เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก luangpunenkham.com
ปอท. เผย ภาพเณรคำกับผู้หญิงเป็นการตัดต่อหรือไม่ รู้ผลชัด 8 กรกฎาคมนี้ ด้านสาวอ้างเป็นภรรยาหลวงปู่เณรคำ แฉ พระดังตามจีบตั้งแต่เรียนอยู่ ม.2 พาไปมีเซ็กส์ด้วยหลายครั้ง DSI เร่งสอบ จ่อเจอโทษหนัก หากมีสัมพันธ์กับเด็กอายุไม่ถึง 15 ปี
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2556 พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม กล่าวความคืบหน้าคดี พระวิรพล สุขผล หรือ พระเณรคำ ฉัตติโก ประธานสำนักสงฆ์ขันติธรรม ว่าตอนนี้ก็เร่งตรวจสอบในหลายประเด็นทั้งเรื่องการเงิน ทรัพย์สินต่าง ๆ เรื่องรูปภาพที่ถ่ายคู่กับหญิงสาวที่ลูกศิษย์นำมาให้ตรวจสอบ และในประเด็นเรื่องชู้สาว ส่วนข้อมูลการเงินที่ได้จะเพิ่มเติมจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. หรือไม่ และจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้หรือไม่นั้น ต้องรอสรุปผลในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม คดีนี้ไม่เกรงว่าในการทำงานจะทับซ้อนกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพราะถือเป็นคดีฉ้อโกงธรรมดา
ด้าน พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) กล่าวถึงการตรวจสอบรูปภาพพระเณรคำกับหญิงสาวที่เผยแพร่ในสังคมออนไลน์ ว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพที่มีการส่งต่อกันมา ไม่ใช่ภาพต้นฉบับ จึงต้องขอเวลาในการตรวจสอบหาที่มา ประมาณ 1 สัปดาห์คาดว่าจะทราบผล โดยจะติดตามความคืบหน้าในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ ทั้งนี้ หากพบว่าเป็นภาพจริงไม่ได้ตัดต่อ ผู้ที่โพสต์จะไม่เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่อาจเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งพระเณรคำจะต้องมาแจ้งความเอง หรือมอบอำนาจผู้อื่นมาแจ้งความ
ทั้งนี้ ในประเด็นเรื่องที่มีผู้หญิงคนหนึ่งออกมาระบุว่าพระเณรคำเป็นพ่อของลูกนั้น ทาง พระครูวัชระสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดป่าศรีสำราญ และเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุติ ซึ่งเป็นเลขานุการคณะกรรมการสอบสวนอธิกรณ์พระเณรคำ ระบุว่า หากทั้ง 2 คน เป็นลูกเมียของพระวิรพลจริง ก็ถือว่า ขณะนี้ พระเณรคำ ปาราชิก ขาดจากความเป็นพระแล้ว ซึ่งในส่วนของพระธรรมวินัย ก็จะต้องดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงกันต่อไป ทั้งพยานหลักฐาน เจตนา และการถึงที่สุดแห่งกรรม
ส่วนที่มีข่าวมาว่า พระเณรคำ มีการส่งเสียค่าเลี้ยงดูมาก่อนแล้วนั้น ก็จะต้องสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน และการที่บรรดาลูกศิษย์ของพระวิรพลออกมาแจ้งให้ตรวจสอบรูปที่พระวิรพลนอนกับผู้หญิงนั้น หากรูปภาพเป็นภาพจริง ไม่มีการตัดต่อ จะนำพระวิรพลมาสึกต่อมหาเถรสมาคมนั้น ทั้งนี้ เรื่องนี้ถือว่าเป็นการดีที่จะได้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ทำให้สังคมหายจากความแคลงใจ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องทั้งหมดก็จะต้องว่ากันไปตามพระธรรมวินัยอยู่แล้ว
ด้าน นายวีระ ดาวสี นักวิชาการศาสนาชำนาญการ ระบุว่า หากตรวจสอบพบว่าพระเณรคำมีลูกเมียแล้วจริง จะต้องพ้นจากความเป็นพระ เพราะเป็นความผิดร้ายแรง โดยจะรายงานข้อมูลและหลักฐานต่อที่ประชุมคณะกรรมการสอบอธิกรณ์พระเณรคำต่อไป พร้อมกับตรวจสอบสาขาที่พักสงฆ์สันติธรรม จังหวัดศรีสะเกษ ทั้ง 11 สาขาด้วยว่าปัจจุบันยังมีพระสงฆ์อยู่หรือไม่
ขณะเดียวกัน ในช่วงบ่ายวันนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เดินทางไปพบ นางสาวเอ (นามสมมติ) ที่จังหวัดศรีสะเกษ หลังออกมาอ้างว่าเป็นภรรยาของหลวงปู่เณรคำ
โดยนางสาวเอ ยืนยันว่า ตนเองเคยมีสัมพันธ์กับพระเณรคำตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.2 เพราะเคยไปทำบุญแล้วได้รู้จักกัน ก่อนที่พระเณรคำจะตามจีบ จากนั้นก็แอบคบหากันจนมีเพศสัมพันธ์กับพระชื่อดังบนรถ และยังมีความสัมพันธ์กันอีกหลายครั้ง
นางสาวเอ เล่าให้ฟังด้วยว่า ทุกครั้งที่พระเณรคำมาหาและพาไปมีเพศสัมพันธ์ด้วยที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี ก็จะให้เงินตนครั้งละ 1,000-1,500 บาท เมื่อทราบว่าตนตั้งครรภ์แล้วก็ยังมาเช่าบ้านที่จังหวัดอุบลราชธานีให้อยู่ จนกระทั่งคลอดลูก
ด้าน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า จากข้อมูลที่พบเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้ที่เคยมีการเผยแพร่ภาพพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น นั่งเครื่องบินเจ็ท ใช้ข้าวของแบรนด์เนม ดูจะเป็นเรื่องเล็กไปแล้ว เพราะหากพระเณรคำมีพฤติกรรมพัวพันกับเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปีจริง จะถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่มีโทษร้ายแรงจำคุกถึง 20 ปี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก