ขอขอบคุณภาพประกอบจาก HO / NTSB / AFP
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2556 สำนักข่าวบีบีซี เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบินเอเชียน่า แอร์ไลน์ส ตกกระแทกรันเวย์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า นักบินไม่ได้สั่งอพยพผู้โดยสารทันทีที่เกิดเหตุ แต่รอนานถึง 90 วินาที หลังจากเครื่องตกกระแทกพื้นและหยุดชะงักแล้ว
โดยเดบอราห์ เฮิร์สแมน ประธานของคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการคมนาคมแห่งชาติสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่า จากการสอบสวนแอร์โฮสเตสของเครื่องบินโบอิ้ง 777 เที่ยวบินที่ 214 นั้น พบว่าหลังจากเครื่องบินตกกระแทกพื้นแล้ว นักบินได้แจ้งให้ผู้โดยสารทุกคนนั่งอยู่กับที่ ไม่ได้เปิดประตูเครื่องบินทันทีที่เกิดเหตุ กระทั่งเวลาผ่านไป 90 วินาที พวกเขาถึงกลับคำสั่งให้ผู้โดยสารอพยพ เมื่อแอร์โฮสเตสบอกพวกเขาว่ามีควันและเปลวเพลิงอยู่ด้านนอกหน้าต่าง ซึ่งจากการตัดสินใจของนักบินดังกล่าว นับว่าช้ามาก เพราะตามมาตรฐานแล้ว เมื่อเกิดเหตุร้ายใด ๆ นักบินจะต้องสั่งอพยพผู้โดยสารให้เสร็จสิ้นภายใน 90 วินาที
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลการบินยังพบว่า เครื่องบินมีการเปิดระบบการบินอัตโนมัติหลายช่วงตลอดการเดินทาง ซึ่งมากผิดปกติ โดยเฮิร์สแมนเผยว่า แม้ว่าเครื่องบินจะมีระบบการบินอัตโนมัติเป็นตัวช่วยนักบิน นักบินก็ยังมีหน้าที่ต้องควบคุมเครื่องบินอยู่ดี
ทั้งนี้ จากการสืบสวนลักษณะการร่อนลงกระแทกรันเวย์ของเครื่องบินโบอิ้ง 777 พบว่า ในช่วงวินาทีที่เกิดเหตุ ล้อของเครื่องบินได้ชนเข้ากับขอบรันเวย์ในระดับต่ำเกินไป และทำให้เครื่องบินตกกระแทกและไถลไปเบื้องหน้า ซึ่งทันทีที่เกิดเหตุ ลูกเรือ 2 คนได้กระเด็นออกจากด้านหลังเครื่องบินสู่รันเวย์เบื้องล่าง และพวกเขาก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยด้วย