x close

ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล เปิดมุมมอง การยื่นภาษี 2556


ภาษีงานบรรยายและเขียนหนังสือ ในมุมมอง ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Somkiat Onwimon

            เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2556 ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล ผู้ประกาศข่าวและคอลัมนิสต์ชื่อดัง ได้โพสต์บทความความผ่าน เฟซบุ๊ก Somkiat Onwimon โดยกล่าวถึงแนวทางสำหรับผู้ที่มีรายได้จากงานบรรยายและเขียนหนังสือ ซึ่งกำลังต้องการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90/91 ปีภาษี 2555 ที่มีกำหนดระยะเวลาภายใน 1 มกราคม - 9 เมษายน 2556 โดยระบุข้อความว่า ขณะนี้กรมสรรพากรพัฒนางานภาษีอากรให้ทันสมัยมากขึ้น โดยสามารถทำผ่านระบบ Internet ได้ด้วย เพียงแต่ว่าเวลานี้ยังไม่สามารถรองรับระบบปฏิบัติการของ Mac ได้

            นอกจากนี้ กรมสรรพากรได้ชี้แจงว่า ระบบยื่นแบบฯ ผ่านอินเทอร์เน็ตใช้ได้เฉพาะ Internet Explorer 5.5 - 8.0 ซึ่งการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2555 ผ่านอินเทอร์เน็ต ขณะนี้เปิดให้บริการเฉพาะกรณีสามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้ สามีและภริยาต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่ยื่นรายการ และเสียภาษีเงินได้ ในนามของตนเองเท่านั้น ส่วนกรณีผู้มีเงินได้และคู่สมรส ประสงค์จะยื่นแบบแสดงรายการและเสียภาษีรวมกันยังอยู่ระหว่างการพัฒนาโปรแกรมให้แล้วเสร็จ 

            จากนั้น ดร.สมเกียรติ ได้เล่าว่า ที่ผ่านมา ได้ใช้บริการของบริษัททำบัญชีมาจนถึงปัจจุบันเพื่อป้องกันความผิดพลาด โดยในปีนี้ผู้รับทำบัญชีจ่ายภาษีเงินได้ตาม ภ.ง.ด.90 ถามเรื่องเงินได้ตลอดปีที่มิใช่เงินเดือน เช่น เงินได้จากงานบรรยาย เงินได้จากการเขียนหนังสือหรือบทความ ซึ่งแต่ละงานมักจะมีรายได้ตั้งแต่ 1,000 บาท ถึง 10,000 บาท โดยการเขียนบทความมักจะได้ 1,000 - 2,000 บาท ต่อเรื่อง ขณะที่งานบรรยายหรืออภิปรายก็มีทั้งที่ฟรีและได้เงิน เพราะต้องการให้ความรู้แก่สาธารณะเป็นหลัก หรือถ้าได้เงินค่าบรรยายก็แล้วแต่หน่วยงานนั้น ๆ จะตั้งมา โดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ถึง 5,000 บาท

            ทั้งนี้ ทางบริษัทบัญชีแจ้งว่าในระดับรายได้ของตนในปัจจุบัน กรมสรรพากรจะหักภาษีเงินได้ 50% จากค่าบรรยาย และหัก 60% จากรายได้ค่าเขียนหนังสือหรือบทความ ซึ่งงานบรรยายและอภิปรายในที่สาธารณะส่วนใหญ่จะได้ค่าตอบแทนประมาณ 3,000 บาท แต่ขึ้นอยู่กับผู้เชิญจะกำหนดเองตามระเบียบของหน่วยงาน แต่เมื่อดูจากอัตราภาษีแล้วสะท้อนว่า รัฐเก็บภาษีในอัตราที่สูงมาก สำหรับงานที่ผลิตจากความรู้ความคิดและภูมิปัญญา ซึ่งงานประเภทนี้โดยปรกติต้องลงทุนด้วยการสร้างองค์ความรู้และประสบการณ์งานในชีวิต ต้องซื้อหนังสือ อ่านหนังสือ เดินทาง หาความรู้และประสบการณ์

            ดร.สมเกียรติ กล่าวอีกว่า สำหรับตน หากดูจากค่าใช้จ่ายในการซื้อหนังสือแต่ละปี รวมกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางหาความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ถ้าคิดบัญชีคงจะมากกว่ารายได้จากงานบรรยายและเขียนหนังสือหลายเท่า และหากไม่มีงานประจำอื่นที่มีรายได้มากพอก็คงจะไม่สามารถให้บริการสังคมอย่างมีคุณภาพได้ ดังนั้นงานวิชาการ และงานวรรณกรรม จึงเป็นงานที่ต้องถือเป็นบริการสังคมมากกว่าจะเป็นงานเลี้ยงชีวิตและครอบครัว ทำให้นักวิชาการ นักคิด และนักเขียน ในสังคมไทย จึงต้องมีงานประจำอื่นที่มีรายได้มั่นคงและมากเพียงพอเพื่อการเลี้ยงชีวิตตนและครอบครัว

            อย่างไรก็ตาม ในบทความที่ ดร.สมเกียรติ ได้โพสต์ไว้ ไม่ได้มีการกล่าวถึงประเด็นการยื่นเสียภาษีรายได้ที่มาจากงานบรรยายและงานเขียนโดยละเอียดนัก เนื่องจากได้ให้บริษัทบัญชีเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้มาตลอด แต่สำหรับผู้ที่มีรายได้จากงานบรรยายหรืองานเขียน หากต้องการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วยตนเอง แต่ไม่สะดวกไปติดต่อที่กรรมสรรพากรโดยตรง ดร.สมเกียรติ ก็ได้แนะนำเว็บไซต์ของกรรมสรรพากรทิ้งท้ายไว้ โดยสามารถยื่นเรื่องผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ www.rd.go.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนเบอร์ 1161





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล เปิดมุมมอง การยื่นภาษี 2556 โพสต์เมื่อ 26 มีนาคม 2556 เวลา 07:53:08 1,546 อ่าน
TOP