          ราตรี แฉ รัฐบาลอภิสิทธิ์ ลอยแพ ปล่อยติดคุกเขมร ต้องสู้ตามลำพัง ห่วง วีระ ถูกห้ามติดต่อสื่อสารกับใคร เชื่อ ถูกปล่อยตัวเพราะเหตุผลทางการเมือง ร่ำไห้ เพื่อนโทร.มาแจ้งถูกทหารโทร.ขู่ หากฟ้องรัฐบาลอาจได้รับอันตราย

          เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2556 คณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค ได้เชิญ นางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ร.ต.แซมดิน เลิศบุษย์ และนายตายแน่ มุ่งมาจน มาชี้แจงและให้ข้อมูลในการประชุม กมธ. ที่รัฐสภา หลังจากได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวจากเรือนจำกัมพูชา ฐานเข้าเมืองผิดกฎหมาย และจารกรรมข้อมูล

          ทั้งนี้ กมธ. ได้สอบถามถึงชีวิตความเป็นอยู่ในเรือนจำของ นางสาวราตรี ว่ามีการละเมิดสิทธิผู้ต้องขังหรือไม่ เพื่อจะนำข้อมูลเหล่านี้หารือกับประเทศกัมพูชาถึงหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่ง นางสาวราตรี ชี้แจงว่า ความเป็นอยู่ในเรือนจำคงให้สบายเหมือนกับอยู่ที่บ้านคงไม่ได้ แต่ตนผ่านการฝึกใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายมาก่อน จึงปรับตัวได้ แต่สภาพจิตใจไม่ค่อยดี อย่างไรก็ตาม ตนยังห่วง นายวีระ สมความคิด ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้สื่อสารกับใครเลย ไม่อนุญาตให้รับข่าวสาร อ่านหนังสือ เพราะรัฐบาลกัมพูชาเห็นว่านายวีระเป็นนักเคลื่อนไหวตัวจริง และกลัวจะสร้างปัญหา ทั้งยังมีปัญหาเรื่องสุขภาพ

          อย่างไรก็ตาม นางสาวราตรี ได้ยืนยันว่า พื้นที่บ้านหนองจาน กิ่ง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เป็นดินแดนของไทย เนื่องจากมีการออกเอกสารสิทธิในที่ดินทำกินให้กับคนไทย มีโฉนดชัดเจน จึงเป็นไปไม่ได้ที่พื้นที่ดังกล่าวจะเป็นพื้นที่ของกัมพูชา อยากฝากให้ กมธ. ช่วยตรวจสอบข้อมูลว่าพื้นที่พิพาทดังกล่าวตามแนวเส้นแบ่งเขตหลักเขตที่ 46-47 เป็นของไทยหรือกัมพูชากันแน่

          "รัฐบาลที่ผ่านมาไม่ช่วย และปล่อยให้สู้โดยลำพัง ทั้งยังรับรองให้ทางการกัมพูชาในการบอกว่าคนไทยหาเรื่องเข้าไปในพื้นที่เอง" นางสาวราตรี กล่าว

          สำหรับเรื่องการพระราชทานอภัยโทษนั้น นางสาวราตรี มองว่า คงเป็นเหตุผลทางการเมือง แต่ไม่ทราบเรื่องการต่อรอง สาเหตุน่าจะจากการสานสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับรัฐบาลกัมพูชา อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่มีการอภัยโทษ ตนและนายวีระได้เตรียมการเรื่องโอนย้ายกลับประเทศไทยไว้แล้ว ซึ่งทางประเทศไทยก็รับทราบที่จะประสานกับทางการกัมพูชา เพราะถูกคุมขังเป็นเวลา 2 ปีแล้ว สามารถใช้สิทธิโอนย้ายได้ นายวีระก็เช่นกัน ที่สำคัญหากรัฐบาลมีความจริงใจที่จะช่วยเหลือนายวีระ ก็ควรดำเนินการอย่างเร่งรีบ ซึ่งนายวีระมีความต้องการให้มีการโอนย้ายตัวมารับโทษที่ประเทศไทย มากกว่าการพระราชทานอภัยโทษ

          "กรณีดิฉันอาจเป็นอุบัติเหตุที่ติดเข้าไปด้วยแล้วมาปล่อยทีหลัง ทั้งที่รัฐบาลชุดปัจจุบันมีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลกัมพูชา เหตุใดคุณวีระจึงไม่ได้ถูกปล่อยตัวมาพร้อมกัน ถ้ากัมพูชาต้องการปกป้องอาณาเขตตัวเอง ไม่มีนัยแอบแฝง ก็ควรให้สิทธิ์คุณวีระในการโอนย้ายกลับมาที่ประเทศไทย" นางสาวราตรี ระบุ

          นางสาวราตรี ยังให้ข้อมูลอีกว่า ภายหลังจากที่ตนและคณะถูกจับ ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจตระเวนชายแดนเข้ามาช่วยเจรจากับเจ้าหน้าที่ทางกัมพูชา ซึ่งครั้งแรกได้รับการยืนยันปล่อยตัว จากนั้นตนและคณะจึงยื่นความต้องการขอเข้าไปดูหลักเขตที่ 46 ซึ่งเจ้าหน้าที่ไทยไปเจรจาและเดินกลับออกมาระบุว่า หมดหน้าที่ของทหารแล้ว ต่อไปเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ จากนั้นตนและคณะก็ถูกควบคุมตัวไปยังกรุงพนมเปญ ซึ่งตามหลักการหากถูกจับในพื้นที่ใดก็ต้องนำตัวขึ้นศาลนั้น ผิดกับครั้งนี้ ที่ถูกนำตัวไปขึ้นศาลที่กรุงพนมเปญ ดังนั้นตนจึงอยากให้ทาง กมธ.ช่วยเชิญ ตำรวจ ทหาร ที่ช่วยเจรจาในวันดังกล่าวมาชี้แจงด้วย โดยตนจำได้ว่ามีผู้กำกับการ สภ.โคกสูง ยศ พ.ต.อ. ตำรวจตระเวนชายแดนยศ พ.ต.ท. และทหารจากกองกำลังบูรพา 2 นาย

          ขณะที่นายตายแน่ กล่าวว่า ครั้งเมื่อตนถูกคุมขัง นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้หยิบแผนที่หลักเขตที่ 46-47 ซึ่งมีความคลาดเคลื่อนกับแผนที่ที่คณะของตนศึกษา โดยพบว่าแผนที่ของนายศิริโชคระบุว่าตนและคณะได้รุกล้ำเขตกัมพูชา แต่สำหรับแผนที่ของตนนั้นถือว่ายังไม่รุกล้ำ โดยตนได้ยึดเกณฑ์จากการตั้งศูนย์อพยพของยูเอ็นเอชซีอาร์ที่บ้านหนองจาน ซึ่งมีหลักว่าการขุดสระน้ำต้องตั้งอยู่ในประเทศที่ไม่มีสงครามหรือประเทศที่มีความสันติภาพ นั่นหมายความว่าสระน้ำต้องตั้งอยู่ในพื้นที่ของประเทศไทย แต่ในแผนที่ของนายศิริโชคระบุว่าสระน้ำดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ของประเทศกัมพูชา

          อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายของการประชุม นางสาวราตรี ระบุว่า เพื่อนในกลุ่มของตนได้รับโทรศัพท์จากทหารนายหนึ่ง โทรศัพท์มาเตือนว่าหากตนคิดจะฟ้องร้องรัฐบาลเพื่อเรียกค่าเสียหายฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ อาจจะได้ไม่คุ้มเสียและได้รับอันตราย ทำให้ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องขอพิจารณาความจริงให้ชัดเจน เพราะเป็นเรื่องที่กระทบกับหลายฝ่าย ซึ่งหลังจาก พล.ท.นันทเดช พูดจบ นาวสาวราตรี ได้กล่าวโต้ตอบด้วยเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอว่า หรือจะรอให้ตนถูกลอบทำร้ายก่อนหรืออย่างไร หรือต้องรอให้ยิงพลาดก่อนใช่หรือไม่ จึงจะเชื่อว่ามีมูลความจริง ทำให้ พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธาน กมธ. รับปากที่จะดูแลเรื่องดังกล่าวให้


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ราตรี แฉ รัฐบาลอภิสิทธิ์ ลอยแพ ปล่อยติดคุกเขมร โพสต์เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 10:17:06 3,924 อ่าน
TOP