เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอบคุณภาพประกอบจาก godvine.com
ใคร ๆ ก็บอกว่าในปัจจุบันนี้เราอยู่อาศัยกันอย่างต่างคนต่างอยู่มากขึ้น ไม่สนใจคนรอบข้างนอกจากตัวเอง แต่หากมองอีกมุมก็คงเป็นในสถานการณ์แบบนี้นี่เองที่ทำให้เราได้ซาบซึ้งตื้นตันไปกับเรื่องราวเล็ก ๆ น่ารักของคุณปู่วัยหลังเกษียณชาวอเมริกัน ที่รับตัดผมให้กับคนไร้บ้านหรือชาวโฮมเลสแบบไม่คิดเงิน แค่แลกกับขอสวมกอดให้ชื่นใจสักครั้งก็พอ
คุณปู่แอนโธนี ไซเมรี่ส์ วัย 82 ปี เป็นที่รู้จักกันดีของชาวโฮมเลสในเมืองฮาร์ทฟอร์ด รัฐคอนเนคติกัต สหรัฐฯ ในนาม "โจ เดอะ บาเบอร์" คุณปู่โจผู้ใจดีที่จะตัดผมให้กับพวกเขาฟรี ๆ
โดยทุก ๆ เย็นวันพุธ คุณปู่แอนโธนี หรือคุณปู่โจ จะขับรถส่วนตัวของตัวมาที่สวนสาธารณะบุชเนล ฝั่งถนนเอลม์สตรีท ที่ซึ่งบรรดาคนไร้บ้านในสภาพผมเผ้ายาวยุ่ง ต่างมานั่งรอคิวเพื่อขอใช้บริการอยู่อย่างพร้อมเพรียงแล้ว เก้าอี้สนามแบบพับได้ตัวย่อมถูกกางออก อุปกรณ์ในการตัดผมครบพร้อม ปัตตาเลี่ยนคู่ใจถูกเชื่อมกับแบตเตอรี่รถยนต์ แล้วคุณปู่ก็ลงมือทั้งตัดผม และโกนหนวดให้กับสหายไร้บ้านที่น่ารักของเขา หลังจากตัดผมเสร็จ คุณปู่เช็ดมือตัวเองด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์ ก่อนจะนวดหน้า นวดคอ นวดไหล่ให้กับลูกค้าของเขาอีกด้วย
คุณปู่โจไม่เคยร้องขอค่าตอบแทนเป็นเงินแม้แต่เซนต์เดียว แต่กลับขอเป็นการสวมกอดให้ชื่นใจสักครั้ง เพียงเท่านี้คุณปู่ก็มีกำลังใจเต็มเปี่ยมที่จะทำงานต่อไป
"มันคือความรักล้วน ๆ เลยล่ะ ผมรักพวกเขา เหตุผลก็มีเท่านี้เอง" คุณปู่โจกล่าว
ทั้งนี้ ปู่โจผู้ใจดี อดีตนักธุรกิจวัยหลังเกษียณ เริ่มตระเวนตัดผมให้กับผู้ยากไร้หรือด้อยโอกาสกว่ามาตั้งแต่ปี 1988 หลังจากได้ฟังคำเทศน์เกี่ยวกับความยากลำบากของคนไร้บ้าน ซึ่งทำให้คุณปู่คิดอยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อพวกเขาบ้าง จึงเริ่มหยิบจับปัตตาเลี่ยนของตนขึ้นมาสำแดงฝีมือ อุปกรณ์คู่ใจที่คุณปู่มีเอาไว้ตัดผมให้เฉพาะคนในบ้าน คุณปู่เริ่มตระเวนตัดผมฟรีที่ศูนย์พักฟื้นผู้ป่วย และศูนย์พักพิงหลายแห่ง ตามมาด้วยที่สมาคมวายเอ็มซีเออยู่อีกหลายปี ก่อนจะมาประจำที่สวนสาธารณะบุชเนลทุก ๆ วันพุธเช่นในปัจจุบัน
นักข่าวจากแหล่งข่าวแห่งหนึ่งพูดถึงการกระทำที่แสนน่าประทับใจของคุณปู่โจว่า การตัดผมอาจเป็นเรื่องเล็ก ๆ ของใครหลาย ๆ คน แต่ที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องใหญ่ไม่เบา โดยเฉพาะกับคนไร้บ้าน เพราะแม้พวกเขาจะอยากหางานทำ แต่ด้วยสภาพผมเผ้ารุงรังอย่างที่เป็นคงไม่มีใครอยากจ้างสักเท่าไรนัก การที่คุณปู่โจมาตัดผมให้ฟรี ๆ จึงไม่เพียงทำให้พวกเขาดูดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังอาจช่วยพวกเขาให้หางานทำได้ง่ายขึ้นด้วย ส่วนอ้อมกอดที่ได้แลกเปลี่ยนกันกัน ก็นับเป็นการมอบความรักและกำลังใจให้กันด้วยนะ น่าชื่นใจจริง ๆ ^^
