เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ยังคงเป็นประเด็นร้อนที่คนไทยทุกคนจับตามองอยู่ในขณะนี้ สำหรับคดีเขาพระวิหารที่คณะผู้แทนไทย รวมถึงทีมกฎหมาย ได้เดินทางไปให้ถ้อยแถลงด้วยวาจา ระหว่างวันที่ 15-19 เมษายน 2556 ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งทาง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์อย่างมั่นอกมั่นใจว่า ทีมทนายของไทยนั่นเก่งมาก และจะสามารถชนะคดีนี้ได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ หลังจากเปิดศึกฉากแรก ทางประชาชนชาวไทยก็ใจชื้น เนื่องจากทีมกฎหมายไทยนั้นเตรียมข้อมูลมาอย่างดี แน่น ครบถ้วน และมีเหตุผลหนักพอที่จะคัดค้านถ้อยคำแถลงของประเทศกัมพูชา จนชาวเน็ตแห่ชื่นชมกันยกใหญ่เลยทีเดียว...
สำหรับทีมทนายไทยในการสู้ศึกดังกล่าว นำทีมโดย อแลง แปลเล่ต์ ชาวฝรั่งเศส, โดนัลด์ แมคเรย์ ชาวแคนาดา และ เจมส์ ครอว์ฟอร์ด ชาวออสเตรเลีย ซึ่งมีประสบการณ์อย่างโชกโชนในเวทีศาลโลก ส่วนคนที่ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ นั่นก็คือ วีรชัย พลาศรัย หัวหน้าทีมกฎหมาย ซึ่งเป็นคนไทยเพียงคนเดียว ที่ขึ้นเวทีให้ถ้อยแถลงต่อศาลโลก โดยสื่อมอบฉายาสั้น ๆ ให้ท่านว่า "ทั่นทูตแสบ"
หากยังจำกันได้ ดร.วีรชัย พลาศรัย ผู้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องการต่อสู้คดีปราสาทเขาพระวิหารมาตั้งแต่ที่ประเทศกัมพูชา เริ่มเดินหน้าเรื่องนี้ต่อยูเนสโก เพื่อดันเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยมีผลกระโยชน์แอบแฝงนั่นก็คือหวังฮุบดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทนั่นเอง
ส่วนในศึกดินแดนครานี้ ดร.วีรชัย เตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี ถือเป็นกระบี่มือ 1 ในการให้ถ้อยแถลงในครั้งนี้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันว่า ประเทศไทยได้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลโลกเมื่อปี 2505 แล้ว และทางกัมพูชาก็พอใจกับคำสั่งดังกล่าว แต่ก็เพิ่งจะมามีปัญหา เมื่อทางกัมพูชาอยากจะนำปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของประเทศกัมพูชาแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ชอบธรรม และทำให้กระทบต่ออธิปไตยของประเทศไทย
นอกจากนี้ ดร.วีรชัย พลาศรัย ยังแฉกัมพูชาอีกว่า ทางกัมพูชาพยายามจะนำแผนที่ภาคผนวกมาอ้างอิง ซึ่งแผนที่นั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กันพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่กำลังเป็นข้อพิพาทอยู่เลย หนำซ้ำยังปลอมแปลงเอกสารและนำเอกสารที่ไม่ถูกต้องมายื่นต่อศาลโลกอีก ... ถือว่าเป็นเล่ห์เหลี่ยมที่ ดร.วีรชัย ต้องหาหลักฐานมามัดทางกัมพูชาให้แน่น แล้วนำมาเปิดเผยโต้ง ๆ ต่อศาลโลก อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่จะขึ้นให้ถ้อยแถลงต่อศาลโลก ดร.วีระชัย ระบุว่า "สู้เต็มที่" แต่พอหลังจากที่ขึ้นเวทีแล้ว ก็ระบุสั้น ๆ อีกคำหนึ่งว่า "สนุกแน่"
หากพูดถึงประวัติของ ดร.วีรชัย นั้น ท่านทูตเกิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2503 จบการศึกษาระดับปริญญาตรี และปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยปารีส (นองแตร์) และปริญญาเอกจากซอร์บอนน์ ประเทศฝรั่งเศส เริ่มต้นการทำงานด้วยการเป็นเลขานุการตรี กองแอฟริกาและกลุ่มอาหรับ ต่อจากนั้นก็ไต่เต้ามาเป็นอธิบดีกรมการเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ก่อนที่จะโยกเป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นผู้เจรจาเรื่องเขาพระวิหาร และเป็นผู้ดูแลกรมที่เก็บเอกสารสำคัญระดับชาติ
นอกจากนี้ มีรายงานระบุว่า ในช่วงที่ ดร.วีรชัย พลาศรัย ทำหน้าที่ดูแลเอกสารสำคัญระดับชาตินั้น ได้ขัดขืนคำสั่งจากผู้มีอำนาจที่ขอเอกสารลับของคนแดนไกล แต่ในเมื่อเอกสารลับมันยิ่งใหญ่ระดับชาติ จึงไม่สามารถให้ได้ เพราะขัดจรรยาบรรณต่อหน้าที่การงาน จึงทำให้ ดร.วีรชัย พลาศรัย ถูกพายุทางการเมืองถาโถมไปพักใหญ่เลยทีเดียว จนถูกย้ายให้ไปเป็นทูตประจำกระทรวงแทน
แต่หลังจาก พรรคประชาธิปัตย์ขึ้นเป็นรัฐบาล ดร.วีรชัย พลาศรัย ก็ได้กลับสู่กรมสนธิสัญญาฯ และรับผิดชอบคดีเขาพระวิหารเช่นเดิม อีกทั้งยังได้รับโปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก เป็น 1 ใน 9 ของผู้ได้รับรางวัลเกียรติคุณจากงานราชการ ครุฑทองคำ ประจำปี 2553-2554 ด้วย แถมยังได้รับรางวัล "ผู้เป็นกลางทางการเมือง" โดยปฏิบัติงานโดยยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ เป็นแบบอย่างแก่ข้าราชการทั้งหลาย เรียกได้ว่า ดร.วีรชัย พลาศรัย เป็นข้าราชการที่ตรงเถร ยอมหัก แต่ไม่ยอมงอ ไม่ว่าใครหน้าไหนนั่นเอง
ประวัติ ดร.วีรชัย พลาศรัย
ชื่อ-สกุล : วีรชัย พลาศรัย
เกิดเมื่อวันที่ : 9 มิถุนายน พ.ศ. 2503
สมรสกับ นางอลิซาเบธ พลาศรัย
การศึกษา :
มัธยมศึกษา โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หลักสูตรป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.20)
ปริญญาตรี และปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยปารีส (นองแตร์)
ปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ ฝรั่งเศส
ตำแหน่งปัจจุบัน :
26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 : เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (กรุงเฮก)
การทำงาน และตำแหน่งหน้าที่ :
1 เมษายน พ.ศ. 2547 : รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจ
3 มีนาคม พ.ศ. 2549 : อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
15 กันยายน พ.ศ. 2550 : อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย
28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 : เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง (แทนนายธนาธิป อุปัติศฤงค์ )
19 สิงหาคม พ.ศ. 2551 : อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย (นักบริหาร 10) (แทนกฤต ไกรจิตติ)
26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 : เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (กรุงเฮก)
ตำแหน่งอื่น ๆ :
14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 : กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการประสานงานและกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
ติดตามข่าว คดีเขาพระวิหาร แบบอัพเดททั้งหมด คลิกเลย
คลิป ไทยขึ้นแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลก โพสต์โดย คุณ nationchannel24 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก