x close

ก้าวผ่าน บทเรียน อย่างเข้มแข็ง ในรายการ จัง-หวะ-จะ-เดิน




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  คุณ geekhousechannel สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
 
          ทุก ๆ การใช้ชีวิต ย่อมต้องมีอุปสรรคมาคอยกีดขวาง เพียงแต่อุปสรรคของแต่ละคนอาจจะยิ่งใหญ่ไม่เท่ากัน บางคนมองเห็นว่า ควันโขมงจากรถเข็นขายไส้กรอกอีสานคืออุปสรรคที่ทำให้เสื้อผ้าต้องมีกลิ่น แต่หากมองในมุมของคนขายไส้กรอกอีสานแล้ว ควันโขมงเหล่านั้นคือส่วนหนึ่งในเม็ดเงินที่จะมาต่อชีวิตของพวกเขาให้อยู่รอดไปวัน ๆ เลยทีเดียว ดังนั้น รายการ จัง-หวะ-จะ-เดิน (24 กุมภาพันธ์) จึงขอพาเราไปรู้จักกับมุมมองใหม่ ๆ ของอุปสรรค พร้อมทั้งเรียนรู้ที่จะหยิบนำเอาอุปสรรคเหล่านั้นมาเป็น "บทเรียน" กันค่ะ..




         
          ปิ๋ม พนิดา อัมไพชา คือแม่ค้าขายไส้กรอกอีสานใน จ.ขอนแก่น ที่หอบลูกชายตัวเล็กมาช่วยขายของเป็นประจำ แค่เพียงเอ่ยปากถามถึงความเป็นมาเป็นไป ปิ๋มก็จุกในใจจนกลั่นกรองคำพูดออกมาแทบไม่ไหว เธอบอกว่าเธอเคยทำงานมาทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน รักษาความปลอดภัย หรือแม่ค้า เรียกง่าย ๆ ว่างานอะไรที่หาเงินได้ ปิ๋มยอมทำทั้งนั้น เพื่อส่งเสียให้ลูกชายคนเดียวของเธอได้เติบโตขึ้นอย่างมีอนาคต

          แน่นอนว่าการใช้ชีวิตแบบหาเช้ากินค่ำย่อมต้องทำให้เธอท้อ แต่หากถามว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้เธอเลือกที่จะยืนหยัดต่อสู้กับความเหนื่อย ความท้อแท้ ปิ๋มได้แต่ชี้ไปที่ลูกชายเบา ๆ พร้อมกับน้ำตาที่ปริ่มตา โดยไม่มีคำบรรยายใด ๆ หลุดออกมาจากปากของเธอ
         
          ปิ๋ม พยายามกลั้นน้ำตา และเล่าให้ฟังว่า พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตหมดแล้ว และที่ผ่านมาเธอเคยต้องตกงาน ไม่มีเงิน และโดนขโมยของ แต่แม้จะเจอกับอุปสรรคใด ๆ ปิ๋มก็พร้อมยิ้มสู้เพื่อเด็กชายตัวน้อย ๆ ผู้เป็นเหมือนแก้วตาดวงใจของเธอคนนี้ เพราะเธออยากส่งเสียลูกชายให้โตขึ้นได้เป็นหมอสมดังที่เขาเคยใฝ่ฝันเอาไว้ "หนูไม่ขออะไรมาก ก็อยากให้เขาตั้งใจเรียน เป็นคนดี และได้เป็นหมอสมกับที่ฝันไว้" คือคำพูดจากปากของปิ๋มที่อยากฝากไว้ให้ลูกชายได้ฟังในวันที่เขาโตขึ้น
         




          วัลลภ พุ่มยิ้ม หรือ กบ จาก จ.เชียงใหม่ เป็นคนหนึ่งที่ไม่สามารถมองเห็นอุปสรรคได้เหมือนใคร เขาเพียงแค่ใช้ดวงตาที่มืดมิดและจิตใจของเขา รับรู้ถึงอุปสรรคเหล่านั้นท่ามกลางความรู้สึกที่เจ็บปวดมากกว่าคนปกติหลายเท่า เพราะเขาพิการทางสายตาตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก บ่อยครั้งที่เขาเครียด และน้อยใจในโชคชะตา จนไม่อยากอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป "ตัวผมเองน้อยใจตัวเองมากกว่า ทำให้เรามีความเหงาเพิ่มขึ้น จนหมดกำลังใจไม่รู้จะไปทำอะไร จึงเบื่อตัวเอง เบื่อชีวิตตัวเอง และอยากจะฆ่าตัวตาย" กบ เล่าถึงความรู้สึกในอดีต แต่เขาก็ผ่านมันมาได้ในที่สุด
         





          คุณลุง สวัสดิ์ ยืนยง คือคนขับรถสามล้อเครื่องรับจ้าง จ.กำแพงเพชร ที่ต้องสูญเสียแขนข้างซ้ายไปจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่ซึ่งเขาต้องใช้ทำมาหากินอยู่ทุกวัน และในปีเดียวกันนั้นเอง ภรรยา ลูกสาว ลูกชาย และหลานของคุณลุงสวัสดิ์ ก็ต้องมาเสียชีวิตภายในปีเดียวกัน คุณลุงร้องไห้จนใช้ชีวิตต่อแทบไม่ไหว อยากจะตายตามไปซะเดี๋ยวนั้น แต่ทว่าคุณลุงยังมีภาระเป็นหลานตัวเล็ก ๆ อีก 2 คนที่กำลังเข้าเรียน นั่นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้คุณลุงเดินหน้าสู้กับชีวิตต่อไป "ไม่อ่อนแอแล้ว อ่อนแอไม่ได้ อ่อนแอหลานก็อด" คือความคิดของคุณลุงสวัสดิ์ที่บอกกับตัวเองอยู่ทุกวัน

          โชคดีมีโครงการทำแขนเทียมมาช่วยให้คุณลุงใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น แม้จะไม่ง่ายซะทั้งหมด แต่คุณลุงก็ยังคงเดินหน้าสู้ต่อไป เพื่อเป็นเสาหลักให้กับหลานตัวน้อย ๆ ที่เคยบอกกับคุณลุงอย่างไร้เดียงสาว่า "ถ้าปู่ตาย หนูจะตายตามปู่"





          ชม คุ้มจันอัด หรือ ฟู คือพนักงานโรงภาพยนตร์ จ.นครราชสีมา ที่ถูกภรรยาทิ้งไปอย่างไร้เยื่อใย เขามีเพียงลูก 3 คน ที่นอนรออยู่ในห้อง เขาเล่าอย่างอดกลั้นแต่น้ำตาลูกผู้ชายก็ยังคงรื้นออกมาให้เห็น ว่าเขาคงจะจนเกินไป เพราะเขาต้องทำงานเลี้ยงลูกถึง 3 คน โชคดีที่เขาไม่ใช่คนดื่มเหล้าจึงใช้ชีวิตเป็นทั้งพ่อและแม่ของลูก ๆ ในทุก ๆ วัน





          จอห์นนี่ รัตนะ มากรุ่ง คือนักดนตรีตาบอดจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยเขาเริ่มเล่นคีย์บอร์ดตั้งแต่เด็ก ๆ โดยมีคุณพ่อเป็นคนสอน แลกกับการได้กินไอศกรีม จนกระทั่งเขาซึมซับและหลงรักมันในที่สุด วันหนึ่งเขาได้รับโทรศัพท์จากทางบ้านขณะที่กำลังเตรียมตัวขึ้นเล่นดนตรีกับเพื่อน ๆ ว่าคุณพ่อของเขาเสียชีวิตลงแล้ว จอห์นนี่ ผู้มีพลังความเป็นศิลปินอยู่ในตัว ตัดสินใจทำการแสดงต่อให้เสร็จ ซึ่ง 2 ชั่วโมงของการแสดงในวันนั้น เป็น 2 ชั่วโมงที่ยาวนาน จนเขาสามารถพรั่งพรูน้ำตาออกมาได้ทันที หลังการแสดงจบลง แต่เขาก็ยังนำเอาคำสอนของพ่อมาใช้ เพื่อดำเนินชีวิตต่อไปในเส้นทางสายดนตรีที่ทั้งเขาและคุณพ่อต่างหลงรัก





          ไพลินธร พันธุสุข หรือ ต่าย คือครูสอนร้องเพลงที่ต้องเจอกับเหตุการณ์ระทึกขวัญ เมื่อคุณพ่อของเธอต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้า จนคิดสั้นหยิบปืนมาจ่อศีรษะเตรียมลั่นไก ต่ายที่บังเอิญเข้ามาเห็นมาพอดี จึงตัดสินใจเข้าไปห้ามพ่อทั้งน้ำตา เธอร้องไห้ไปห้ามไป โดยไม่รู้เลยว่าคุณพ่อของเธอฟังคำเหล่านั้นได้ชัดเจนหรือไม่ แต่โชคดีที่สุดท้ายคุณพ่อของเธอก็ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้ เว้นก็แต่ตัวต่ายเอง ที่ต้องป่วยเป็นวัณโรคจนต้องตัดปอดทิ้ง นั่นทำให้เธอเข้าใจได้เลยว่า ความทุกข์ที่ทรมานมากที่สุด ก็คือความเจ็บปวดนั่นเอง

          และนี่คือเรื่องราวของผู้ที่เคยเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ ในแง่มุมที่หลากหลาย แต่พวกเขาเลือกที่จะนำมันมาเป็นแรงขับเคลื่อนให้หัวใจและร่างกายได้เดินผ่านมันไปอย่างอดทน จนมาเป็นบทเรียนที่สร้างแรงบันดาลใจให้เราได้ในวันนี้


 
EPISODE08 : บทเรียน [จัง-หวะ-จะ-เดิน]  โพสต์โดย geekhousechannel



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ก้าวผ่าน บทเรียน อย่างเข้มแข็ง ในรายการ จัง-หวะ-จะ-เดิน โพสต์เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 21:50:10 2,470 อ่าน
TOP