x close

ลุงไสว ศรียา เกษตรกรเกินนักคิด ผู้เปลี่ยนชีวิตให้กลายเป็นเพชร


ลุงไสว ศรียา


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการทูไนท์โชว์ โพสต์โดย คุณ CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

            จากภารโรงธรรมดา ๆ คนหนึ่ง วันดีคืนดี สองมือของเขากลับสามารถเสก "ดิน" ให้กลายเป็น "เงิน" เสก "ต้นไม้" ให้กลายเป็น "ทอง" ส่วนตัวเขาเองก็กลายมาเป็นเกษตรกรผู้รอบรู้ จากไอเดียมากมายที่ผุดขึ้นในหัว ลองไปติดตามเรื่องราวชีวิตนักสู้ของ "ลุงไสว ศรียา" ผู้ที่ทำให้ชีวิตตัวเองกลายมาเป็น "เพชร" จากรายการ ทูไนท์โชว์ เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมากัน

            ...ลุงไสว ศรียา พูดจาฉะฉานอย่างอารมณ์ดีว่า แม้ตัวเองจะอายุ 71 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีไฟอยู่ ก่อนจะเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนเคยเป็นภารโรงที่มีนักเรียนรักมากมาย เพราะเขาเป็นคนใจดี แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจลาออก เพราะคิดว่าเงินเดือนภารโรงที่ได้คงไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงลูกทั้ง 4 คน ซึ่งวันที่ลาออกนั้น บรรดานักเรียนที่คุ้นเคยกับคุณลุงหลายคนถึงกับร้องไห้ไม่อยากให้คุณลุงจากโรงเรียนไปเลยทีเดียว

            หลังจากลาออก คุณลุงไสวก็มานั่งคิดอยู่ที่บ้านในจังหวัดนครนายกว่าจะทำอะไรดี เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว แล้ววันหนึ่ง คุณลุงก็ได้เจอกับ คุณถาวร ชูผล เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเกษตรจังหวัดนครนายก เข้ามาแนะนำให้คุณลุงทำสวน ซึ่งตอนนั้นคุณลุงก็ลังเลว่าจะไปทำสวนได้อย่างไร ความรู้อะไรเลยก็ไม่มี แต่คุณถาวรก็บอกว่าจะสอนให้ คุณลุงจึงตัดสินใจลองทำดู เพราะที่บ้านก็พอมีที่ดินอยู่

ลุงไสว ศรียา

            หลังจากนั้น คุณถาวรก็นำพันธุ์มะม่วง 100 ต้น มาให้คุณลุงปลูกในพื้นที่ 1 งาน (100 ตารางวา) ซึ่งคุณลุงก็นึกสงสัยในใจว่า ที่ดินแค่นี้จะปลูกต้นไม้อะไรได้ถึง 100 ต้นเชียวหรือ แต่ก็คิดต่อไปว่า คุณถาวรเป็นเจ้าหน้าที่เกษตรก็ต้องมีความรู้ คุณลุงจึงลองทำตามแนะนำดูโดยขุดหลุม กว้าง 1 เมตร ยาว 1 เมตร ลึก 1 เมตร จำนวน 100 หลุม ตามที่คุณถาวรแนะนำ แต่กว่าจะสำเร็จก็ทำเอาคุณลุงบ่นเป็นหมีกินผึ้งเหมือนกัน เพราะกว่าจะขุดได้ 1 หลุม คุณลุงไสวต้องใช้เวลาเกือบ ๆ ครึ่งวัน และต้องเอาดินกองไว้รอบหลุม ๆ ด้วย จนเมื่อขุดจนครบ 100 หลุม ชาวบ้านก็แห่กันมาดูแล้วก็แซวแบบเหน็บแนมว่า "ไอ้พวกบ้าเกษตร จะปลูกต้นไม้ หรือจะทำนากันแน่" เล่นเอาคุณลุงหัวเราะร่วน

            จากนั้น คุณลุงก็ปลูกต้นไม้ตามคำแนะนำหลาย ๆ อย่างของคุณถาวร อย่างเช่นเรื่องวิธีการใส่ดินในหลุม หรือการปลูกต้นไม้หันไปทางทิศใต้ ที่จะทำให้ต้นไม้โตเร็วขึ้น และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เพราะผ่านไปเพียงเดือนเดียว ต้นมะม่วงของคุณลุงก็แตกใบอ่อนแล้ว ทำเอาชาวบ้านฮือฮาอีกรอบ แต่คราวนี้พากันมาสอบถามวิธีการปลูกจากคุณลุงไสวกันเพียบ

            เมื่อต้นมะม่วงโตเรียงรายกันเป็นแถวเป็นแนวแล้ว คุณถาวรก็ให้ต้นตอของมะม่วงแก้วมาทาบกิ่งขยายพันธุ์ต่อ ซึ่งแรก ๆ คุณลุงก็ทำไม่เป็นจนเกือบจะท้อ โยนต้นตอมะม่วงทิ้งไปก็หลายต้น แถมเมื่อทาบกิ่งเสร็จแล้วก็ไม่มีมะม่วงติดกิ่งสักต้นเดียว แต่คุณถาวรก็ให้กำลังใจคุณลุงเรื่อย ๆ และยังนำต้นตอมะม่วงมาให้ทำต่ออีก คราวนี้คุณลุงทำได้คล่องเลยทีเดียว และมะม่วงก็ติดมา 2 กิ่ง รอบนี้คุณลุงดีใจสุด ๆ

ลุงไสว ศรียา

            มาถึงตรงนี้หลายคนคงคิดว่า เอ...ทำไมคุณลุงต้องขยายกิ่งพันธุ์ด้วยล่ะ แค่ขายผลมะม่วง 100 ต้น ก็น่าจะได้เงินไม่น้อยแล้วนี่...แต่คุณลุงไม่คิดเช่นนั้น เพราะมองเห็นว่า ผลมะม่วงขายได้กำไรน้อย สู้ขายกิ่งพันธุ์ไม่ได้ ได้กำไรมากกว่าเยอะ อย่างไรก็ตาม ถึงจะคิดได้แบบนี้ แต่คุณลุงก็ไม่ได้หยุดแค่การขายกิ่งพันธุ์ เขายังหาความรู้เพิ่มเติมด้วยการตระเวนไปอบรมสัมมนาในเรื่องเกี่ยวกับการเกษตรทั้งหลาย และได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันระหว่างเกษตรกรคนอื่น ๆ ทำให้คุณลุงได้ความรู้มากมาย รวมทั้งจากคำบอกเล่าปากต่อปากในเกษตรกรพื้นที่ต่าง ๆ ก็ทำให้คุณลุงสามารถขายกิ่งพันธุ์มะม่วงพันธุ์ดีได้อีกด้วย

            เมื่อคุณลุงไสวเห็นว่ากำลังมาถูกทางแล้ว เขาก็ตัดสินใจขยายพื้นที่เพาะปลูกขึ้น จากเดิม 1 งาน เป็น 30 ไร่จนถึงทุกวันนี้ แต่คุณลุงก็ยังไม่หยุดคิดอยู่แค่นั้น เพราะเขามองเห็นลู่ทางทำเงินอีก จึงตัดสินใจจะหาต้นไม้ชนิดอื่น ๆ มาทาบ "ต้นมะสัง" ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ที่นิยมใช้ตกแต่งบ้าน เพื่อจะได้มีต้นไม้หลาย ๆ ชนิดในต้นเดียวกัน จะได้ไม่ต้องวุ่นหาพื้นที่ปลูกใหม่ แถมต้นเดียวก็กินผลไม้ได้ตั้งหลายชนิดซะด้วย

            นั่นจึงเป็นที่มาของ "ต้นมะสัง" แบบพิเศษของคุณลุงไสวที่นำมาโชว์ในรายการ มีทั้งต้นส้มโอ ต้นมะกรูด ต้นส้มเช้ง อยู่ในต้นมะสังเพียงต้นเดียว แต่คุณลุงก็ยังขอโม้ว่า "นี่ยังน้อยนะ อยู่ที่บ้านลุง ต้นเดียวออกมาตั้ง 15 อย่างแหนะ ไปดูได้เลย มันยกมาไม่ไหว" คุณลุงเล่าไปก็หัวเราะไปอย่างมีความสุข

            แค่ต้นไม้หลายชนิดในต้นเดียวอาจจะยังดูธรรมดาไป คุณลุงก็เลยเอาลูกฝรั่งที่ปลูกในขวดมาโชว์ด้วย ซึ่งไอเดียนี้เกิดจากความคิดที่ว่า หากเอาฝรั่งไปขายเฉย ๆ ขายแค่กิโลกรัมละ 10 บาท คนยังไม่มองเลย เพราะฝรั่งใคร ๆ ก็ปลูกกัน ลูกก็ดก ก็เลยมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีคนมอง คุณลุงจึงนำฝรั่งมาปลูกในขวดซะเลย รวมทั้งมะม่วงด้วย เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มไปในตัว แค่นี้ก็ขายได้ขวดละหนึ่งร้อยบาทแล้ว แถมยังเป็นที่ถูกอกถูกใจของนักท่องเที่ยวอีกต่างหาก

ลุงไสว ศรียา

            ไม่เพียงแค่นั้น ลุงไสวยังปลูกบวบได้ขนาดยาวเฟื้อย เพราะคิดว่า บวบจะยาวตามแรงโน้มถ่วงของโลก ก็เลยเอาหินไปถ่วงปลายผลบวบเอาไว้ตั้งแต่ผลยังเล็ก ๆ สุดท้ายบวบก็ยาวเอายาวเอาจนคนอึ้งไปตาม ๆ กัน ความรู้นี้คุณลุงได้มาจากการไปดูงานนั่นเอง นอกจากนี้ คุณลุงยังทราบมาว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริเรื่อง "แกล้งดิน" ที่แก้ปัญหาดินเปรี้ยว คุณลุงจึงลองปรับมาให้ "แกล้งพริก" ดูบ้าง ด้วยการปลูกพริกในกระถาง และแขวนห้อยหัวไว้แบบไม่เหมือนชาวบ้าน คุณลุงบอกว่าทำแบบนี้แล้วพริกจะเวียนหัว สุดท้ายก็ออกลูกเต็มไปหมดจริง ๆ

            สิ่งที่คุณลุงเล่ามาทั้งหมดเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าใครได้ไปเยี่ยมเยียน "สวนศรียา" จังหวัดนครนายก ของคุณลุง คงจะได้เห็นพืชผลทางเกษตรที่แปลก ๆ อีกหลายสิบอย่าง สร้างสรรค์จากไอเดียที่ไม่หยุดคิดของคุณลุง อย่างเช่น ขนุน 6 เหลี่ยม, ปลูกมะละกอต้นเตี้ยติดดิน ฯลฯ ด้วยไอเดียแสนบรรเจิด และใจรักในงานเกษตรกร ทำให้ทุกวันนี้คุณลุงได้รับเชิญให้ไปเป็นวิทยากรบรรยายเรื่องการเกษตรให้คนฟังมากมาย และทุกครั้ง คุณลุงไสว ก็ไม่ลืมที่จะย้ำว่า

            "คนเราต้องใฝ่หาความรู้ไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไร และต้องขยัน อย่าขี้เกียจ จะทำให้ประสบความสำเร็จ อย่างที่ลุงทำอยู่ทุกวันนี้" และนี่ก็คือความคิดของคุณลุงไสว ยอดเกษตรกรที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขัน และมีความสุขในทุก ๆ วันที่ได้คิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ



คลิป ทอล์คโชว์ ลุงไสว ศรียา เกษตรเกินนักคิด 1/4 : เครดิต รายการทูไนท์โชว์ โพสต์โดย คุณ CiNNtv3



คลิป ทอล์คโชว์ ลุงไสว ศรียา เกษตรเกินนักคิด 2/4 : เครดิต รายการทูไนท์โชว์ โพสต์โดย คุณ CiNNtv3



คลิป ทอล์คโชว์ ลุงไสว ศรียา เกษตรเกินนักคิด 3/4 : เครดิต รายการทูไนท์โชว์ โพสต์โดย คุณ CiNNtv3



คลิป ทอล์คโชว์ ลุงไสว ศรียา เกษตรเกินนักคิด 4/4 : เครดิต รายการทูไนท์โชว์ โพสต์โดย คุณ CiNNtv3




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลุงไสว ศรียา เกษตรกรเกินนักคิด ผู้เปลี่ยนชีวิตให้กลายเป็นเพชร โพสต์เมื่อ 20 มีนาคม 2556 เวลา 16:13:25 58,629 อ่าน
TOP