เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก baesystems.com
อังกฤษทดลองนำเครื่องบินไร้คนขับ ขนผู้โดยสารบินสู่น่านฟ้าเป็นครั้งแรก ด้านผู้ผลิตคาด สามารถนำระบบควบคุมเครื่องบินผ่านรีโมทคอนโทรลมาใช้ได้จริงในอีก 5-10 ปีข้างหน้า
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ มีรายงานว่า เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา อังกฤษได้มีการทดลองนำเครื่องบินโดยสารไร้คนขับขนาด 16 ที่นั่งซึ่งถูกควบคุมผ่านรีโมทคอนโทรล พาผู้โดยสารขึ้นบินเป็นครั้งแรก เป็นระยะทางไป-กลับเกือบ 800 กิโลเมตร จากแลงคาเชียร์ ถึงอินเวอร์เนส ซึ่งเป็นครั้งแรกของประวัติสาสตร์การบินที่เครื่องทีมีผู้โดยสารถูกนำขึ้นบินบนฟ้าโดนไร้นักบิน
โดยการควบคุมทั้งหมด นักบินซึ่งผ่านการฝึกฝนจะทำการบังคับควบคุมเครื่องบินผ่านหน้าจอความละเอียดสูง สัญญาณวิทยุ และแผงควบคุมต่าง ๆ อยู่ในห้องคนขับที่ตั้งอยู่บนภาคพื้นดิน อีกทั้งหากสัญญาณการเชื่อมต่อหายไป เครื่องบินก็ถูกตั้งระบบให้นำเครื่องบินลงจอดอย่างปลอดภัยด้วยตัวของมันเอง ซึ่งนี่ก็คืออนาคตของการบินสำหรับอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ขณะที่มีคนคาดว่าระบบควบคุมเครื่องบินผ่านรีโมทคอนโทรลจะสามารถนำมาให้บริการในเครื่องบินพาณิชย์ได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่การคาดการณ์นั้นกลับทำให้หลาย ๆ คนเกิดความกังวลใจ ด้วยความคิดว่าผู้โดยสารอาจจะต้องพบกับความเสี่ยงจากความผิดพลาดของระบบคอมพิวเตอร์ รวมทั้งยังเป็นเรื่องเสี่ยงที่เครื่องบินจะถูกยึดโดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายไซเบอร์อีกด้วย
แต่ถีงอย่างนั้น กลุ่มผู้ที่สนับสนุนโครงการเครื่องบินอัตโนมัตินี้ ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าระบบควบคุมผ่านรีโมทคอนโทรลนี้มีความปลอดภัยสูง ทั้งยังชี้แจงด้วยว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการบินนั้นส่วนมากมักจะมาจากความผิดพลาดของนักบิน การตัดนักบินออกไปจากระบบจึงทำให้การบินมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับการทดสอบการบินที่ผ่านมานั้น ถูกดำเนินการภายใต้โครงการแอสเทรีย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระบบการประเมินผลการบินที่เกี่ยวข้องอัตโนมัติและโปรแกรมการประเมิน ที่ถูกก่อตั้งขึ้นโดยอุตสาหกรรมการบินและรัฐบาลอังกฤษ
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ระบบการบินนี้ ได้รับการทดสอบมาแล้วในเครื่องบิน 11 ลำ จาก 80 เที่ยวบินตลอดช่วงปีที่ผ่านมา ทั้งในด้านภารกิจค้นหาและกู้ภัย ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่ามันมีความปลอดภัยเทียบเท่ากับการใช้นักบินเข้าไปขับจริง ๆ และนั่นก็ทำให้ทางบริษัทผู้ผลิตเชื่อว่าเครื่องบินไร้คนขับนี้ จะสามารถนำมาใช้ได้จริงภายใน 5-10 ปี สำหรับการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เช่น การตรวจสอบสภาพอากาศ เมฆ หรือเถ้าภูเขาไฟ รวมทั้งในภารกิจค้นหาและกู้ภัย ก่อนจะนำมาใช้จริงในเที่ยวบินพาณิชย์หลังจากนั้น
ด้าน แลมเบอร์ท ดอพพิง เฮเพนส์เทล ผู้อำนวยการโปรแกรมระบบการบินนี้ เผยว่า แม้ในตอนนี้ระบบการบินดังกล่าวจะยังไม่สามารถนำมาใช้จริงกับผู้โดยสาร แต่ไม่ช้ามันจะเปลี่ยนไป โดยเฉพาะเมื่อลองพิจารณาถึงประโยชน์อื่น ๆ ที่จะได้รับหลังจากการนำระบบเครื่องบินไร้คนขับนี้มาใช้ ดังเช่น การประหยัดเงิน เพราะในการควบคุมที่ภาคพื้นดินนั้น การใช้นักบินเพียงคนเดียวก็สามารถดูแลควบคุมเครื่องบินได้หลายลำในเวลาเดียวกันแล้ว นอกจากนี้ระบบคอมพิวเตอร์ยังต่างจากมนุษย์อีกมาก ตรงที่คอมพิวเตอร์ไม่รู้จักเหนื่อย ไม่ต้องพักไปเข้าห้องน้ำ ไม่มีสหภาพแรงงานและไม่ต้องการพักผ่อน นั่นเอง
