เกิดเหตุระเบิดขึ้นกลางงานแข่งขัน บอสตัน มาราธอน ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกนับร้อยชีวิต ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ประกาศกร้าว เร่งหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์สุดช็อกขึ้นในเมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่กำลังจัดงานแข่งขันวิ่งมาราธอน บอสตัน มาราธอน โดยมีผู้เข้าร่วมงานนับร้อยชีวิต จู่ ๆ ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น พร้อมกับกลุ่มควันพวยพุ่งถึง 2 ครั้งซ้อน บริเวณใกล้เส้นชัยของการแข่งขัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บสาหัส 14 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บที่ถูกส่งตัวไปรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่าง ๆ อีก 134 ราย ด้วย ตามรายงานล่าสุด
โดยผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นติดกัน 2 ครั้ง ภายในเวลาห่างกันไม่ถึง 5 วินาที ผู้คนต่างตื่นตระหนก และวิ่งหนีเอาชีวิตรอดกันแบบชุลมุน
ขณะที่ เชอรีล ฟิอันดาซา โฆษกตำรวจบอสตัน ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมทั้งขอให้ประชาชนออกจากที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้นซ้ำอีก และหนึ่งในผู้เสียชีวิตคือหนูน้อยวัย 8 ปี ที่ก้าวขาเข้าเส้นชัยเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะโดนระเบิดและเสียชีวิตลงในที่สุด ซึ่งทวิตเตอร์ @HopeForBoston ได้โพสต์รูปภาพสุดท้ายก่อนเกิดเหตุ เพื่อเป็นการไว้อาลัยหนูน้อยคนดังกล่าวด้วย
ด้านประธานาธิบดี บารัค โอบามา ก็ออกแถลงถึงกรณีดังกล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์รุนแรงในครั้งนี้ แต่จะเร่งนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีอย่างแน่นอน ทั้งนี้สำนักข่าวกรองมีการเปิดเผยว่าเหตุระเบิดบอสตันดังกล่าว เป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นชาติใด
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันวิ่งมาราธอนดังกล่าว เป็นการแข่งขันครั้งใหญ่ประจำปี ที่แต่ละปีจะมีผู้ร่วมแข่งขันกว่า 25,000 คน โดยปีนี้มีระยะทางในการแข่งขัน 26.2 ไมล์ หรือ 42 กิโลเมตร มีผู้ชมกว่า 5 แสนคน เพื่อฉลองการอพยพออกจากเมืองบอสตัน ในการปฏิวัติอเมริกา
ทั้งนี้เว็บไซต์กูเกิลดอทคอม ได้มีการจัดทำเว็บไซต์สำหรับสำรวจรายชื่อผู้สูญหายจากเหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้แล้ว โดยสามารถเข้าไปใช้งานได้ที่ Google Person Finder และกดเลือกค้นหารายชื่อ หรือเพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลลงไปให้ง่ายต่อการค้นหา ซึ่งเชื่อว่าการเปิดเว็บไซต์ในครั้งนี้จะช่วยให้ญาติของผู้สูญหายตามหาตัวเจอได้ง่ายขึ้น
ขณะที่ สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ก็กำลังวิเคราะห์ภาพถ่ายและภาพวีดิทัศน์ซึ่งบันทึกเหตการณ์ดังกล่าว เพื่อหาเบาะแสของผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ โดยเอฟบีไอจะเป็นแกนนำในการสืบสวนหาเบาะแสดังกล่าวร่วมกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและส่วนกลาง แต่จะยังไม่เปิดเผยข้อมูลในเบื้องต้น
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองบอสตัน สันนิษฐานว่าอาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธมุสลิม หรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล จึงเร่งสำรวจเส้นทางวิ่งมาราธอน 42 กิโลเมตร อย่างละเอียด และปิดพื้นที่โดยรอบจุดเกิดเหตุไว้ก่อนด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก