เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก LINE Thailand - Official
ยิ่งลักษณ์ ยัน รัฐบาลไม่จำกัดสิทธิคนใช้ Line และมองว่าแอพพลิเคชั่นไม่เป็นภัยต่อความมั่นคง ด้าน ผบก.ปอท. เผย สั่งจับตาไลน์มือถือ เฉพาะกลุ่มธุรกิจสีเทาและกลุ่มการเมือง ที่หมิ่นเหม่ความมั่นคงเท่านั้น
วันที่ 13 สิงหาคม 2556 พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่า ปอท. จะคุมเข้มการใช้โปรแกรม LINE ทางโทรศัพท์มือถือ รวมถึงเครือข่ายสังคมออนไลน์อื่น ๆ เพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมนั้น พล.ต.ต.พิสิษฐ์ ยืนยันว่า จะดำเนินการดังกล่าวกับผู้ที่ใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดเท่านั้น โดยยึดถือตามแนวปฏิบัติ 3 ข้อ คือ
1. การใช้งานที่กระทบความมั่นคงของรัฐ
2. การใช้งานที่กระทบความสงบเรียบร้อยของประชาชน
3. การใช้งานที่กระทบศีลธรรมอันดีงามของประชาชน
ซึ่งจะไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามที่หลายฝ่ายกังวลอย่างแน่นอน เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายอาญาในการสืบสวนสอบสวน โดยขณะนี้ได้มีการประสานขอความร่วมมือจากผู้ให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับมีการประสานงานกันระหว่าง ศูนย์โซเชียลมีเดียของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกับทาง ปอท. เพื่อดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่ได้ทำการปล่อยข่าวลือต่าง ๆ ที่กระทบความมั่นคง รวมถึงใช้ในการกระทำผิดด้านค้าอาวุธที่ผิดกฎหมาย ซื้อขายยาเสพติด การค้าประเวณี และการซื้อขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
ด้านนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในวันนี้ (13 สิงหาคม 2556) ว่า เรื่องนี้ตนเพิ่งทราบได้ไม่นาน ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดที่ชัดเจน แต่ขอยืนยันว่า เรายังยืนยันในเรื่องสิทธิเสรีภาพ และไม่มองเรื่องแอพพลิเคชั่นในด้านความมั่นคง แต่จะมองในเรื่องบุคคลมากกว่า
ขณะที่ นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า ตนมองว่าการตรวจสอบดังกล่าวจะสุ่มเสี่ยงที่จะละเมิดสิทธิบุคคลอื่นได้ง่าย เพราะการสนทนานั้นส่วนใหญ่เป็นการคุยกันในเรื่องเฉพาะตัว การเข้ามาตรวจสอบข้อมูลในโปรแกรมแชทก็เหมือนการดักฟังโทรศัพท์ ดังนั้นถ้าจะทำจริงก็ต้องวางกรอบแนวทางในการตรวจสอบให้ชัดเจนและต้องคำนึงถึงสิทธิของผู้อื่นด้วย
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้เกี่ยวพันกับที่ทาง บก.ปอท. ได้ออกหมายเรียก 4 บุคคล ที่โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการปฏิวัติผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งกรณีนี้มีการร้องเรียนมายังคณะกรรมการสิทธิฯ โดยนางอมรากล่าวว่า จะหยิบยกประเด็นดังกล่าว เข้าร่วมพิจารณาด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก