เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ไฟแนนซ์ตามยึดรถเบนซ์หรูขาดส่งค่างวดกว่า 5 ปี คาถนนพุทธมณฑลสาย 4 ขณะที่ นายเวียง วรเชษฐ์ ส.ส.เพื่อไทย กำลังขับขี่อยู่ ด้าน ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว ยัน ส.ส. คนดังกล่าวไม่ใช่เจ้าของรถที่แท้จริง ดังนั้นจึงปล่อยตัวไปแล้ว
เมื่อวานนี้ (4 มีนาคม) ตัวแทนจากบริษัท ราชธานี ลิชซิ่ง จำกัด (มหาชน) ได้ทำการติดตามรถยนต์เช่าซื้อที่ขาดส่งขาดค่างวด ยี่ห้อ เมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น S350L หมายเลขทะเบียน สฬ 3882 กรุงเทพมหานคร หลังบริษัทได้ทำสัญญาให้เช่าซื้อรถยนต์คันดังกล่าวกับ นายทองอยู่ คมขำ อายุประมาณ 45 ปี ตั้งแต่ปี 2551 โดยตกลงผ่อนชำระงวดละ 198,396 บาท เป็นเวลา 36 งวด ซึ่งหลังนายทองอยู่รับรถไปก็ผ่อนชำระเข้ามาเพียง 7 งวด แล้วก็ขาดส่ง ทางบริษัทฯ ได้พยายามติดตามทวงถามจากนายทองอยู่ แต่ก็ไม่เป็นผลและไม่สามารถติดตามรถยนต์คันดังกล่าวกลับคืนมาได้ ทางบริษัทฯ จึงได้ยื่นฟ้องแพ่ง ซึ่งต่อมาอยู่ในขั้นตอนประนีประนอม
หลังจากนั้น นายทองอยู่ อ้างว่าจะผ่อนชำระเงินคืนให้เป็นรายงวด แต่ก็ไม่ทำตามที่ตกลงไว้ ดังนั้นทางบริษัทจึงออกติดตามรถยนต์คันดังกล่าวมาเป็นเวลาหลายปี จนทราบว่ามีผู้กว้างขวางรายหนึ่งครอบครองรถยนต์คันดังกล่าวอยู่ จนกระทั่งพบ นายเวียง วรเชษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กำลังขับขี่รถคันดังกล่าวอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 4 แต่เมื่อเข้าแสดงตัวพร้อมเอกสารหลักฐานการเป็นเจ้าของรถยนต์ นายเวียง กลับอ้างตนว่าเป็น ส.ส. ไม่มีสิทธิ์มายึดรถยนต์ที่ตนเองครอบครองอยู่ เนื่องจากได้รับจำนำมาอีกทอดหนึ่ง จนไม่สามารถตกลงกันได้ ทางบริษัทจึงต้องแจ้งตำรวจให้มานำรถยนต์คันดังกล่าวไปควบคุมไว้ที่ สภ.โพธิ์แก้ว
ทั้งนี้ ตัวแทนบริษัทไฟแนนซ์ ยังกล่าวอีกว่า รถยนต์คันดังกล่าวได้แจ้งหยุดใช้รถที่กรมขนส่งทางบกตั้งแต่ปี 2552 ดังนั้นรถยนต์คันนี้จึงไม่ได้ชำระภาษีประจำปีแต่อย่างใด ซึ่งเชื่อว่าสาเหตุที่ไม่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกจับ เนื่องจากบารมีของผู้ขับขี่ที่เป็นถึง ส.ส. พร้อมระบุด้วยว่า ยังมีรถยนต์อีกเป็นจำนวนมากที่ถูกจำนำไว้กับผู้มีบารมี เพื่อไว้ขับขี่อย่างโก้หรูบนท้องถนนโดยไม่ได้ชำระภาษีแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกันนั้น พ.ต.อ.ชัชชาย คล้ายคลึง ผู้กำกับการ สภ.โพธิ์แก้ว ได้เปิดเผยถึงการสอบสวนว่า นายเวียง ไม่ได้เป็นเจ้าของรถดังกล่าว โดยชื่อรถเป็นของคนอื่น เพียงแต่ นายเวียง นั่งรถคันดังกล่าวขณะเกิดเหตุเท่านั้น ดังนั้นจึงได้ปล่อยตัวนายเวียงกลับไปแล้ว โดยมีเพียงเจ้าหน้าที่บริษัทไฟแนนซ์ที่ยังอยู่เจรจากับตัวแทน ซึ่งทางตำรวจได้พยายามตามติดตัวเจ้าของรถอยู่ ในเบื้องต้น จึงนำรถคันดังกล่าวมาไว้ สภ.โพธิ์แก้ว เพื่อให้เจ้าของรถมาเจรจาเรื่องการผ่อนชำระค่างวด ตำรวจไม่มีอำนาจยึดรถ เป็นเพียงคนกลางที่ตามทั้ง 2 ฝ่ายมาตกลงกัน เนื่องจากเป็นคดีแพ่ง
