เด็กน้อยถูกจับตัวมาเป็นทาส ตร.จับ 2 ผัวเมีย ทารุณเด็กกะเหรี่ยงแล้ว


ราดน้ำร้อนเด็กกะเหรี่ยง

ราดน้ำร้อนเด็กกะเหรี่ยง

ราดน้ำร้อนเด็กกะเหรี่ยง


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส

            จับ 2 ผัวเมียราดน้ำร้อนเด็กหญิงชาวกะเหรี่ยงแล้ว เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ ด้านตำรวจแจ้ง 6 ข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าหน้าที่เผยร่างกายเด็กหญิงชาวกะเหรี่ยง พบแผลเป็นเต็มตัว หูโดนกรรไกรตัด ถูกน้ำร้อนลวกจนหัวนมหาย จับโขกหัว เอารองเท้าตี หนำซ้ำยังขังในกรงหมา และให้กินข้าวกับหมาด้วย
 
            จากภาพสุดสลดของเด็กหญิงแอร์ (นามสมมติ) ชาวกะเหรี่ยง วัย 12 ปี ถูกสามี-ภรรยา นายจ้าง ทารุณด้วยการราดน้ำร้อนใส่ จนเป็นแผลไปทั้งตัว โดยเฉพาะที่หัวนม ซึ่งถูกน้ำร้อนลวกจนหายไป อีกทั้งยังโดนกรรไกรตัดหูจนแหว่ง แต่ในที่สุดเด็กหญิงแอร์ก็สามารถหนีออกมาจากบ้านหลังดังกล่าวได้ ซึ่งเมื่อชาวบ้านเห็นก็ได้นำตัวส่งให้กับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว พร้อมกับแจ้งความเพื่อให้ติดตามนายจ้างสุดโหดมาลงโทษ

ราดน้ำร้อนเด็กกะเหรี่ยง

            ล่าสุด วานนี้ (11 กุมภาพันธ์) นายธนวัฒน์ สถิตย์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.กำแพงเพชร ได้นำตัวเด็กหญิงแอร์มาให้ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ พร้อมกับเปิดดูบาดแผล พบว่ามีแผลถูกน้ำร้อนลวกตั้งแต่คอไปจนถึงลำตัว รวมทั้งใบหน้า, หลัง, แขน และขา ยาวลงไปถึงเท้าเลยทีเดียว ส่วนบริเวณใต้รักแร้ด้านซ้ายมีพังผืดยึดติดจนถึงเกือบข้อศอก ทำให้ไม่สามารถยกแขนและงอแขนได้ นอกจากนี้ ยังพบว่า หูด้านซ้ายมีรอยแหว่งจากการถูกตัดด้วยของมีคม และหัวนมทั้ง 2 ข้างหายไป เพราะถูกน้ำร้อนลวก

            และเมื่อสอบถามเด็กหญิงแอร์ ทราบว่า ตนถูกนายจ้างทำร้ายด้วยการใช้น้ำร้อนลวก โดยจับยัดใส่ในกรงสุนัข และหลังจากถูกน้ำร้อนลวกก็ถูกปล่อยทิ้งไว้ทั้งคืน ส่วนวันรุ่งขึ้นเขาก็เอาน้ำเกลือมาให้ตนทาแผล ซึ่งปวดแสบเป็นอย่างมาก นอกจากนายจ้างจะขังตนไว้ในกรุงสุนัขแล้ว ยังบังคับให้ตนกินอาหารของมันด้วย ให้กินพร้อม ๆ กับสุนัข แถมยังใช้ด้ามไม้กวาดตี ใช้รองเท้าตบหน้าจนปากแตก

ราดน้ำร้อนเด็กกะเหรี่ยง

            เด็กหญิงแอร์ กล่าวต่อว่า สำหรับแผลที่ศีรษะนั้น ตนถูกจับโขกกับฝาผนัง ก่อนหน้านี้ก็พยายามร้องให้คนช่วยแต่ก็ไม่มีใครช่วยได้ และเคยหนีออกมาแล้ว แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งตัวคืนเข้าไปบ้านหลังนั้นอีก และเมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปี ที่แล้ว ตนถูกนายจ้างหลอกให้ขึ้นรถ ซึ่งพ่อแม่ของตนก็ไม่รู้ว่าตนเองอยู่ไหน และตนก็ถูกขังอย่างทรมานในบ้านหลังดังกล่าวมาตลอด 5 ปี

            ขณะที่ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว กล่าวเสริมว่า ตอนนี้เด็กอยู่ในการดูแลของบ้านพักดังกล่าว และคดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา ซึ่งตนก็กลัวเหมือนกัน เนื่องจากมีข่าวว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้มีอิทธิพล จึงต้องทำหนังสือถึงตำรวจขอให้มาช่วยตรวจตราในเวลากลางคืน ส่วนสภาพจิตใจของเด็กหญิงแอร์ ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว และหลังจากจบคดีจะนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาบาดแผลต่อไป
 
            อย่างไรก็ตาม จากคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับกุม 2 สามีภรรยาแล้ว โดยไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด ทราบเพียงว่า ฝ่ายชายเป็นผู้ที่มีความรู้ทางวิศวกร ทำงานอยู่ที่โรงงานใหญ่แห่งหนึ่ง ส่วนฝ่ายหญิงทำงานเกี่ยวกับร้านเสริมความงามให้กับสุนัข ซึ่งตำรวจได้แจ้ง 6 ข้อหาหนัก ดังนี้

            ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส โดยทรมานหรือกระทำทารุณ โหดร้าย

            ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังได้รับอันตรายสาหัส

            ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นและให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น

            ร่วมกันเอาคนลงเป็นทาสหรือมีฐานะคล้ายทาส

            ร่วมกันพามาจากที่ใดหรือหน่วงเหนี่ยวกักขังบุคคลหนึ่งบุคคลใด ถ้ากระทำนั้นเป็นการกระทำต่อเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายสาหัส

            ร่วมกันพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีและร่วมกันค้ามนุษย์

            แต่ผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธ และขอให้การในชั้นศาลพร้อมนำหลักทรัพย์เข้ายืนประกันตัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ก่อนที่ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 เป็นการชั่วคราว

            อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เผยถึงเหตุผลที่ไม่สามารถนำตัวสองสามีภรรยาคุมขังชั่วคราวได้นั้น เนื่องจากมีกฎหมายของ พ.ร.บ.การค้ามนุษย์ มาตรา 56 ผู้ใดกระทำการหรือจัดให้มีการกระทำการดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ได้แก่ ..

            1. บันทึกภาพ แพร่ภาพ พิมพ์รูป หรือบันทึกเสียง แพร่เสียงหรือสิ่งอื่นที่สามารถแสดงว่า บุคคลใดเป็นผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ทั้งนี้ ไม่ว่าขั้นตอนใด ๆ

            2. โฆษณาหรือเผยแพร่ข้อความ ซึ่งปรากฏในทางสอบสวนของพนักงานสอบสวนหรือ ในทางพิจารณาคดีของศาลที่ทำให้บุคคลอื่นรู้จักชื่อตัว ชื่อสกุลของผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์หรือบุคคลในครอบครัว ผู้เสียหายนั้น ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยสื่อสารสนเทศประเภทใด

            3. โฆษณาหรือเผยแพร่ข้อความ ภาพหรือเสียง ไม่ว่าโดยสื่อสารสนเทศประเภทใดเปิดเผยประวัติ สถานที่อยู่ สถานที่ทำงาน หรือสถานศึกษาของบุคคลซึ่งเป็นผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์
 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก






เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เด็กน้อยถูกจับตัวมาเป็นทาส ตร.จับ 2 ผัวเมีย ทารุณเด็กกะเหรี่ยงแล้ว โพสต์เมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 09:31:30 11,591 อ่าน
TOP
x close