เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ พร้อมคณะ เข้าพิสูจน์ซากช้างป่าถูกฆ่าตายในป่าแก่งกระจาน พบลูกช้างในท้อง ขณะที่อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ คาด คนร้ายฆ่าช้างโชว์ หวังให้ ชัยวัฒน์ ถูกเด้งออกนอกพื้นที่
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พบซากช้าง ห่างจากบริเวณที่เคยพบซากช้างตัวเมีย ประมาณ 1 กิโลเมตร โดยสภาพศพช้างถูกตัดหัว และถูกชำแหละเอางาไป ซึ่งช้างตัวดังกล่าว มีอายุประมาณ 20 ปี ตายมาแล้วกว่า 20 วัน คาดว่าน่าจะเป็นการก่อเหตุตามใบสั่งจากนายทุนนั้น
ล่าสุด วันนี้ (10 เมษายน) นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แก่งกระจาน ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และนายสัตวแพทย์จากปศุสัตว์เพชรบุรี ได้เดินทางเข้าไปสำรวจบริเวณที่พบซากช้างเพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายของช้างตัวเมียที่พบก่อนหน้านี้
จากการตรวจพิสูจน์ พบลูกช้างในท้องซากช้างป่า โดยมีรอยกระสุนปืน .22 ที่บริเวณท้อง และมีรูที่กะโหลกช้าง แต่ยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นร่องรอยจากกระสุนปืนหรือไม่ ซึ่งต้องนำกะโหลกช้างไปผ่าพิสูจน์อีกครั้ง แต่ระหว่างนี้จะมีการเก็บหลักฐานในพื้นที่โดยรอบจุดที่พบซากช้าง
ด้าน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกลุ่มนายพรานในพื้นที่ เบื้องต้นคาดว่า เป็นกลุ่มที่ฆ่าแม่ช้างเพื่อเอาลูกช้างที่ก่อเหตุมาตั้งแต่เดือนมีนาคม เพราะระยะเวลาที่ช้างตายใกล้เคียงกันมาก ส่วนกรณีมีข่าวว่า อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ จะตั้งกรรมการสอบกรณีมีเหตุช้างตายในพื้นที่บ่อยครั้งนั้น ตนเองพร้อมให้ตรวจสอบ และยืนยันว่า ได้ทำงานปกป้องช้างอย่างเต็มที่ แม้จะถูกตัดงบประมาณในการลาดตระเวนดูแลภัยคุกคามในพื้นที่อุทยานฯ รวมทั้งงบประมาณช่วยฟื้นฟูแหล่งอาหารช้างก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ในประเด็นที่พบช้างตายดังกล่าวนั้น นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรคทวงคืนผืนป่าประเทศไทย (ทป.) ให้สัมภาษณ์ในฐานะที่เคยเป็นอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งติดตามสถานการณ์เรื่องช้างป่ามาโดยตลอด ว่า การที่ช้างถูกฆ่าอย่างทารุณ และตัดอวัยวะเพศออกไปเช่นนี้น่าจะมีเงื่อนงำมากกว่าการฆ่าช้างเอางา โดยมองว่าอาจเป็นการฆ่าช้างโชว์ นำไปสู่การสั่งย้าย นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ออกจากพื้นที่ เพราะเห็นว่า นายชัยวัฒน์ ปล่อยให้ช้างตายในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยไม่สามารถควบคุมอะไรภายในพื้นที่ได้ หากหลงไปในประเด็นนี้ก็จะเข้าทางของผู้ที่วางแผนทันที
ทั้งนี้ นายดำรงค์ ระบุด้วยว่า ที่ตนเชื่อว่าสาเหตุมาจากเรื่องนี้ก็เพราะตามปกติแล้ว หากต้องการฆ่าช้างเอางาไปขายจริง ๆ จะต้องเข้าไปในป่าลึกกว่านี้ เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องถึง และไม่มีใครได้ยินเสียงปืน แต่จุดที่พบช้างตายนั้นไม่ใช่ป่าลึก คาดว่าคนฆ่าช้างอาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่เผลอแล้วกระทำการดังกล่าวมากกว่า เพื่อให้คนเห็นว่าช้างตายเพราะเจ้าหน้าที่ทำงานบกพร่อง
นอกจากนี้ นายดำรงค์ ยังบอกด้วยว่า นายชัยวัฒน์ ได้โทรศัพท์มาหารือว่าถูกคนโทรมาข่มขู่ฆ่า และบอกให้รีบออกนอกพื้นที่ไป ขณะเดียวกัน นายชัยวัฒน์ ก็ยังถูกคนโจมตีในสังคมออนไลน์ กรณีที่ไปจับชาวบ้านที่บุกรุกพื้นที่ป่าอย่างจริงจัง ดังนั้น จึงคาดว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกันแน่นอน และอยากให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ที่ดูแลเรื่องนี้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย
ส่วนที่จังหวัดลพบุรี นายวสัน กล่อมจินดา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังช้างป่าจำนวน 26 ตัว ที่อาศัยในป่าซับลังกาให้มากขึ้น เกรงจะเกิดเหตุซ้ำรอยเช่นเดียวกับอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เนื่องจากขณะนี้มีกลุ่มพรานที่ล่าลูกช้างและฆ่าช้างเอางาไปขายกำลังอาละวาดอย่างหนักในพื้นที่ภาคกลาง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
